ซีพีแรม ขับเคลื่อน 'ป่า-คน-เศรษฐกิจ' เร่งปลูกป่า 1.2 แสนต้น-สร้างงาน 1,500 อัตรา

ซีพีแรม เดินหน้าโครงการ "ปลูกเพื่อโลกยั่งยืน" เกินครึ่งทาง สู่เป้าหมาย 120,000 ต้น พร้อมเปิดโรงงานแห่งใหม่ที่อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ผสานการเติบโตทางธุรกิจกับการสร้างความยั่งยืนในชุมชนอย่างบูรณาการ ทั้งด้านการศึกษา การสร้างอาชีพ และการรับซื้อวัตถุดิบท้องถิ่น ชูการศึกษาเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนา
KEY
POINTS
- ซีพีแรมดำเนินโครงการ "ปลูกเพื่อโลกยั่งยืน" ตั้งเป้าปลูกต้นไม้ 120,000 ต้นภายใน 10 ปี เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero โดยปัจจุบันปลูกไปแล้วกว่าครึ่งทาง
- เตรียมจัดตั้งโรงงานแห่งใหม่ที่อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ซึ่งคาดว่าจะสร้างการจ้างงานในพื้นที่ได้ประมาณ 1,500 อัตรา โดยให้ความสำคัญกับคนในพื้นที่เป็นอันดับแรก
- การตั้งโรงงานใหม่ยังมุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน ผ่านการรับซื้อวัตถุดิบจากเกษตรกรในพื้นที่ และการมอบทุนการศึกษาพร้อมการันตีการจ้างงาน
บริษัท ซีพีแรม จำกัด (CPRAM) ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจที่ผูกโยงกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างลึกซึ้ง โดยชูสองเสาหลักสำคัญ ได้แก่ การจัดการสิ่งแวดล้อมผ่านโครงการปลูกป่าขนาดใหญ่ และกลยุทธ์การขยายธุรกิจเพื่อการพัฒนาชุมชนแบบองค์รวม
"ปลูกเพื่อโลกยั่งยืน" ภารกิจสีเขียวสู่ Net Zero 2050
โครงการ "ปลูกเพื่อโลกยั่งยืน" ถือเป็นความมุ่งมั่นด้านสิ่งแวดล้อมที่ซีพีแรมดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Sink) และสนับสนุนเป้าหมายการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Net Zero) ภายในปี 2050 ของเครือเจริญโภคภัณฑ์
วิเศษ วิศิษฏ์วิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด กล่าวว่าโครงการนี้มีเป้าหมายระยะยาวที่ชัดเจนคือการปลูกต้นไม้ให้ครบ 120,000 ต้น ภายในระยะเวลา 10 ปี (พ.ศ. 2564 – 2573) โดยปัจจุบันได้ปลูกไปแล้วกว่า 65,000 ต้น ทั่วประเทศ ซึ่งถือว่ามีความคืบหน้าเกินครึ่งทางของเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยล่าสุดได้มีการจัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ยืนต้นและแจกจ่ายพันธุ์กล้ากว่า 1,000 ต้นในพื้นที่อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ นอกจากนี้ ยังมีโครงการคู่ขนาน "แสนกล้าสู่แสนต้น" ซึ่งได้แจกจ่ายกล้าไม้ไปแล้วมากกว่า 87,000 ต้น เพื่อส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูกในพื้นที่ของตนเอง
ทั้งนี้ยังให้ความสำคัญกับการปลูกป่าอย่างยั่งยืน โดยมีการคัดเลือกพันธุ์ไม้ที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของแต่ละพื้นที่ ทั้งป่าบกและป่าชายเลน ("ปลูกบกกับปลูกทะเลด้วย") และมีการเลือกพันธุ์ไม้ที่มีประโยชน์ใช้สอย เช่น ต้นขี้เหล็ก ที่สามารถนำใบมาประกอบอาหารได้ ซึ่งการดำเนินงานนี้ยังสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) ทั้งในมิติของการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (SDG 13) และการอนุรักษ์ระบบนิเวศบนบก (SDG 15) และยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้าง "การมีส่วนร่วมของชุมชน" ในการดูแลรักษาป่า เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาว
การขยายธุรกิจสู่ "กระบี่" โมเดลการพัฒนาชุมชนเชิงบูรณาการ
