‘สำนึก-ความรู้’ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจกล้าลงทุนธุรกิจสีเขียว

‘สำนึก-ความรู้’ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจกล้าลงทุนธุรกิจสีเขียว

ชเล วุทธานันท์ ชี้ธุรกิจสิ่งทอที่ยั่งยืนต้องใช้ “สำนึก” และ “ความรู้” เพื่อลดต้นทุน และเพิ่มมูลค่า เสนอให้ใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อลด CO2 รับมือวิกฤติโลกร้อน

ในขณะที่หลายธุรกิจอาจเริ่มต้นเรื่องราวความยั่งยืนด้วยภาพลักษณ์ที่สวยงาม แต่สำหรับ "ชเล วุทธานันท์" กรรมการผู้จัดการ บริษัท เท็กซ์ไทล์ แกลลอรี่ จำกัด (PASAYA) กลับเลือกที่จะเริ่มต้นด้วยการยอมรับความจริงอย่างตรงไปตรงมาว่าอุตสาหกรรมสิ่งทอส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง

เพื่อหาทางแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง "ชเล" กล่าวในช่วง “สีสัน สู่ Green Living” ของงานสัมมนา Sustainability Expo 2025 : A Call for Adaptation The Sustainability in Trade & Industry” ที่จัดโดย “กรุงเทพธุรกิจ” ร่วมกับ Sustainability Expo 2025 ว่า การจะเปลี่ยนแปลงธุรกิจให้มีความยั่งยืน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ต้องอาศัยปัจจัยสองอย่างควบคู่กันไป นั่นคือ “สำนึก” และ “ความรู้”

“มันมีอยู่ 2 ปัจจัยที่จะทำให้ตัดสินใจทำหรือไม่ทำ ปัจจัยแรกก็คือ เรื่องของ ‘สำนึก’ นี่เป็นเรื่องมาก่อน แต่ว่าถึงจะมีสำนึก ถ้าไม่มี ‘ความรู้’ ก็ไม่สามารถที่จะแก้ปัญหา นี้ได้”

นอกจากนี้ "ชเล" ยังกล่าวว่า การทำธุรกิจให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไม่จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายมากขึ้น เพราะในทางปฏิบัติแล้วสามารถทำให้มีต้นทุนที่น้อยลงได้

‘สำนึก-ความรู้’ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจกล้าลงทุนธุรกิจสีเขียว

วิสัยทัศน์นี้ถูกสะท้อนผ่านประสบการณ์จริง "ชเล" เล่าถึงบทเรียนในอดีตที่สภาพแวดล้อมที่ไม่น่ามองของโรงงานส่งผลกระทบโดยตรงต่อการถูกกดราคาสินค้าจากลูกค้าต่างชาติ ซึ่งเป็นมุมมองที่เฉียบคม และจับต้องได้

“ผมบอกกับฝ่ายขายเลย ทุกๆ กองขยะที่เขาเห็นเตรียมลดให้เขาเลย 10 เซนต์ ถ้าผ่านกองขยะเข้าไปทั้งหมด 10 กอง เขาก็หักราคาคุณลงไป 1 ดอลลาร์แน่นอน ดังนั้นหากว่าเราจะทำโรงงานให้ดี เราจะขายสินค้าในราคาที่ดีขึ้นได้ แต่ถ้าหากว่าเราทำโรงงานให้มันไม่ดี สินค้าคุณก็โดนกดราคาแน่นอน”

ในมุมมองของ "ชเล" ปัญหาโลกร้อนในปัจจุบันได้เดินทางมาถึงจุดที่น่ากังวลอย่างยิ่ง และการพูดคุยเพียงแค่เรื่องผลิตภัณฑ์สีเขียวหรือการรีไซเคิลนั้นไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะในตอนนี้อุณหภูมิของโลกพุ่งสูงขึ้นจนเกือบถึงจุดที่กู่ไม่กลับแล้ว

ดังนั้นทางออกที่เป็นรูปธรรม จึงเป็นการหาพลังงานทางเลือกที่ถูกกว่า นั่นคือ การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์

“ทางออกมีอยู่ทางเดียวครับ ต้องช่วยกันลดคาร์บอนไดออกไซด์ เราสามารถใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงแดด มีต้นทุนราคาเพียงแค่ยูนิตละ 1 บาท หรืออาจจะ 1 บาทกว่าๆ ซึ่งประหยัดกว่ามาก”

ในปัจจุบันนี้เทคโนโลยีแบตเตอรี่ในปัจจุบันมีราคาที่ถูกลงมาก ทำให้การกักเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ไว้ใช้ตลอด 24 ชั่วโมงเป็นจริงได้ และมีต้นทุนที่แข่งขันได้แล้ว

แนวคิดของ "ชเล วุทธานันท์" จึงเป็นข้อพิสูจน์ การขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืนไม่ใช่ภาระ แต่เป็นโอกาสในการสร้างความแข็งแกร่ง และลดต้นทุนได้จริง หากเริ่มต้นจากการมีจิตสำนึกที่ถูกต้อง และขับเคลื่อนด้วยความรู้ เพื่อนำพาธุรกิจ และสังคมให้ก้าวข้ามผ่านความท้าทายแห่งอนาคตไปพร้อมกัน

‘สำนึก-ความรู้’ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจกล้าลงทุนธุรกิจสีเขียว


พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์