'สุชาติ' ลุยเหนือ เร่งแก้สารพิษลำน้ำกก–โขง ห่วงฤดูแล้งปนเปื้อนสูงอีกระลอก

สุชาติ ชมกลิ่น เตรียมลงพื้นที่ จ.เชียงราย เพื่อเร่งแก้ปัญหาสารพิษปนเปื้อนในแม่น้ำกกและแม่น้ำโขง มลพิษดังกล่าวมีสาเหตุมาจากการทำเหมืองแร่หายากในเมียนมา ซึ่งปล่อยสารโลหะหนักเช่น สารหนูและแคดเมียมลงสู่แหล่งน้ำ
KEY
POINTS
- นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ เตรียมลงพื้นที่ จ.เชียงราย เพื่อเร่งแก้ปัญหาสารพิษปนเปื้อนในแม่น้ำกกและแม่น้ำโขง
- มลพิษดังกล่าวมีสาเหตุมาจากการทำเหมืองแร่หายากในเมียนมา ซึ่งปล่อยสารโลหะหนักเช่น สารหนูและแคดเมียมลงสู่แหล่งน้ำ
- แม้ปัจจุบันระดับสารปนเปื้อนยังไม่เกินมาตรฐานเนื่องจากฝนช่วยเจือจาง แต่มีความกังวลว่าสถานการณ์จะรุนแรงขึ้นในช่วงฤดูแล้ง
- มีแผนจะใช้เฮลิคอปเตอร์สำรวจเพื่อติดตามเส้นทางน้ำและหาแนวทางป้องกันมลพิษจากต้นทาง
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ปัญหามลพิษทางน้ำ จาก การทำเหมืองแร่หายาก (Rare Earth Mining) หรือ เหมืองแร่แรร์เอิร์ธ บริเวณชายแดนเมียนมา ได้กลายเป็นประเด็นที่น่ากังวลอย่างยิ่ง เนื่องจากของเสียจากกระบวนการแยกและสกัดแร่ ซึ่งมัก ปนเปื้อนสารพิษโลหะหนัก เช่น สารหนู แคดเมียม และแมงกานีส มีโอกาสไหลลงสู่ลำน้ำสายสำคัญที่เชื่อมต่อเข้าสู่พื้นที่ภาคเหนือของไทย โดยเฉพาะแม่น้ำโขงและแม่น้ำกก ปัญหานี้ไม่เพียงกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ แต่ยังสร้างความเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ และการเกษตรกรรมที่พึ่งพาแหล่งน้ำเหล่านี้เป็นหลัก
ล่าสุด นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เตรียมลงเชียงราย เพื่อแก้ปัญหาสารพิษแม่น้ำกก ย้ำเป็นเรื่องเร่งด่วน พร้อมเตรียมเร่งผลักดัน พ.ร.บ.อากาศสะอาด แก้ปัญหาฝุ่น โดยมีวางกำหนดการวางไว้ว่าจะเดินทางในวันที่ 9 ตุลาคม หลังจากลงพื้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ วันที่ 5-6 ตุลาคม เพื่อตรวจเยี่ยมการบริการจัดการพื้นที่ป่ามรดกโลกและการให้บริการนักท่องเที่ยวในจุดต่างๆ
นายสุชาติ กล่าวว่า การลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ครั้งนี้ ถือเป็นการปฏิบัติภารกิจครั้งแรกในฐานะรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จุดประสงค์หลักคือการให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ พร้อมย้ำว่า บทบาทของอุทยานฯ นอกจากการดูแลผืนป่า สัตว์ป่า และพันธุ์พืชแล้ว อีกด้านหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การบริการนักท่องเที่ยวที่เข้ามาศึกษาและสัมผัสธรรมชาติ
“เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการที่ดี ไม่ใช่ยึดติดเพียงสถานะข้าราชการ พร้อมกันนี้ได้กำชับอย่างเข้มงวดว่า จะไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย หากพบเจอจะดำเนินการโดยเด็ดขาด”
นายสุชาติ กล่าวต่อถึงการลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาการปนเปื้อนในลำน้ำกก จังหวัดเชียงราย ว่า เรื่องนี้เป็นที่จับตาของประชาชนทั่วประเทศ จึงจำเป็นต้องเร่งลงพื้นที่ติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะหากปล่อยให้ยืดเยื้อ อาจลุกลามจนควบคุมไม่ได้
จากข้อมูลที่ได้รับจากกรมควบคุมมลพิษ ขณะนี้ผลตรวจคุณภาพน้ำยังไม่พบค่าการปนเปื้อนสารหนูเกินมาตรฐาน เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนสูงช่วยเจือจาง แต่ในอนาคตหากเข้าสู่ฤดูแล้ง และยังมีการปล่อยมลพิษจากฝั่งเมียนมาเข้ามาอีก ก็อาจสร้างปัญหาใหญ่ได้ ดังนั้นจึงต้องตรวจสอบต้นทางอย่างรอบคอบ โดยผมจะขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อติดตามเส้นทางน้ำและหาวิธีป้องกันสารพิษตั้งแต่ต้นทาง ซึ่งกรมควบคุมมลพิษได้เตรียมแผนรับมือไว้แล้ว
"การเข้ามารับตำแหน่งครั้งนี้มีความมุ่งมั่นที่จะทำงานด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเต็มที่ เพราะเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิตประชาชน ตั้งแต่ในครรภ์มารดาไปจนตลอดชีวิต โดยเฉพาะปัญหาสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไขต่อจากนี้ ได้แก่ ฝุ่นละออง PM 2.5 และมลพิษทางอากาศ รวมถึงการผลักดันกฎหมายอากาศสะอาด ซึ่งหลังผ่านการพิจารณาของสภาฯ จะต้องเร่งเดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรม ตามนโยบายที่นายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล ได้มอบหมายไว้"
ท้ายที่สุด นายสุชาติ กล่าวว่า ภารกิจของกระทรวงทรัพย์ฯ มีจำนวนมากและท้าทาย แต่ถือว่าเป็นงานที่สนุกและมีคุณค่าต่อประเทศ ข้าราชการและผู้บริหารในกระทรวงล้วนเป็นผู้มีความสามารถ ทำให้การทำงานไม่ใช่เรื่องยาก เราวางเป้าหมายไว้ทั้งระยะสั้น 4 เดือน ระยะกลาง 8 เดือน และระยะยาว 12 เดือน หากมีโอกาสได้กลับมาสานต่อ เชื่อว่าจะสามารถเดินหน้างานสำคัญเหล่านี้ได้อย่างต่อเนื่อง จึงอยากฝากให้ทุกฝ่ายช่วยเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วย







