พบ ‘นกเจอร์ดอนส์คอร์เซอร์’ ที่น่าจะสูญพันธุ์ไปแล้ว ด้วยเครื่องบันทึกเสียง

พบ ‘นกเจอร์ดอนส์คอร์เซอร์’ ที่น่าจะสูญพันธุ์ไปแล้ว ด้วยเครื่องบันทึกเสียง

พบนกเจอร์ดอนส์คอร์เซอร์ ที่น่าจะสูญพันธุ์ไปแล้ว ด้วยการบันทึกเสียงร้อง นักปักษีวิทยาเร่งตามหาตัวจริงให้พบเพื่ออนุรักษ์

KEY

POINTS

  • มีการค้นพบนกเจอร์ดอนส์คอร์เซอร์อีกครั้งในประเทศอินเดีย หลังจากที่เคยคาดว่าสูญพันธุ์ไปแล้วเนื่องจากไม่มีผู้พบเห็นมานานกว่า 20 ปี
  • การค้นพบครั้งนี้ไม่ได้มาจากการมองเห็นตัวนกโดยตรง แต่เป็นการใช้เครื่องบันทึกเสียงเพื่อบันทึกเสียงร้องของนกที่หากินในเวลากลางคืน
  • หลักฐานทางเสียงที่บันทึกได้ช่วยยืนยันการมีอยู่ของนกชนิดนี้ ทำให้สถานะของมันกลับมาเป็น "ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง" และกระตุ้นความพยายามในการอนุรักษ์ต่อไป

นักปักษีวิทยาเคยเข้าใจว่า “นกเจอร์ดอนส์คอร์เซอร์สูญพันธุ์ไปแล้ว เนื่องจากไม่พบเห็นมานานกว่า 20 ปี แต่ในตอนนี้เจออีกครั้งด้วยเครื่องบันทึกเสียง

นกเจอร์ดอนส์คอร์เซอร์” (Jerdon’s courser) เป็นนกขนาดกลาง สูงประมาณ 27 ซม. มีรูปร่างเพรียวบาง ตาโต ขายาว ลำตัวส่วนบนสีน้ำตาลและส่วนล่างสีซีด มีแถบสีดำและสีขาวที่โดดเด่นพาดผ่านหัว ลำคอ และหน้าอกส่วนบน โดยหากินกลางคืนและอาศัยอยู่บนพื้นดิน พบเพียงในพื้นที่เล็ก ๆ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอินเดียเท่านั้น 

นกชนิดนี้ถูกบรรยายทางวิทยาศาสตร์เป็นครั้งแรกในปี 1848 โดยโทมัส ซี. เจอร์ดอน แพทย์และนักปักษีวิทยาชาวอังกฤษ หลังจากที่ใช้เวลาหลายปีในการสังเกตและบันทึกชีวิตนกในอินเดีย จึงได้นำชื่อของเขามาตั้งชื่อนกชนิดนี้ ที่พบในรัฐอานธรประเทศ ของอินเดีย

มีรายงานการพบเรื่อย ๆ จนกระทั่งปี 1900 หลังจากนั้นก็ไม่มีการค้นพบอีกเลย เนื่องจากป่าละเมาะซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของนกชนิดนี้ถูกบุกเรุกเพื่อทำการเกษตร จนกระทั่งปี 1986 นักดักสัตว์ท้องถิ่นได้ค้นพบนกชนิดนี้อีกครั้งในพื้นที่ซึ่งปัจจุบันเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าศรีลังกามัลเลสวารา และกลายเป็นบ้านเพียงแห่งเดียวของนกชนิดนี้ 

จากการประมาณการทั่วโลกในปัจจุบัน พบว่ามีนกที่โตเต็มวัยเพียงประมาณ 50-249 ตัวเท่านั้นและจำนวนที่น้อยนี้ทำให้การพบเห็นนกชนิดนี้เป็นเรื่องยาก โดยการค้นพบของ ดร.พี. เจกานาธาน ในปี 2004 ถือเป็นครั้งสุดท้ายที่มีการพบเห็นนกชนิดนี้

พบ ‘นกเจอร์ดอนส์คอร์เซอร์’ ที่น่าจะสูญพันธุ์ไปแล้ว ด้วยเครื่องบันทึกเสียง

ภาพนกเจอร์ดอนส์คอร์เซอร์ที่เคยมีการบันทึกไว้

ในตอนนี้พวกมันกำลังถูกคุกคามจากการทำลายถิ่นที่อยู่อาศัย เช่น การสร้างคลองเตลูกู-คงคา ซึ่งจะตัดผ่านถิ่นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติที่สำคัญของนกชนิดนี้ ซึ่งจะยิ่งทำให้จำนวนนกเจอร์ดอนคอร์สเซอร์ที่กำลังลดน้อยลงอยู่แล้วลดลงไปอีก

ฮาริช ธังการาจ รวบรวมทีมนักปักษีวิทยาออกตามหานกชนิดนี้อีกครั้ง พร้อมศึกษานกสายพันธุ์นี้ในเชิงลึกและค้นหาสถานที่อื่น ๆ ที่มีสภาพแวดล้อมคล้ายกับป่าละเมาะในศรีลังกามัลเลสวารา

