เกิดเกาะใหม่กลางทะเลสาบ ‘อะแลสกา’ หลัง ‘ธารน้ำแข็ง’ ละลาย

ภาพถ่ายล่าสุดจากดาวเทียมของ NASA “ธารน้ำแข็ง” ละลายในอะแลสกาตะวันออกเฉียงใต้ จนเกิดเป็น “เกาะใหม่” ในทะเลสาบ
KEY
POINTS
- ธารน้ำแข็งพราวน็อบในรัฐอะแลสกาละลาย ทำให้เกิดเกาะใหม่ชื่อเดียวกันกลางทะเลสาบ มีขนาดกว่า 5 ตารางกิโลเมตร
- ภาพถ่ายดาวเทียมของนาซาเผยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยน้ำได้เข้ามาแทนที่น้ำแข็งจนเผยให้เห็นพื้นดิน
- ปรากฏการณ์นี้สะท้อนถึงการละลายของธารน้ำแข็งที่เร่งตัวขึ้นในอะแลสกา และคาดว่าจะมีการละลายเพิ่มเติมอีกในอนาคต
ภาพถ่ายดาวเทียมถ่ายโดยดาวเทียมแลนด์แซทของนาซา (NASA) ระหว่างวันที่ 5 ก.ค. 1984 - 6 สิงหาคม 2025 เผยให้เห็นว่า “ธารน้ำแข็งพราวน็อบ” (Prow Knob) ในรัฐได้ละลาย ปล่อยน้ำในทะเลสาบจนทำให้เกิดเกาะใหม่ (ซึ่งใช้ชื่อเดียวกัน) ขนาดกว่า 5 ตร.กม.
ตามข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียม พบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 13 ก.ค. - 6 ส.ค. นาซากล่าวว่า ในตอนนี้น้ำกำลังเข้ามาแทนที่น้ำแข็งอย่างรวดเร็วตามแนวที่ราบชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐอะแลสกา และก่อตัวเป็นทะเลสาบ จนทำให้ธารน้ำแข็งบางลงอย่างมาก
ทะเลสาบหน้าธารน้ำแข็ง (proglacial lake) เกิดจาก กองตะกอนธารน้ำแข็ง (moraine) ซึ่งเป็นการสะสมของเศษซากเศษหินผุที่ยังไม่แข็งตัว และน้ำแข็งกั้นการระบายน้ำในพื้นที่
เปรียบเทียบภาพถ่ายดาวเทียมถ่ายโดยดาวเทียมแลนด์แซทของนาซาในอดีตกับปัจจุบัน
ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ธารน้ำแข็งอัลเซกสิ้นสุดอาณาเขตลงที่เกตเวย์น็อบ ซึ่งอยู่ห่างจากพราวน็อบไปทางตะวันตกประมาณสามไมล์ ตามคำกล่าวของมอรี เพลโต
นักธารน้ำแข็งวิทยาประจำวิทยาลัยนิโคลส์ และสมาชิกคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของหอดูดาวโลกของนาซา ผู้ซึ่งพบเห็นธารน้ำแข็งนี้ครั้งแรกในปี 1984
ในช่วงกลางศตวรรษ น้ำแข็งได้เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออก แต่ยังคงปกคลุมพราวน็อบ แม้ว่าพื้นที่บางส่วนของพราวน็อบจะถูกเปลี่ยนเป็นชายฝั่งทะเลสาบในปี 1984 แต่ธารน้ำแข็งอัลเซกยังคงเชื่อมต่อกับส่วนเหนือของธารน้ำแข็งแกรนด์เพลโต
อย่างไรก็ตาม ในปี 1999 ธารน้ำแข็งทั้งสองได้ถอยร่น ลิ้นธารน้ำแข็งด้านเหนือของธารน้ำแข็งอัลเซกก็แยกตัวออกจากเกาะแคบ ๆ ทำให้ปลายธารน้ำแข็งมีโอกาสเกิดการแตกตัวมากขึ้น
นาซากล่าวว่า คาดว่าจะมีการละลายเพิ่มเติมในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะนี้ที่น้ำแข็งได้แยกตัวออกจากพราวน็อบ ซึ่งทำให้มีความเสถียรน้อยลง และมีแนวโน้มที่จะเกิดการแตกตัวมากขึ้น เมื่อน้ำแข็งก้อนใหญ่แตกตัวลงในทะเลสาบ
การเกิดขึ้นของเกาะนี้สะท้อนให้เห็นถึงการละลายตัวของธารน้ำแข็งในอะแลสกาตะวันออกเฉียงใต้ที่เร็วขึ้น และความสามารถในการปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ภายในไม่กี่ทศวรรษ ทะเลสาบที่ขยายตัว แนวน้ำแข็งที่ไม่เสถียร และภูมิประเทศที่เพิ่งโผล่ขึ้นมาใหม่ ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่กำลังเกิดขึ้น โดยนักวิจัยเตือนว่าการสูญเสียน้ำแข็งอย่างต่อเนื่องในโลกที่ร้อนขึ้นอาจเปลี่ยนแปลงอุทกวิทยาและระบบนิเวศของภูมิภาค
ที่มา: AP News, NBC News, Space







