Deep Tech เพื่อโลก 'AI ชีวภาพและพลังงานยั่งยืน' ทุบรางวัลสตาร์ทอัพระดับโลก

การรับมือกับความท้าทายด้านสภาพภูมิอากาศและพลังงานที่เร่งด่วน ChemT Biotechnology สตาร์ทอัพไบโอเทคจากสิงคโปร์ และ Zhejiang Polar Code Technology สตาร์ทอัพเทคโนโลยีพลังงานจากจีน ได้รับการประกาศให้เป็นผู้ชนะเลิศจากการแข่งขันแผนธุรกิจระดับโลก ลี กวน ยู (LKYGBPC) ครั้งที่ 12
KEY
POINTS
- สตาร์ทอัพด้าน AI ชีวภาพ (ChemT Biotechnology จากสิงคโปร์) และพลังงานยั่งยืน (Zhejiang Polar Code Technology จากจีน) คว้ารางวัลชนะเลิศการแข่งขันแผนธุรกิจระดับโลก ลี กวน ยู (LKYGBPC)
- ChemT Biotechnology นำเสนอแพลตฟอร์ม virtual cell AI เพื่อปฏิวัติการผลิตทางชีวภาพ ส่วน Zhejiang Polar Code Technology พัฒนาโครงข่ายไมโคร-กริดอัจฉริยะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานหมุนเวียน
- ชัยชนะของทั้งสองทีมสะท้อนถึงความสำคัญของเทคโนโลยี deep-tech ในการสร้างนวัตกรรมเพื่อรับมือกับความท้าทายด้านสภาพภูมิอากาศและความยั่งยืนของโลก
การรับมือกับความท้าทายด้านสภาพภูมิอากาศและพลังงานที่เร่งด่วน ChemT Biotechnology สตาร์ทอัพไบโอเทคจากสิงคโปร์ และ Zhejiang Polar Code Technology สตาร์ทอัพเทคโนโลยีพลังงานจากจีน ได้รับการประกาศให้เป็นผู้ชนะเลิศจากการแข่งขันแผนธุรกิจระดับโลก ลี กวน ยู (LKYGBPC) ครั้งที่ 12 จัดโดยสถาบันนวัตกรรมและผู้ประกอบการ มหาวิทยาลัยการจัดการสิงคโปร์ (SMU IIE) โดยทั้งสองทีมได้นำเสนอโซลูชัน deep-tech ที่มีศักยภาพในการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อความยั่งยืนของโลกอย่างมีนัยสำคัญ
การแข่งขันครั้งนี้ซึ่งเป็นหนึ่งในการแข่งขันสตาร์ทอัพ deep-tech ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ได้สร้างสถิติใหม่ด้านจำนวนผู้เข้าร่วมจากทั่วโลก สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นในด้านนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน
การแก้ปัญหาเพื่อโลก
ChemT Biotechnology ซึ่งนำเสนอแพลตฟอร์ม virtual cell AI และโมเลกุลขนาดเล็กที่ออกแบบด้วย AI เพื่อปฏิวัติการผลิตทางชีวภาพให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืนยิ่งขึ้น คว้ารางวัล Chancellor's Cup for Beta Innovation สำหรับสตาร์ทอัพที่ยังไม่มีรายได้ รางวัลนี้พร้อมเงินรางวัลมูลค่า 237,500 ดอลลาร์สิงคโปร์ (เกือบ 6 ล้านบาท) ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 23 ปีของการแข่งขันที่สตาร์ทอัพสิงคโปร์-สหรัฐฯ คว้าชัยในประเภทนี้
"การชนะการแข่งขันครั้งนี้เป็นการยอมรับที่ยอดเยี่ยมสำหรับสตาร์ทอัพของเรา" Sun Jie ผู้ร่วมก่อตั้ง ChemT Biotechnology กล่าวพร้อมเสริมว่า ขั้นตอนต่อไปคือการขยายแพลตฟอร์ม AI เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาสมัยใหม่ได้มากขึ้น
ในขณะเดียวกัน Zhejiang Polar Code Technology จากประเทศจีน คว้ารางวัล Chancellor's Cup for Infinity Impactสำหรับสตาร์ทอัพระยะเริ่มต้นที่มีรายได้ (ถึงระดับ Series A) พร้อมเงินรางวัล 287,500 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 7,187,500 บาท) สตาร์ทอัพนี้มุ่งเน้นที่การนำเสนอ โครงข่ายไมโคร-กริดอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในเครือข่ายพลังงานที่มีพลังงานหมุนเวียนสูง ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน
รางวัลเฉพาะทางด้านความยั่งยืนโดดเด่น
นอกจากถ้วยรางวัลสูงสุดแล้ว สตาร์ทอัพที่นำเสนอโซลูชันด้านความยั่งยืนยังได้รับความสนใจอย่างมากในการแข่งขัน โดยมีทีมที่ได้รับรางวัลเฉพาะทางที่น่าสนใจ
- Indorama Ventures Future of Sustainable Materials Award: ผู้ชนะคือ MicroMelt Ltd และ SynMetabio ซึ่งเน้นย้ำถึงความสำคัญของวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- Wavemaker Sustainability Investment Prize และ YIT Global Exploration Prize: มอบให้กับ QarboTech
บทบาทของมหาวิทยาลัยและ AI ในระบบนิเวศ
เชอร์ลี วอง หัวหน้าคณะกรรมการตัดสิน กล่าวว่า "การมีผู้เข้าร่วมแข่งขันอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและนวัตกรรมที่โดดเด่นในปีนี้ ตั้งแต่เทคโนโลยีด้านสภาพภูมิอากาศไปจนถึงวัสดุที่ยั่งยืน สะท้อนถึงความมุ่งมั่นที่กำลังเผชิญกับความท้าทายเร่งด่วนที่สุดของมนุษยชาติ”
การแข่งขัน LKYGBPC ครั้งที่ 12 ยังได้บุกเบิกการใช้เทคโนโลยีด้วยการเปิดตัวโครงการ DueAI™ Challenge ซึ่งใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความเป็นกลางในการคัดกรองสตาร์ทอัพ สะท้อนแนวโน้มระดับโลกในวงการทุนร่วมลงทุน
เฮง สวีเกียต ประธานมูลนิธิวิจัยแห่งชาติ (NRF) กล่าวว่า SMU ในฐานะ "แหล่งรวมของนวัตกรรม" และเน้นย้ำว่าความสำเร็จของการแข่งขันครั้งนี้เสริมสร้างสถานะของสิงคโปร์ในฐานะประตูสู่ระบบนิเวศของเอเชียในระดับสากล
เพื่อเร่งการนำงานวิจัยด้านความยั่งยืนมาใช้ในเชิงพาณิชย์ ทาง SMU ได้เปิดตัวโครงการ Urban SustaInnovator (USI) ซึ่งผู้เข้าร่วมการแข่งขัน LKYGBPC ทุกคนจะได้รับโอกาสพิเศษในการสมัครเข้าร่วม เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและขยายธุรกิจของตนให้สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกต่อไป







