พบ ‘ก๊าซมีเทน’ รั่วใต้ทะเล ใน ‘แอนตาร์กติกา’ หวั่นทำ ‘โลกร้อน’ รุนแรงกว่าเดิม

พบ ‘ก๊าซมีเทน’ รั่วใต้ทะเล ใน ‘แอนตาร์กติกา’ หวั่นทำ ‘โลกร้อน’ รุนแรงกว่าเดิม

นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ “ก๊าซมีเทน” รั่วจากรอยแตกใต้ทะเลใน “แอนตาร์กติกา” หวั่นทำโลกร้อนรุนแรงกว่าเดิม อาจทำให้ออกซิเจนลดลง ความเป็นกรดเปลี่ยน

KEY

POINTS

  • นักวิทยาศาสตร์ค้นพบการรั่วไหลของก๊าซมีเทนกว่า 40 จุดจากใต้พื้นทะเลในทะเลรอสส์ ทวีปแอนตาร์กติกา ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่น่ากังวล
  • ก๊าซมีเทนเป็นก๊าซเรือนกระจกที่กักเก็บความร้อนได้รุนแรงกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 80 เท่า ทำให้เกิดความกังวลว่าจะเร่งให้ภาวะโลกร้อนรุนแรงขึ้น
  • การรั่วไหลนี้อาจเป็นแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกใหม่ที่ยังไม่ถูกรวมอยู่ในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และอาจเกิดวงจรที่โลกร้อนกระตุ้นให้มีการปล่อยก๊าซมากขึ้น

ก๊าซมีเทน” เป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจกที่มีศักยภาพในการกักเก็บความร้อนสูงและเป็นอันตรายมากที่สุด กำลังไหลซึมออกจากรอยแตกของพื้นทะเลใน “แอนตาร์กติกา” ในอัตราที่น่าตกใจ ทำให้เกิดความกังวลว่าเราอาจจะประเมินภาวะโลกร้อนต่ำเกินไป

ก๊าซมีเทนจำนวนมหาศาลถูกกักเก็บอยู่ใต้พื้นทะเลทั่วโลกมานานหลายพันปี แต่ในตอนนี้ก๊าซบางส่วนรั่วไหลขึ้นสู่ผิวน้ำผ่านรอยแตกในพื้นทะเล จนเกิดเป็นฟองอากาศที่ลอยขึ้นสู่ผิวน้ำ โดยที่นักวิจัยมีข้อมูลเกี่ยวกับการรั่วไหลใต้น้ำน้อยมาก ไม่รู้แม้กระทั่งว่าปรากฏการณ์นี้ทำงานอย่างไร ก๊าซที่รั่วออกมามีปริมาณเท่าใด และมีเทนไหลเข้าสู่ชั้นบรรยากาศมากน้อยเพียงใด เมื่อเทียบกับปริมาณที่จุลินทรีย์ที่กินมีเทนซึ่งอาศัยอยู่ใต้มหาสมุทรกิน

แต่นักวิทยาศาสตร์ยังคงหาทางทำความเข้าใจเกี่ยวกับการรั่วไหลเหล่านี้ให้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากก๊าซมลพิษชนิดนี้กักเก็บความร้อนได้มากกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 80 เท่าในช่วง 20 ปีแรกที่อยู่ในชั้นบรรยากาศ

นักวิทยาศาสตร์นานาชาติออกเดินทางค้นหาการรั่วไหลของก๊าซมีเทนในแอนตาร์กติกา โดยใช้การสำรวจเสียงจากเรือ ยานพาหนะควบคุมระยะไกล และนักดำน้ำ เพื่อเก็บตัวอย่างจากแหล่งต่าง ๆ ในทะเลรอสส์ ซึ่งเป็นอ่าวในมหาสมุทรใต้ของแอนตาร์กติกา ที่ระดับความลึกระหว่าง 4-240 เมตร จนพบว่ามีก๊าซมีเทนรั่วไหลมากกว่า 40 จุดในเขตน้ำตื้นของทะเลรอสส์ ตามผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Communication

