'SX2025' งานด้านความยั่งยืนระดับภูมิภาค ผู้เข้าร่วมมากกว่า 900,000 คน พร้อมชู 'Zero Landfill'

Sustainability Expo 2025 ในปีนี้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ตอกย้ำสถานะการเป็นเวทีด้านความยั่งยืนชั้นนำในระดับภูมิภาคอย่างแท้จริง ทั้งในมิติของจำนวนผู้เข้าร่วมงาน การมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆ และการยกระดับสู่สากล
KEY
POINTS
- งาน Sustainability Expo 2025 (SX) ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งผู้เข้าร่วมงานเกินกว่าเป้าหมาย มากกว่า 900,000 คน ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในภูมิภาค
- เดินหน้าโครงการ "Zero Landfill" อย่างเป็นรูปธรรม โดยรณรงค์ให้คัดแยกขยะและนำไปเปลี่ยนเป็นพลังงาน ตั้งเป้าหมายไม่มีขยะไปฝังกลบ
- ยกระดับสู่สากลด้วยการเผยแพร่หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (SEP) ผ่านความร่วมมือกับองค์กรนานาชาติและการมอบรางวัล "SEP Award" ในเวทีระดับโลก
Sustainability Expo 2025 (SX2025) ปิดฉากอย่างงดงามด้วยยอดผู้เข้าชมทะลุมากว่า 9 แสนคน ตอกย้ำบทบาท “มหกรรมความยั่งยืนระดับภูมิภาค” ที่รวมพลังภาครัฐ เอกชน ภาคประชาสังคมและคนรุ่นใหม่ เดินหน้าขับเคลื่อนแนวคิด “พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก” จากแรงบันดาลใจสู่การลงมือทำจริง พร้อมเน้นย้ำภารกิจสำคัญในการขับเคลื่อนหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (SEP) สู่เวทีโลก พร้อมเดินหน้าสานต่อ SX2026 LAUNCHING FORWARD ในปีหน้า
SEP ก้าวสู่ระดับสากล และ "SEP Award" ครั้งแรก
"ฐาปน สิริวัฒนภักดี” ประธานอำนวยการ Sustainability Expo 2025 และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวปิดงาน SX2025 ว่า ทิศทางและวิสัยทัศน์ของการจัดงานในการยกระดับ “หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” (Sufficiency Economy Philosophy: SEP) ให้ก้าวสู่หลักการสากล ภายใต้แนวคิด “Sufficiency for Sustainability” หรือ “ความพอเพียงเพื่อความยั่งยืน” ซึ่งเป็นแกนหลักของงาน SX ที่สานต่อความสำเร็จต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 และได้รับการตอบรับอย่างเป็นทางการจากองค์การสหประชาชาติ (UN)
ปีนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของการขับเคลื่อน SEP สู่ระดับนานาชาติ ผ่านความร่วมมือกับ Enactus องค์กรเยาวชนระดับโลกที่มีเครือข่ายนักศึกษากว่า 35 ประเทศทั่วโลก โดยมีการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรม ได้แก่
- การมีส่วนร่วมของนานาชาติ: นักศึกษามหาวิทยาลัยจาก 32 ประเทศกว่า 2,000 คน เข้าร่วมศึกษาและนำเสนอแนวคิดธุรกิจที่ประยุกต์ใช้หลัก SEP เพื่อสร้างผลลัพธ์เชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
- รางวัล SEP Award: การประกาศมอบ “รางวัล SEP Award” ให้กับทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายของการแข่งขัน Enactus World Cup เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนทั่วโลกได้เรียนรู้และนำหลักปรัชญา SEP ไปต่อยอดสู่การปฏิบัติอย่างจริงจัง โดยมีเป้าหมายขยายผลต่อเนื่องจนถึงปี 2030
“ฐาปน” กล่าวด้วยว่า หาก “เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” (SDGs) คือ เป้าหมายปลายทางของโลกที่เราทุกคนมุ่งไปให้ถึงแล้วนั้น “หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” (SEP) ก็คือ แนวทางการปฏิบัติ ที่จะนำพาเราไปสู่เป้าหมายนั้นได้อย่างมั่นคงและสมดุล โดยมีแก่นสำคัญอยู่ที่คำว่า “Enough” (ความพอ) ซึ่งเป็นแนวคิดที่ท้าทายกระแสบริโภคนิยม และตั้งอยู่บน 3 หลักการสำคัญ คือ ความพอประมาณ การมีเหตุผล และการสร้างภูมิคุ้มกัน ทั้งหมดนี้ต้องดำเนินไป บนพื้นฐานของความรู้และคุณธรรม เพื่อให้เกิดความยั่งยืนอย่างแท้จริง
“ฐาปน” เน้นย้ำถึง ความจำเป็นเร่งด่วน ที่คนไทยทุกคนควรทำความเข้าใจและสามารถอธิบาย หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (SEP) ได้อย่างถูกต้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เนื่องจากในปัจจุบัน นานาชาติเริ่มให้ความสนใจและศึกษาแนวคิดนี้อย่างจริงจัง
