พบ ‘นกเจย์’ ผสมข้ามสายพันธุ์ ตัวแรกของโลก ผลจากโลกร้อน ทำที่อยู่นกเปลี่ยนไป

พบ ‘นกเจย์’ ผสมข้ามสายพันธุ์ ตัวแรกของโลก ผลจากโลกร้อน ทำที่อยู่นกเปลี่ยนไป

พบ “นกเจย์ลูกผสม” ของนกบลูเจย์ที่ผสมพันธุ์กับนกกรีนเจย์ ตัวแรกของโลก ซึ่งเป็นผลมาจาก “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ”

KEY

POINTS

  • พบ ‘กรูเจย์’ (Grue Jay) นกลูกผสมข้ามสายพันธุ์ตัวแรกของโลก ซึ่งเกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างนกบลูเจย์ (Blue Jay) และนกกรีนเจย์ (Green Jay)
  • สาเหตุหลักเกิดจากภาวะโลกร้อนและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ที่ทำให้ถิ่นที่อยู่อาศัยของนกทั้งสองชนิดขยายตัวจนมาทับซ้อนกัน
  • ผลการตรวจดีเอ็นเอยืนยันว่านกตัวดังกล่าวเป็นลูกผสมเพศผู้ โดยมีพ่อเป็นนกบลูเจย์และแม่เป็นนกกรีนเจย์
  • การค้นพบนี้ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบที่ไม่คาดคิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดชุมชนทางนิเวศวิทยาแบบใหม่ๆ

นกเจย์” ตัวหนึ่งสีน้ำเงินตั้งแแต่หัวจรดปลายหาง ตัดกับอกสีขาวและใบหน้าสีดำ ถ้าไม่สังเกตดูดี ๆ ก็อาจจะไม่รู้เลยว่านี่คือ “นกลูกผสม” ระหว่างนกบลูเจย์กับนกกรีนเจย์ ซึ่งน่าจะเป็นสัตว์ที่มีกระดูกสันหลังชนิดแรกที่พบว่ามีการผสมพันธุ์กันข้ามสายพันธุ์ อันเป็นผลมาจากนกทั้งสองชนิดมีที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ตามการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Ecology and Evolution ผู้เขียนตั้งทฤษฎีว่า “ภาวะโลกร้อน” ทำให้นกเจย์ของนกกรีนเจย์ขยายพื้นที่อยู่อาศัยของตนเอง จนไปทับกับพื้นที่ที่นกบลูเจย์อาศัยอยู่ พร้อมระบุว่าหากโลกยังคงร้อนขึ้น ก็น่าจะมีนกลูกผสมอื่น ๆ เกิดขึ้นตามมาอีก

พบ ‘นกเจย์’ ผสมข้ามสายพันธุ์ ตัวแรกของโลก ผลจากโลกร้อน ทำที่อยู่นกเปลี่ยนไป นกลูกผสมที่เกิดจาก บลูเจย์และกรีนเจย์
เครดิตภาพ: Brian Stokes

ถึงแม้ว่านกบลูเจย์และกรีนเจย์จะมีชื่อเดียวกัน แต่นกทั้งสองชนิดก็ไม่ได้จัดอยู่ในสกุลเดียวกัน โดยการศึกษาระบุว่า บรรพบุรุษร่วมกันของนกทั้งสองชนิดมีชีวิตอยู่เมื่ออย่างน้อย 7 ล้านปีก่อน

เดิมทีนกกรีนเจย์มีถิ่นที่อยู่อาศัยจากเทือกเขาแอนดีสทางตอนเหนือในทวีปอเมริกาใต้ ไปจนถึงอเมริกากลางและเม็กซิโก แต่ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา อุณหภูมิโลกที่ร้อนขึ้นทำให้นกกรีนเจย์เขตร้อนสามารถขยายพันธุ์ขึ้นไปทางเหนือมากขึ้น จนถึงตอนใต้ของรัฐเท็กซัส ของสหรัฐ

ขณะเดียวกัน ประชากรนกบลูเจย์ก็แพร่กระจายไปทางทิศใต้และทิศตะวันตกในช่วงไม่กี่ชั่วอายุคนที่ผ่านมา อันเป็นผลมาจากการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ตามที่ผู้เขียนระบุ

สำหรับนกลูกผสมนี้ ปรากฏตัวครั้งแรกในภาพถ่ายของหญิงสาวคนหนึ่ง ที่อาศัยในย่านชานเมืองซานอันโตนิโอ ซึ่งเธอได้โพสต์ลงในกลุ่มเฟซบุ๊กชื่อ Texbirds หลังจากนั้นไบรอัน สโตกส์ นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาสาขานิเวศวิทยา วิวัฒนาการ และพฤติกรรม มหาวิทยาลัยเท็กซัส วิทยาเขตออสติน จึงได้ลงพื้นที่สำรวจ และใช้ใช้เวลาสองวันพยายามจับนกด้วยตาข่าย โดยจับและปล่อยนกตัวอื่น ๆ อีกหลายสิบตัว ก่อนที่จะจับนกตัวที่สงสัยได้ 