ซีพีแรมกำลังดำเนินการจัดตั้งโรงงานแห่งใหม่ที่ตำบลเขาใหญ่ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ เพื่อรองรับตลาดฝั่งอันดามันและลดระยะทางการขนส่ง การตัดสินใจเลือกพื้นที่นี้ไม่ได้เป็นเพียงการขยายฐานธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นไปเพื่อการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน โดยจังหวัดกระบี่ได้รับความสนใจจากศักยภาพด้านสิ่งแวดล้อมที่ยอดเยี่ยมและมีค่า PM 2.5 ต่ำที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมที่คาดหวัง
- การสร้างงานและกระตุ้นเศรษฐกิจ: การตั้งโรงงานคาดว่าจะก่อให้เกิดการจ้างงานประมาณ 1,500 ตำแหน่ง โดยบริษัทมีนโยบายให้ความสำคัญกับการจ้างงานคนในพื้นที่เป็นอันดับแรก ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับคนในชุมชน และกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ผ่านการหมุนเวียนของเงิน เช่น การเช่าที่พักอาศัยและการเกิดร้านค้าชุมชนเพื่อรองรับพนักงาน
- การสนับสนุนวัตถุดิบท้องถิ่น: โรงงานใหม่จะทำหน้าที่เป็นกลไกในการรับซื้อวัตถุดิบจากเกษตรกรในชุมชนโดยตรง เพื่อนำมาใช้ในการผลิต เช่น การรับซื้อ ใบกะเพรา ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในเมนูยอดนิยม และการรับซื้อ ใบเหลียง ซึ่งเป็นผลผลิตที่พบมากในสวนยางและสวนปาล์มในภาคใต้ เพื่อนำไปแปรรูปและจำหน่ายในภาคกลาง เป็นการสร้างรายได้เสริมให้แก่เกษตรกรในพื้นที่
- การลงทุนด้านการศึกษาและบุคลากร: บริษัทให้ความสำคัญกับหลักคิดที่ว่า "การศึกษาเป็นต้นทางของความเจริญทุกๆ ด้าน" โดยได้จัดโครงการมอบทุนการศึกษาฟรีระดับ ปวช. 3 ปี ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ (CPR) ให้แก่เยาวชนในพื้นที่ เมื่อสำเร็จการศึกษาจะได้รับการการันตีการเข้าทำงานที่โรงงานกระบี่ในตำแหน่งระดับเทคนิเชียนหรือผู้บังคับบัญชาสายงาน และยังส่งเสริมผู้มีผลการเรียนดีให้เรียนต่อระดับปริญญาตรีที่สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) เพื่อสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพสู่การเป็นผู้บริหารในอนาคต
ธีระ ชูเชิด ปลัดอาวุโสอำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ กล่าวสนับสนุนกิจกรรมปลูกต้นไม้ของซีพีแรมว่าเป็นการส่งเสริมเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับอำเภออ่าวลึก ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย "กระบี่ โกกรีน" (Krabi Go Green) ของจังหวัด และแสดงความคาดหวังว่าการตั้งโรงงานจะช่วย "สร้างการจ้างงาน สร้างงาน และสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน" ซึ่งคนในพื้นที่ก็จะได้ทำงานในพื้นที่ของตนเอง
ความยั่งยืนที่ถักทอจากรากฐานชุมชน
การดำเนินงานของซีพีแรมทั้งในโครงการปลูกป่าที่ก้าวหน้าไปกว่าครึ่งทาง และการตัดสินใจขยายฐานการผลิตสู่จังหวัดกระบี่ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นว่า "ธุรกิจที่ดีต้องเติบโตไปพร้อมกับสังคมและสิ่งแวดล้อม" การลงทุนในพื้นที่อ่าวลึกจึงไม่ใช่แค่การเพิ่มกำลังผลิต แต่เป็นการสร้างระบบนิเวศทางเศรษฐกิจและสังคมที่เกื้อกูลกัน ตั้งแต่การดูแลสิ่งแวดล้อมให้ยังคงความบริสุทธิ์ การสร้างงานสร้างรายได้ให้คนท้องถิ่น การพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกรผ่านการรับซื้อผลผลิต และการลงทุนด้านการศึกษาเพื่อสร้างผู้นำและบุคลากรคุณภาพให้กับชุมชนเองในระยะยาว โดยมี "ความยั่งยืน" เป็นเป้าหมายสูงสุดที่ขับเคลื่อนการตัดสินใจในทุกมิติ







