ข้อมูลจากอวกาศช่วยโลก ดาวเทียมกุญแจจัดการสิ่งแวดล้อม ภายใต้หลัก 5Ms

ข้อมูลจากอวกาศช่วยโลก ดาวเทียมกุญแจจัดการสิ่งแวดล้อม ภายใต้หลัก 5Ms

เทคโนโลยีอวกาศและดาวเทียมมีบทบาทสำคัญในการเฝ้าระวัง วิเคราะห์ และคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศโลก

KEY

POINTS

  • เทคโนโลยีอวกาศและดาวเทียมมีบทบาทสำคัญในการเฝ้าระวัง วิเคราะห์ และคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศโลก
  • ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) จากดาวเทียมนับหมื่นดวงช่วยให้สามารถติดตามปัญหาสิ่งแวดล้อมต่างๆ เช่น ฝุ่น PM2.5 การขยายตัวของเมือง และการเปลี่ยนแปลงพื้นที่สีเขียวได้อย่างต่อเนื่อง
  • การใช้ข้อมูลจากดาวเทียมเพื่อจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนอาศัยหลักการ 5Ms ได้แก่ การเฝ้าระวัง (Monitor) การทำแผนที่ (Map) การวัดผล (Measure) การสร้างแบบจำลอง (Model) และการจัดการ (Manage)
  • ข้อมูลที่ได้นำไปสู่การวางแผนที่เป็นรูปธรรม ทั้งการวางผังเมือง การปกป้องสิ่งแวดล้อม และการรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ

ในยุคที่โลกกำลังเผชิญกับวิกฤติสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรง ทั้งปัญหาโลกร้อน ภัยธรรมชาติที่เกิดถี่ขึ้น การละลายของธารน้ำแข็ง และการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ เทคโนโลยีอวกาศและดาวเทียมจึงมีบทบาทสำคัญยิ่งในการเฝ้าระวัง วิเคราะห์ และคาดการณ์ความเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างแม่นยำ ข้อมูลจากดาวเทียมไม่เพียงช่วยให้นักวิทยาศาสตร์และหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมสามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศได้แบบเรียลไทม์ แต่ยังเป็นพื้นฐานสำคัญในการกำหนดนโยบาย การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และการรับมือกับภัยพิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาและความยั่งยืนของโลกในอนาคต

"ดร.ปกรณ์ เพ็ชรประยูร" ผู้อำนวยการ สำนักพัฒนานวัตกรรมภูมิสารสนเทศ ภายใต้สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ สทอภ. (GISTDA) ได้เปิดมุมมองในหัวข้อ Space and Wellness: Leveraging Geo-Informatics for Healthier and Sustainable Living ผ่านเวที CHG Global Summits 2025 โดยเน้นย้ำว่า เทคโนโลยีอวกาศที่คนคิดว่าไกลตัว แต่กลับเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายความยั่งยืนได้

ทั้งนี้ งาน CHG Global Summits 2025 จัดขึ้นภายใต้แนวคิดหลัก “Connecting Ideas · Empowering Nations” ระหว่างวันที่ 21–24 ตุลาคม 2025 ที่รวม 7 สาขาหลักไว้ในงานเดียว ได้แก่ สุขภาพและสุขภาวะ การท่องเที่ยว การศึกษา สตาร์ทอัพ เศรษฐกิจ พลังงาน และการลงทุน โดยมุ่งสร้างเครือข่ายความร่วมมือระดับโลก แลกเปลี่ยนมุมมองด้านนวัตกรรม เศรษฐกิจ และความยั่งยืน เพื่อขับเคลื่อนโลกสู่อนาคตร่วมกันอย่างสมดุลและยั่งยืน

พลังของข้อมูลขนาดใหญ่

“ดร.ปกรณ์” กล่าวว่า ปัจจุบันมีดาวเทียมมากกว่า 10,000 ดวงโคจรรอบโลก และหลายดวงทำหน้าที่เก็บรวบรวมข้อมูลมหาศาลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม ครอบคลุมมากกว่า 55 พารามิเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นการวัดอุณหภูมิ ความเร็วลม ฝน ความชื้น และทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติและสุขภาพของมนุษย์

เทคโนโลยีดาวเทียมทำให้สามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมได้อย่างต่อเนื่องและครอบคลุม ดาวเทียมค้างฟ้าที่ประจำการอยู่เหนือศีรษะสามารถส่งข้อมูลทุก 10-15 นาที ในขณะที่ดาวเทียมโคจรให้ความละเอียดสูงถึง 15 เมตร ทำให้สามารถมองเห็นรายละเอียดที่สำคัญได้

“เทคโนโลยีดาวเทียมและการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่เป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง แต่เครื่องมือเหล่านี้จะมีประโยชน์จริงก็ต่อเมื่อเรานำมาใช้อย่างชาญฉลาดและจริงจัง ทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับชีวิต และที่เกี่ยวข้องกับปัญหาทรัพยากรธรรมชาติ ปัญหาสิ่งแวดล้อม และปัญหาโรคภัยไข้เจ็บ คือ Big Data ที่เชื่อมโยงโดยตรงกับชีวิต สุขภาพ และอนาคต”