การรั่วไหลของก๊าซมีเทนเกิดขึ้นเมื่อของเหลวและก๊าซเคลื่อนที่ผ่านรอยแตกและรูพรุนในตะกอนพื้นทะเลและไหลขึ้นสู่เบื้องบน โดยบนผิวน้ำบริเวณที่เกิดการรั่วไหลมักพบ “พรมจุลชีพ” ชั้นแผ่นจุลินทรีย์สีซีดที่ดูดกลืนสารเคมีเหล่านั้น ซึ่งในปัจจุบันสามารถพบได้เกือบทั่วโลกในพื้นที่ที่เคยทำการศึกษา แต่สำหรับในแอนตาร์กติกาถือเป็นพื้นที่ใหม่ที่ยังไม่มีการสำรวจมากนัก โดยก่อนหน้านี้มีการยืนยันว่ามีก๊าซมีเทนรั่วไหลในแอนตาร์กติกาเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ดังนั้นการค้นพบในครั้งนี้จึงสร้างความแปลกใจอย่างมาก 

ซาราห์ ซีบรูค ผู้เขียนรายงานและนักวิทยาศาสตร์ทางทะเลจากองค์กรวิจัย Earth Sciences New Zealand กล่าวกับ CNN ว่า ในตอนแรกพวกเขาตื่นเต้นมากที่ได้พบการรั่วไหล เพราะเคยเข้าใจมาโดยตลอดว่าเป็นเรื่องหายาก แต่กลับเกิดขึ้นทั่วพื้นที่ ยิ่งทำให้ความวิตกกังวลอย่างรวดเร็ว

การรั่วไหลของก๊าซมีเทนในระดับตื้นสามารถส่งผ่านก๊าซมีเทนสู่ชั้นบรรยากาศได้ หากฟองอากาศลอยขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฟองอากาศรวมตัวกันอยู่ใต้น้ำแข็งในทะเลแล้วไหลออกทางรอยแตกหรือรอยแยก วิดีโอที่นักวิจัยถ่ายได้แสดงให้เห็นฟองก๊าซลอยขึ้นและเกาะอยู่ใต้พื้นน้ำแข็ง

ดังนั้น ก๊าซมีเทนที่รั่วไหลออกมานี้อาจกลายเป็นแหล่งมลพิษที่ทำให้โลกร้อนขึ้น ซึ่งปัจจุบันยังไม่รวมอยู่ในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในอนาคต และนักวิทยาศาสตร์ยังกังวลว่าก๊าซมีเทนอาจส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อสิ่งมีชีวิตในทะเล

ยังไม่ชัดเจนว่าทำไมการรั่วไหลของก๊าซมีเทนจึงเกิดขึ้นในภูมิภาคนี้ แต่นักวิจัยกำลังตรวจสอบว่าอาจได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือไม่

ซีบรูคกล่าวว่า ก๊าซมีเทนที่รั่วจากใต้ดินในแถบอาร์กติก ที่อีกฟากหนึ่งของโลกกำลังเพิ่มขึ้น และมีความเชื่อมโยงกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงอุณหภูมิที่สูงขึ้น การเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำทะเล และพื้นดินสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากธารน้ำแข็งละลายในยุคน้ำแข็งครั้งล่าสุด

“หากระบบเหล่านี้มีพฤติกรรมเช่นเดียวกับระบบการรั่วไหลทั่วโลกอื่น ๆ ก็มีโอกาสที่จะเกิดการถ่ายโอนก๊าซมีเทนสู่ชั้นบรรยากาศอย่างรวดเร็วจากแหล่งที่ปัจจุบันยังไม่ถูกนำมาพิจารณาในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในอนาคต” ซีบรูคอธิบาย

