'อนุทิน' ลั่น! การเมืองอย่าชี้นำ รัฐบาลพร้อมหนุนธุรกิจไทยยั่งยืน

"อนุทิน" ขึ้นเวที Sustainability Expo 2025 ประกาศจุดยืน "การเมืองต้องไม่แทรกแซงภาคธุรกิจ" พร้อมหนุนเอกชน สร้างเศรษฐกิจยั่งยืน แม้รัฐบาลมีอายุเพียง 4 เดือน ย้ำไทยไม่ใช่แค่มีทางเลือก แต่คือ 'ทางรอด' ของภูมิภาค
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวปาฐกถาพิเศษในเวทีสัมมนา Sustainability Expo 2025 A Call for Adaptation The Sustainability in Trade & Industry หัวข้อ “ยกระดับอุตสาหกรรม-การค้า-การลงทุนสู่ความยั่งยืน” ว่า แม้รัฐบาลชุดปัจจุบันจะมีเวลาเพียง 4 เดือน แต่จะใช้ทุกวันเพื่อ “วางรากฐานให้ประเทศไทยเดินหน้าด้วยความยั่งยืน” พร้อมส่งสัญญาณชัดว่า "นักการเมืองต้องไม่แทรกแซงภาคธุรกิจ" หากคนในประเทศไม่ต้องการความขัดแย้ง
รัฐบาลต้องไม่ปล่อยให้การเมืองนำทุกอย่าง โดยเฉพาะต้องไม่ปล่อยให้กลุ่มทุนมาชี้นำรัฐบาล แต่รัฐบาลต้องมีอำนาจเพียงพอที่จะช่วยเหลือกลุ่มทุน และวางนโยบายเพื่อความยั่งยืนร่วมกัน
การเมืองอาจชะงัก แต่ธุรกิจห้ามหยุด
นายอนุทิน กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองแม้อาจมีความไม่แน่นอนบ้าง แต่ภาคธุรกิจควรได้รับการคุ้มครองจากผลกระทบ เพื่อให้เดินหน้าต่อได้ เพราะธุรกิจคือเสาหลักของความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมย้ำว่า หากภาคประชาชนไม่ต้องการความขัดแย้ง นักการเมืองก็ไม่ควร “กล้าขัดแย้ง”
“วันนี้เราต้องเดินหน้าต่อ ไม่ใช่รอให้การเมืองนิ่งถึงจะพัฒนาได้ ผมขอร้องว่าอย่าให้การเมืองเป็นตัวขัดขวางการเติบโตของเศรษฐกิจไทยอีก”
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยมีจุดแข็งด้านภูมิศาสตร์และศักยภาพที่สูงมากในภูมิภาคอาเซียน เป็นศูนย์กลางระหว่างตะวันออกและตะวันตก จึงไม่ควรเป็นเพียง "ทางผ่าน" แต่ควรเป็น ศูนย์กลางการใช้ทรัพยากรและการลงทุน
“วันนี้ไทยไม่ใช่แค่มีทางเลือก แต่เราไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้อง 'อยู่รอด' อย่างยั่งยืน จึงต้องใช้จุดแข็งของภูมิประเทศและความมั่นคงทางสังคมเป็นจุดขาย ดึงทุน ดึงงาน สร้างรายได้ให้ประชาชน”
แนะอย่าพึ่งสหรัฐตลาดเดียว หลังเจอภาษีทรัมป์
จากบทเรียนภาษีการค้าของสหรัฐฯ ไทยจะไม่ยึดติดกับตลาดใดตลาดหนึ่งอีกต่อไป พร้อมที่จะต้องเดินหน้าหารือเจรจาทางการค้ากับประเทศอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อขยายฐานการส่งออก นี่คือการปรับเปลี่ยน ไม่ใช่ยอมจำนน
ดังนั้น ภารกิจของรัฐบาลในการวางรากฐานด้านเศรษฐกิจและสังคม เช่น สังคมผู้สูงอายุ การเกษียณ การดูแลสุขภาพ โดยเน้นว่ารัฐจะต้องมีรายได้เพิ่มขึ้นเพื่อดูแลคุณภาพชีวิตประชาชน – และรายได้เหล่านี้จะมาจากภาคธุรกิจที่แข็งแรง ทั้งนี้ รัฐบาลไม่มีวันดูแลคนไทยได้ ถ้าธุรกิจไม่แข็งแรง เพราะเงินทุกบาทมาจากการเก็บภาษีจากธุรกิจ และเราต้องทำให้มันเติบโตอย่างยั่งยืน
แม้รัฐบาลชุดนี้จะมีอายุเพียง 4 เดือน รัฐบาลจะไม่ปล่อยให้การเมือง “บิดเบือนทิศทางเศรษฐกิจ” พร้อมหนุนภาคเอกชนเต็มกำลัง โดยไม่ยอมให้ใครมา “ควบคุมรัฐบาล” โดยไทยต้องเร่งปรับตัวอย่างรวดเร็วในเวทีการค้าโลก และทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน เพื่อวางอนาคตให้ "ไทยยืนได้ด้วยตัวเอง
“ผมยืนยันว่า จะไม่ทำอะไรเกินตัว แต่จะทำทุกอย่างให้พอเพียง พร้อมรับฟังและปรับปรุง เพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง”







