ไทยยกระดับยั่งยืน ดัน 'เศรษฐกิจพอเพียง' สู่เวทีโลกในยุคใหม่

เครือข่ายห่วงโซ่อุปทาน (TSCN) เร่งอบรม 'Carbon Accounting' ให้ซัพพลายเออร์ SME เพื่อความอยู่รอดในโลกใหม่ ขณะที่วิสาหกิจเพื่อสังคมสร้าง 'SEP Award' ดึงหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่สากล พร้อมจับตา 'การใช้พลังงานของ AI' ที่สูงกว่า Google ถึง 10 เท่า
KEY
POINTS
- ผลักดันปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (SEP) สู่ระดับสากลผ่านการสร้างรางวัล SEP Award ร่วมกับเครือข่ายนักศึกษาจาก 32 ประเทศ
- เครือข่ายห่วงโซ่อุปทาน (TSCN) ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ให้ปรับตัวสู่โลกใหม่ โดยเน้นการเรียนรู้เรื่อง Carbon Accounting เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
- ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในมิติเทคโนโลยี โดยจับตาการใช้พลังงานของ AI และส่งเสริมนวัตกรรมเศรษฐกิจหมุนเวียน เช่น การเปลี่ยนกากน้ำตาลเป็นกรีนไฮโดรเจน
"ต้องใจ ธนะชานันท์" รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด กลุ่มงานความยั่งยืนและกลยุทธ์ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวในงาน Sustainability Expo 2025: A Call for Adaptation The Sustainability in Trade & Industry ช่วง Collab Talk: Green Network ผนึกกำลัง ปรับ-เปลี่ยน-ปฏิบัติ ว่า การขับเคลื่อนวาระความยั่งยืนของประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่มิติใหม่ที่ครอบคลุมและซับซ้อนยิ่งขึ้น โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความยั่งยืนแบบองค์รวม ทั้งในมิติของเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยี ข้อมูลจากการประชุมและกิจกรรมล่าสุดเผยให้เห็นถึงความพยายามครั้งใหญ่ในการปรับตัวและสร้างความร่วมมือระดับโลก
TSCN ผนึกกำลัง CEO ช่วยซัพพลายเออร์ SME เรียนรู้คาร์บอน
หัวใจสำคัญของการปรับตัวทางเศรษฐกิจคือบทบาทของ Thailand Sustainable Supply Chain Network (TSCN) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง (CEO Founders) และการเปิดงานโดยรองนายกรัฐมนตรี เครือข่ายนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การจัดงานประจำปี แต่ได้เร่งทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์ขององค์กรขนาดใหญ่ เพื่อช่วยให้พวกเขาปรับตัวเข้ากับโลกยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
เป้าหมายหลักคือการดึง ซัพพลายเออร์รายกลางและรายเล็ก (SMEs) ของไทยให้ก้าวไปพร้อมกัน โดยเน้นการเรียนรู้เรื่อง Carbon Accounting และการลด Emission เพื่อให้พวกเขาสามารถอยู่รอดและแข่งขันได้ในห่วงโซ่อุปทานโลกที่เข้มงวดด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ส่ง 'ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง' ผ่านเครือข่ายนักศึกษาระดับโลก
ในมิติของสังคมและการสร้างนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน เครือข่ายวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise - SE) ได้ก้าวเข้ามาเป็นกลไกสำคัญเพื่อเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการ แม้จะมีความมุ่งมั่นสูง แต่ผู้ประกอบการจำนวนมากยังขาดทักษะด้าน Marketing และการบริหารจัดการ เครือข่ายจึงตั้งใจจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เป็นประจำ
ความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาคือการร่วมมือกับ NGO ระดับโลกอย่าง Enactus ซึ่งรวบรวมนักศึกษาจาก 32 ประเทศ โดยมีการริเริ่มรางวัลใหม่ที่เรียกว่า SEP Award (Sufficiency Economy Philosophy Award) รางวัลนี้มีเป้าหมายโดยตรงเพื่อผลักดัน หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นแนวคิดของไทย ให้เป็นที่ยอมรับและนำไปประยุกต์ใช้ในสังคมโลกผ่านเครือข่ายนักศึกษาทั่วโลก
เตือนภัย AI ใช้พลังงานมากกว่า Google ถึง 10 เท่า
ประเด็นที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงอย่างเร่งด่วนคือ ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของเทคโนโลยีดิจิทัล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ข้อมูลจาก มหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล ระบุว่า การค้นหาด้วย ChatGPT นั้นใช้พลังงานมหาศาล มากกว่าการ Search บน Google ถึง 10 เท่า (สำหรับการเสริม/ถามคำถามเดียวกัน)
มีตั้งคำถามถึงความยั่งยืนในอนาคต หาก AI จะกลายเป็น "ระบบปฏิบัติการ" ของโลกอนาคต จึงเกิดแนวคิดที่ต้องพัฒนา AI ให้มีประสิทธิภาพด้านพลังงานมากขึ้น โดยเปลี่ยนจากการค้นหาแบบ "งมเข็มในมหาสมุทร" ไปสู่การทำงานที่จำเพาะเจาะจงคล้ายสมองมนุษย์ เพื่อลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น การหารือนี้ยืนยันว่าการลดคาร์บอนต้องครอบคลุมถึงนวัตกรรมดิจิทัลด้วย ไม่ใช่แค่ภาคอุตสาหกรรมดั้งเดิม
พลิก 'กากน้ำตาล' สู่ 'กรีนไฮโดรเจน' ในเศรษฐกิจหมุนเวียน
ความก้าวหน้าด้านการปฏิบัติการอย่างเป็นรูปธรรมปรากฏให้เห็นในภาค เกษตรกรรมสีเขียว (Green Agriculture) และ เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) โดยมีการหารือและรับเทคโนโลยีจากพันธมิตรต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย สวีเดน และญี่ปุ่น
ตัวอย่างที่ชัดเจนคือการนำ กากน้ำตาล (Molasses) ซึ่งเป็นของเสียในภาคอุตสาหกรรม มาผลิตเป็น กรีนไฮโดรเจน (Green Hydrogen) หรือนำไปแปรรูปเป็นปุ๋ย (NH3) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงโมเดล Waste-to-Value ที่เกิดขึ้นจริงในประเทศไทย เป็นการยืนยันว่าการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนไม่ได้เป็นเพียงแนวคิด แต่เป็นปฏิบัติการที่กำลังสร้างมูลค่าใหม่ให้กับเศรษฐกิจ