ปัจจัยเหล่านี้สามารถก่อให้เกิดวงจรป้อนกลับ โดยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะเพิ่มปริมาณก๊าซมีเทน ซึ่งส่งผลให้อัตราการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยิ่งสูงขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันน้ำทะเลที่อุ่นขึ้น น้ำแข็งที่บางลง และการเปลี่ยนแปลงความดันจากการสูญเสียน้ำหนักของน้ำแข็งบางส่วนสามารถทำให้แหล่งกักเก็บก๊าซมีเทนไม่เสถียร

แก๊สไฮเดรตมีความไวต่ออุณหภูมิและความดัน หากสภาวะอากาศแปรปรวน ไฮเดรตสามารถปล่อยก๊าซมีเทนออกมาและเปิดทางให้ก๊าซที่ลึกกว่าเคลื่อนตัวขึ้นด้านบนได้ เนื่องจากน้ำแอนตาร์กติกที่เย็นจัดทำให้เขตเสถียรภาพของไฮเดรตค่อนข้างตื้นใกล้ชายฝั่ง การเคลื่อนตัวเล็กน้อยใกล้ชายฝั่งจึงอาจส่งผลกระทบอย่างมาก

นักวิทยาศาสตร์จะเดินทางกลับไปยังทวีปแอนตาร์กติกา เพื่อวิเคราะห์ปริมาณก๊าซมีเทนอย่างละเอียดมากขึ้น โดยจะใช้เวลาสองเดือน

แอนดรูว์ เธอร์เบอร์ ศาสตราจารย์ด้านชีววิทยาทางทะเลจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานตาบาร์บารา และหนึ่งในผู้เขียนงานวิจัย กล่าวว่า มีเทนเป็นสิ่งที่เราไม่รู้เลย ตอนนี้มันกำลังลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ และเราไม่รู้ว่าทำไม”

เธอร์เบอร์กล่าวกับ CNN ว่า หากมนุษย์ยังคงทำให้โลกร้อนขึ้น ก๊าซมีเทนที่กักเก็บไว้ในทวีปแอนตาร์กติกาอาจถูกปลดปล่อยออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ ในบางแง่มุม ก๊าซเหล่านี้เหมือนสัตว์อันตราย เราต้องตระหนักอย่างยิ่งว่าพวกมันสามารถทำอะไรได้บ้าง หากถูกยั่วยุหรือถูกประเมินต่ำเกินไป

การค้นพบก๊าซมีเทนรั่วไหลในทะเลแอนตาร์กติกบอกเราว่า ระบบของโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไป และเราสามารถมองเห็นได้แบบเรียลไทม์ และนั่นสำคัญต่อสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลก

เมื่อมีเทนรั่วไหลออกมาจากพื้นทะเลตื้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งใต้แผ่นน้ำแข็งที่กำลังบางลง อาจทำให้เกิดความร้อนเพิ่มขึ้นในชั้นบรรยากาศในระยะใกล้ ส่งผลให้วงจรป้อนกลับระหว่างมหาสมุทรที่อุ่นขึ้นและการปล่อยก๊าซมีเทนเพิ่มขึ้นนั้นตึงตัวขึ้น

ในขณะเดียวกัน การรั่วไหลเหล่านี้ยังทำให้สิ่งมีชีวิตบนพื้นทะเลเกิดการสับเปลี่ยนตำแหน่ง การลดปริมาณออกซิเจน เปลี่ยนความเป็นกรด และเปลี่ยนเส้นทางของสารอาหาร ซึ่งสามารถส่งผลกระทบผ่านสายใยอาหารที่เชื่อมโยงกับการประมงและวัฏจักรคาร์บอนทั่วโลกในที่สุด

เรายังไม่ทราบว่าการรั่วไหลเหล่านี้จะแพร่หลายหรือยาวนานเพียงใด หรือมีเทนลอยอยู่ในอากาศมากน้อยเพียงใด เรารู้เพียงว่าในตอนนี้ดาวเคราะห์กำลังส่งสัญญาณมาให้เรา และเราจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป


ที่มา: ABC NewsCNNEarth