เจโทร เปิดวิสัยทัศน์ 'ความร่วมมือ ไทย-ญี่ปุ่น' สู่ยุค Carbon Neutrality และธุรกิจยั่งยืน

เจโทร ชี้ชัดการลดคาร์บอนคือ 'อาวุธใหม่' ในการแข่งขันระดับโลก พร้อมจัดตั้ง 'Sustainable Business Desk' หลังดีลสำคัญกับ อดีตนายกฯ เศรษฐา
KEY
POINTS
- เจโทร กรุงเทพฯ ยกระดับความร่วมมือทางธุรกิจกับไทย โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อขับเคลื่อนสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และส่งเสริมธุรกิจที่ยั่งยืน
- ได้ดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อสนับสนุนบริษัทไทยและญี่ปุ่น เช่น จัดตั้ง "โต๊ะให้คำปรึกษาด้านธุรกิจที่ยั่งยืน" และเร่งรัดการจับคู่ธุรกิจ
- ผลสำรวจชี้ว่าบริษัทญี่ปุ่นในไทยเผชิญความท้าทาย 3 ประการในการลงทุนสีเขียว ได้แก่ ต้นทุนที่สูง การขาดความรู้เฉพาะทาง และการขาดองค์ความรู้ (Know-how)
- เจโทรจะช่วยแก้ปัญหาโดยการให้ข้อมูลเชิงนโยบาย จัดสัมมนา และให้คำปรึกษา เพื่อเติมเต็มช่องว่างด้านข้อมูลและความรู้ให้กับภาคธุรกิจ
องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) สำนักงานกรุงเทพฯ ได้ประกาศยกระดับความร่วมมือทางธุรกิจกับประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญ โดยมุ่งเป้าไปที่การขับเคลื่อนวาระแห่งชาติและวาระโลก คือการบรรลุ "ความเป็นกลางทางคาร์บอน" (Carbon Neutrality) และส่งเสริม "ธุรกิจที่ยั่งยืน" JETRO เน้นย้ำว่า เป้าหมายเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่เป็น "กุญแจสำคัญ" ในการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันระยะยาวให้กับทั้งประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น
การตอบสนองเชิงกลยุทธ์ต่อข้อตกลงระดับสูง
อาเบะ อิจิโระดำรง ประธานเจโทร กรุงเทพฯ กล่าวว่า การขับเคลื่อนครั้งนี้มีจุดเริ่มต้นที่สำคัญในปี 2566 เมื่ออดีตนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน เดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่น และได้เข้าพบกับประธานของ JETRO ซึ่งนำไปสู่การบรรลุข้อตกลงในการกระชับความร่วมมือในสาขาธุรกิจที่ยั่งยืนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อเปลี่ยนข้อตกลงให้เป็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม JETRO สำนักงานกรุงเทพฯ จึงได้ดำเนินการเชิงรุก
1.จัดตั้ง "โต๊ะให้คำปรึกษาด้านธุรกิจที่ยั่งยืน": หน่วยงานเฉพาะทางนี้มีบทบาทหลักในการให้การสนับสนุนและคำปรึกษาแบบเจาะลึกแก่บริษัทญี่ปุ่นและไทยในด้าน การลดการปล่อยคาร์บอน (Decarbonization) โดยเฉพาะ
2.เร่งรัดกิจกรรมสนับสนุน
- การจับคู่ธุรกิจ (Business Matching): เน้นการเชื่อมโยงบริษัทที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านความยั่งยืนเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ ๆ
- การจัดทำแคตตาล็อกธุรกิจยั่งยืน: รวบรวม กรณีศึกษา (Case Studies) และตัวอย่างความสำเร็จของบริษัทญี่ปุ่นที่ใช้เทคโนโลยีสีเขียว เพื่อเป็นต้นแบบและสร้างแรงบันดาลใจให้กับภาคธุรกิจในไทย
- สร้างกรณีศึกษาความร่วมมือไทย-ญี่ปุ่น: เพื่อเป็นแม่แบบของความสำเร็จในการทำงานร่วมกันข้ามชาติ ในการมุ่งสู่เป้าหมายด้านความยั่งยืน
ผลสำรวจชี้ ความท้าทายหลัก 3 ประการในการลงทุนสีเขียว
แม้ว่าทิศทางความร่วมมือจะชัดเจน แต่ผลสำรวจล่าสุดของ JETRO ที่จัดทำขึ้นกับกลุ่มบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ได้เผยให้เห็นถึงความท้าทายที่ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญในการลงทุนสีเขียว (Green Investment)
ความคืบหน้า: บริษัทญี่ปุ่นประมาณ 40% ยืนยันว่าได้มีการติดตั้งและใช้พลังงานแสงอาทิตย์หรือพลังงานหมุนเวียนรูปแบบอื่น ๆ แล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพยายามเริ่มต้นอย่างจริงจัง
อุปสรรคสำคัญ: บริษัทจำนวนมากระบุถึงปัญหาหลัก 3 ประการที่ทำให้การก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนทำได้ยากและล่าช้า ได้แก่
- ต้นทุน (Cost): ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีสีเขียวยังคงสูง
- การขาดความรู้เฉพาะทาง (Lack of Specialized Knowledge): การขาดแคลนบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดการและบำรุงรักษาระบบพลังงานยั่งยืน
- การขาดองค์ความรู้ (Know-how): การขาดข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินการ การขออนุญาต หรือแนวทางการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ
การเข้าถึง "ข้อมูลเชิงนโยบาย" คือหัวใจสำคัญ
สำหรับภาคธุรกิจที่ต้องการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจในเทคโนโลยีสีเขียว การได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและทันท่วงทีเกี่ยวกับนโยบายของภาครัฐและทิศทางของตลาดในประเทศไทย ถือเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด
การจัดกิจกรรมสัมมนา ฟอรัม และการให้คำปรึกษาจาก Sustainable Business Desk จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการเติมเต็มช่องว่างด้านข้อมูลและความรู้เหล่านี้ ช่วยให้บริษัทสามารถวางแผนการลงทุนและการปรับตัวให้สอดคล้องกับมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมของไทยและมาตรฐานโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความร่วมมือ ไทย-ญี่ปุ่น ภายใต้การนำของ JETRO ครั้งนี้ คือการผนึกกำลังเพื่อเปลี่ยนวาระด้านสิ่งแวดล้อมให้เป็น โอกาสทางธุรกิจ และ ยกระดับความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมในภูมิภาค โดยมี Carbon Neutrality เป็นเส้นชัยร่วมกัน