“งาน SX ยังได้วางวิสัยทัศน์ระยะยาวสู่ปี พ.ศ. 2570 (ค.ศ. 2027) ซึ่งถือเป็น “ปีมหามงคล” ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อ สถาบันพระมหากษัตริย์ และเป็นโอกาสสำคัญในการ เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงเป็นต้นแบบแห่งหลักปรัชญา SEP อันเป็นรากฐานของการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อสานต่อแนวพระราชดำริให้เป็นที่ประจักษ์ในระดับนานาชาติต่อไป
สถิติความสำเร็จที่โดดเด่น
"ต้องใจ ธนะชานันท์" ผู้อำนวยการคณะจัดงาน Sustainability Expo 2025 ขึ้นเวทีพร้อมด้วยกรรมการผู้จัดงาน SX2025 และผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ SX2025 กล่าวว่า งาน SX ปีนี้มีพัฒนาการที่เหนือกว่าปีที่ผ่านมาในทุกมิติ โดยมีตัวชี้วัดสำคัญที่สะท้อนถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดด
งาน SX ได้รับกระแสตอบรับอย่างท่วมท้นจนกลายเป็น ไวรัลบนโซเชียลมีเดีย ส่งผลให้มีผู้คนต่อคิวเข้างานอย่างล้นหลาม โดยภาพรวมความสำเร็จและตัวเลขหลักที่น่าสนใจมีดังนี้
- ผู้เข้าร่วมงาน (Attendees): ตัวเลขรวมทั้งออนไลน์และออนไซต์ ซึ่งผู้เข้าร่วมงานเกินกว่าเป้าหมาย มากกว่า 900,000 คน ซึ่งถือเป็นความสำเร็จที่สูงมาก
- การมีส่วนร่วมของเยาวชน: มีนักเรียนนักศึกษาเข้าร่วมเกือบ 20,000 คน ครอบคลุมทุกระดับชั้น สะท้อนถึงความสนใจของคนรุ่นใหม่ในเรื่องความยั่งยืน
- เวทีความรู้ระดับโลก: มีวิทยากร และผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายวงการรวมกัน กว่า 800 คน ตลอดทั้ง 10 วันของการจัดงาน ครอบคลุมทั้งเวทีหลัก เวทีพันธมิตร และงานสำหรับภาคธุรกิจ (B2B)
เดินหน้าความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม
งาน SX2025 ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นต่อความยั่งยืนผ่านโครงการริเริ่มที่สร้างผลกระทบเชิงบวกอย่างชัดเจน
- โครงการ Zero Landfill: งานได้ดำเนินการจัดการขยะตลอด 10 วัน โดยตั้งเป้าหมาย ไม่มีขยะไปฝังกลบ (Zero-to-Landfill) ผ่านการรณรงค์ให้ผู้เข้าร่วมงานคัดแยกขยะทุกประเภท และร่วมมือกับพันธมิตรนำขยะไปผ่านกระบวนการเผาเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงาน ทำให้เกิดการหมุนเวียนทรัพยากรอย่างยั่งยืน
- Repartment Store: โครงการระดมทุนจากการบริจาคสิ่งของเพื่อสร้างประโยชน์คืนสู่สังคม โดยล่าสุดสามารถสร้างรายได้ 2.7 ล้านบาท เพื่อสมทบทุนให้กับมูลนิธิชัยพัฒนา และจะพัฒนาให้เป็นโครงการต่อเนื่องตลอดทั้งปี
ภาพรวมความสำเร็จของ SX2025
งาน SX2025 ได้สร้างความสำเร็จที่โดดเด่นตลอดการจัดงาน 10 วัน และต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน ตอกย้ำความเป็นผู้นำในด้านการสร้างความยั่งยืน
ยอดขายและกิจกรรมเพื่อสังคม
งาน SX2025 ยังเป็นศูนย์รวมทางเศรษฐกิจและสังคม โดยมีกิจกรรมสร้างสรรค์รายได้และระดมทุนเพื่อการกุศลที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง:
• SX Food Festival มีร้านค้าถึง 163 ร้าน สร้างยอดขายรวม 35.6 ล้านบาท
• SX Market Place มีร้านค้าถึง 235 ร้าน สร้างยอดขายรวม 122.1 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมระดมทุนเพื่อสนับสนุนการกุศลและโครงการต่างๆ โดยเฉพาะกิจกรรมระดมทุน (JAZZ) ที่ได้ยอดเงิน 745,546 บาท และกิจกรรม (LOMNAWANA) ที่สามารถระดมทุนได้ถึง 1.11 ล้านบาท
ผลงานด้านสิ่งแวดล้อมและการจัดการของเสีย
งานนี้ให้ความสำคัญกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจน โดยสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG emission avoided) ได้ถึง 26.6 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
ภายใต้โครงการ SX Waste Management ได้มีการจัดการและคัดแยกของเสียจากสถานีคัดแยกต่างๆ ได้ในปริมาณมาก
- ขวด PET: 1,271 ขวด
- กระป๋องอะลูมิเนียม: 613 กระป๋อง
- ขวดแก้ว: 3,153 ขวด
- กล่องกระดาษลูกฟูก: 3,302 กล่อง
- เศษอาหาร (Food Waste): 8,708 กิโลกรัม
ความสำเร็จทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการร่วมแรงร่วมใจของทีมงานทุกฝ่ายและได้รับการสนับสนุนอย่างดียิ่งจากองค์กรผู้สนับสนุนจำนวนมาก ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพของทีมงานที่เติบโตขึ้นในการบริหารจัดการงานที่ยิ่งใหญ่และมีคุณภาพสูงได้อย่างมืออาชีพ