วิกฤติ ไม่มีเวลาให้รอ

“ดร. ปกรณ์” กล่าวด้วยว่า เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ และผู้คนต้องหาทางแก้ไข ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต้องถูกแก้ไขและต้องหยุดในยุคของเรา ส่งต่อไปสู่คนรุ่นใหม่ไม่ได้ เพราะจะสายเกินไป

“พวกเราต้องวางแผนตั้งแต่วันนี้ แต่วันนี้ก็สายเกินไปแล้ว ความยั่งยืนเป็นการเดินทางอย่างต่อเนื่องที่ต้องอาศัยทั้งเทคโนโลยี ข้อมูล และที่สำคัญที่สุดคือความร่วมมือระหว่างทุกภาคส่วน เมื่อเรามีข้อมูลที่ดี มีความร่วมมือที่ดี ก็จะมีชีวิตที่ดีและมีความสุข สิ่งแวดล้อมที่สมดุล และสังคมที่ยั่งยืนได้”

การเฝ้าติดตามพื้นที่เผาไหม้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน พื้นที่เหล่านี้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และฝุ่น PM2.5 ซึ่งเป็นอันตรายอย่างมาก อนุภาคฝุ่นละอองขนาดเล็กสามารถเข้าไปในร่างกาย หัวใจ และสมองด้วย ผลกระทบต่อสุขภาพเหล่านี้มักไม่เกิดขึ้นทันที แต่สะสมอย่างช้าๆ ในระยะยาว แม้ว่าประเทศไทยจะเริ่มตระหนักถึงปัญหา PM2.5 เจ็ดปีที่ผ่านมา แต่ข้อมูลดาวเทียมสามารถย้อนรอยความรุนแรงของปัญหานี้ได้ยาวนานกว่า 20 ปี โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือและบริเวณรอยต่อสามประเทศ

ความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลดาวเทียมการกระจายตัวเชิงพื้นที่และเชิงเวลาทำให้นักวิจัยศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างสภาพแวดล้อมในอดีตกับปัญหาสุขภาพในปัจจุบันได้ ซึ่งเซนเซอร์ทั่วไป เช่น เทอร์โมมิเตอร์ในโทรศัพท์ อาจบอกข้อมูล ณ เวลานั้นได้ แต่ไม่สามารถย้อนกลับไปในอดีตได้

การวางแผนเมืองยั่งยืน

“ดร. ปกรณ์” กล่าวด้วยว่า ข้อมูลจากดาวเทียมเกี่ยวกับการใช้ที่ดินและการปกคลุมที่ดินเป็นเครื่องมือสำคัญในการวางแผนเมืองที่ยั่งยืน สามารถติดตามการขยายตัวของเมือง การเปลี่ยนแปลงของพื้นที่สีเขียว และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างเป็นระบบ

“ประเทศไทยมีดาวเทียม 2 ดวง และสามารถเข้าถึงข้อมูลจากดาวเทียมนานาชาติอีกมากมาย ข้อมูลเหล่านี้ให้ภาพแบบเกือบเรียลไทม์ ที่ช่วยให้ผู้กำหนดนโยบายประเทศวางแผนเมืองตัดสินใจได้อย่างทันท่วงทีและถูกต้อง”

กระบวนการ 5M

“ดร. ปกรณ์” กล่าวถึงกระบวนการ 4 ขั้นตอนที่สำคัญ ได้แก่ การเฝ้าติดตาม (Monitor), การทำแผนที่ (Map), การวัดผล (Measure), และการสร้างแบบจำลอง (Model) แต่ทั้งสี่อย่างนี้จะไม่มีประโยชน์เลยหากไม่สามารถจัดการ (Manage) ข้อมูลเหล่านั้นได้ การจัดการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพต้องนำไปสู่การกระทำที่เป็นรูปธรรม คือ

  • การวางแผนที่ดีสำหรับเมือง - ออกแบบพื้นที่เมืองที่สมดุล มีพื้นที่สีเขียวเพียงพอ และระบบสาธารณูปโภคที่เหมาะสม
  • การวางแผนที่ดีสำหรับสิ่งแวดล้อม - ปกป้องพื้นที่ป่าไม้ แหล่งน้ำ และระบบนิเวศที่สำคัญ
  • การรับมือกับภัยธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ - เตรียมพร้อมและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ

“หากทำได้ สามารถทำแผนที่ได้ สามารถระบุความเสียหายได้มากขึ้น และเฝ้าติดตามการเปลี่ยนแปลง ก็สามารถจัดการได้ และเมื่อสามารถจัดการได้ ชีวิต อารยธรรม ประชาชนก็จะดีขึ้นในอนาคต หากเข้าใจแหล่งที่มาของมลพิษและสภาพแวดล้อมอย่างแท้จริง ก็สามารถจัดการและแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนำไปสู่อารยธรรมที่ดีขึ้นในอนาคต”

 

 

ผู้เขียน: ศุภชัย วงษ์โนนงิ้ว นักศึกษาฝึกงาน กรุงเทพธุรกิจ