พวกเขาใช้เวลาวิจัย 2 เดือน ช่วงระหว่างเดือนก.ค.-ส.ค. 2025 และลงพื้นที่ภาคสนามในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนสิงหาคม พร้อมอุปกรณ์มากมาย ได้แก่ กล้องพาราโบลา เครื่องบันทึกเสียง ไฟฉายคาดศีรษะ ไฟฉายส่องสัตว์ป่า และสเปรย์พริกไทย หาเจอหมีสลอธโจมตี

ทีมของฮาริชออกเดินทางสำรวจพื้นที่ในตอนกลางวัน เพื่อหาจุดที่คิดว่าจะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนกชนิดนี้มากที่สุด และจะย้อนกลับมาดูนกในเวลากลางคืน

ก่อนเวลา 15.00 น. เล็กน้อย ธังการาจบังเอิญเห็นนกตัวหนึ่งซ่อนตัวอยู่ใต้พุ่มไม้หนาทึบ ซึ่งมันตกใจเมื่อเห็นพวกเขา จากการเหลือบมองขนาดตัวของมัน รูปลักษณ์ด้านหลังขณะบินหนี และรูปแบบการบินของมัน เขาค่อนข้างมั่นใจว่ามันคือ นกเจอร์ดอนส์คอร์เซอร์

เวลา 21.35 น. ในคืนวันที่สองของการเดินทาง ทีมงานได้ยินและบันทึกเสียงนกตัวนั้นผ่านแอปพลิเคชัน Merlin โดยได้ยินเสียงในช่วง 30 วินาทีสุดท้ายของการบันทึก 1 ชั่วโมง 55 นาที

วันรุ่งขึ้น พวกเขาบันทึกเสียงร้องได้ชัดเจนขึ้น และตลอดเวลาการสำรวจในรัฐอานธรประเทศ พวกเขาได้ยินเสียงนกเจอร์ดอนส์คอร์เซอร์อีกหลายครั้ง แต่กลับไม่เจอตัวหรือสามารถถ่ายภาพนกชนิดนี้ได้เลยสักครั้ง

การบันทึกเสียงช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญสามารถเปรียบเทียบระดับเสียง จังหวะ และโน้ตกับข้อมูลอ้างอิงก่อนหน้า เพื่อดูว่าตรงกับชนิดพันธุ์หรือไม่

สเปกโตรแกรมจะเปลี่ยนเสียงให้เป็นภาพที่แสดงความถี่เมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งช่วยแยกเสียงร้องออกจากเสียงรบกวนพื้นหลังที่สร้างความสับสน โดยจะนำภาพความถี่มาเปรียบเทียบกับคลิปที่เก็บถาวรจากภูมิภาคเดียวกัน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเข้าใจผิดว่าของเลียนแบบเป็นของจริง

ดังนั้นการผสมผสานระหว่างเวลา สถานที่ และโครงสร้างเสียงร้อง จะเป็นตัวตัดสินว่าไฟล์เสียงที่ได้มาเป็นของจริงหรือไม่

อย่างไรก็ตาม การสำรวจในครั้งนี้ก็ทำให้นกเจอร์ดอนส์คอร์เซอร์ออกจากรายชื่อนกที่สูญพันธุ์ไปแล้ว กลับมาอยู่ในรายชื่อนกที่ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่งอีกครั้ง และทีมวิจัยก็ตั้งใจจะกลับมาเก็บภาพของนกชนิดนี้อีกครั้งให้ได้

อเล็กซ์ เบอร์รีแมน เจ้าหน้าที่อาวุโสประจำบัญชีแดงของ Birdlife International แสดงความขอบคุณต่อความพยายามของทีม กล่าวว่า “ขอแสดงความยินดีกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง นี่เป็นการค้นพบใหม่ที่น่าตื่นเต้นอย่างเหลือเชื่อ และเป็นหนึ่งในนกสูญหายที่ต้องการตัวมากที่สุด”

นอกจากทีมของธังการาจแล้ว เมื่อประมาณหนึ่งปีก่อน มีการติดตั้งกล้องติดตามนกกว่าร้อยตัวเพื่อบันทึกภาพนกเจอร์ดอนส์คอร์สเซอร์ ซึ่งหวังว่าจะสามารถบันทึกภาพหลักฐานของนกชนิดนี้ได้ในเร็ว ๆ นี้

กล้องติดตามนกเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับนักวิทยาศาสตร์ในการประเมินสุขภาพของประชากรนก หรือสังเกตพฤติกรรมของสัตว์ป่าบางชนิด โดยที่ไม่รุกรานพื้นที่ กล้องเหล่านี้ได้บันทึกความพยายามในการอนุรักษ์ที่ประสบความสำเร็จ โดยเห็นจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นของสัตว์ชนิดต่าง ๆ เช่น เสือดาวแอฟริกาและสุนัขป่า และสังเกตความฉลาดของสัตว์ป่าในกวางและกวางเอลก์ในโคโลราโด

การค้นหาและบันทึกภาพนกที่สูญหายเป็นขั้นตอนแรกในการดำเนินการเพื่ออนุรักษ์นกเหล่านี้ หวังว่าในอนาคตจะสามารถถ่ายภาพและทำการศึกษา เพื่อให้เราเข้าใจนกเจอร์ดอนส์คอร์สเซอร์ได้ดียิ่งขึ้น และจะช่วยให้เราสามารถปกป้องมันจากการสูญพันธุ์ได้


ที่มา:  BirdlifeDiscover WildlifeEarthThe Cool Down