นกตัวนี้มีขนสีฟ้าที่หลังและหาง และมีจุดสีขาวบนปีก คล้ายกับนกบลูเจย์ แต่มันไม่มีกระหม่อมแหลมเหมือนนกบลูเจย์ และมีสีดำรอบดวงตา ซึ่งเป็นจุดเด่นของนกกรีนเจย์ นกตัวนี้อาศัยอยู่กับฝูงนกบลูเจย์ แต่เสียงร้องของมันดังกระหึ่มหมือนนกกรีนเจย์อีกด้วย ด้วยเหตุนี้นักวิจัยจึงตั้งชื่อเรียกให้นกตัวนี้ว่า “กรูเจย์” (Grue Jay) ซึ่งมาจากการรวมชื่อของกรีนเจย์และบลูเจย์

เมื่อจับนกตัวนี้ได้ นักวิจัยได้ติดแท็กนกปริศนาตัวนี้และเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อเก็บตัวอย่างทางพันธุกรรม จากตัวอย่างเลือดและการวิเคราะห์ดีเอ็นเอ สามารถระบุได้ว่านกตัวนี้เป็นลูกผสมเพศผู้ โดยมีพ่อเป็นนกบลูเจย์ และแม่เป็นนกกรีนเจย์

การค้นพบนี้ว่าเป็นหนึ่งในผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึงมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อภาวะโลกร้อนและการพัฒนาที่ดินมาบรรจบกัน ผลักดันให้ประชากรสัตว์อพยพไปยังถิ่นที่อยู่อาศัยใหม่ นักวิจัยยืนยันว่าสิ่งนี้อาจนำไปสู่ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสัตว์ที่คาดเดาไม่ได้ ซึ่งในกรณีของนกเจย์ลูกผสมนี้คือ ระหว่างสัตว์เขตร้อนและสัตว์เขตอบอุ่น และก่อให้เกิดชุมชนทางนิเวศวิทยาที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน


พบ ‘นกเจย์’ ผสมข้ามสายพันธุ์ ตัวแรกของโลก ผลจากโลกร้อน ทำที่อยู่นกเปลี่ยนไป (ซ้าย) นกบลูเจย์
(กลาง) นกกรูเจย์ นกลูกผสมข้ามสายพันธุ์
(ขวา) นกกรีนเจย์
เครดิตภาพ: The College of Natural Sciences at The University of Texas at Austin

ทิโมธี คีตต์ ศาสตราจารย์ด้านชีววิทยาเชิงบูรณาการ มหาวิทยาลัยเท็กซัส วิทยาเขตออสติน ผู้ร่วมเขียนงานวิจัย กล่าวว่า “นกสายพันธุ์ที่อาจไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กันมานานหลายล้านปี กลับมาเจอกันอย่างกะทันหัน เราเชื่อว่าน่าจะเป็นผลมาจากปัจจัยจากการกระทำของมนุษย์ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการปรับเปลี่ยนถิ่นที่อยู่อาศัย”

เกวิน เอ็ม. ไลตัน รองศาสตราจารย์ด้านชีววิทยา มหาวิทยาลัยบัฟฟาโลสเตจ ผู้ซึ่งทำการวิจัยเกี่ยวกับแนวโน้มการผสมพันธุ์ในนกป่าและไม่ได้มีส่วนร่วมในการศึกษานี้ รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับการจับคู่ผสมพันธุ์ของนกทั้งสองสายพันธุ์ 

เขากล่าวว่า การผสมพันธุ์นี้เกิดจากการระบุตัวตนที่ผิดพลาด นกสองตัวที่ไม่รู้ว่ากำลังผสมพันธุ์กับนกอีกสายพันธุ์หนึ่ง พร้อมกล่าวว่ามีนกหลายชนิดที่ผสมข้ามสายพันธุ์ แต่พวกมันมีมักผสมพันธุ์กันในชนิดที่มีความใกล้ชิดกันมากกว่านี้ 

ดังนั้นนกเจย์ลูกผสมนี้จึงถือเป็น “เรื่องเหลือเชื่อทางชีววิทยา” เพราะนกเจย์ทั้งสองสายพันธุ์นี้สร้างความสัมพันธ์ทางสังคมระยะยาวกับคู่ผสม โดยปรกติแล้วพวกมันจะค่อนข้างเลือกมากว่าจะจับคู่กับใคร ยิ่งไปกว่านั้นนกเจย์เป็นนกที่ฉลาดมาก ที่สำคัญนกบลูเจย์และนกกรีนเจย์มีลักษณะที่แตกต่างกันมาก พวกมันไม่น่าจะมีปัญหาในการแยกแยะตัวเอง

เลย์ตันสันนิษฐานว่า การผสมพันธุ์ของนกบลูเจย์และกรีนเกย์อาจเกิดขึ้นในช่วงปลายฤดูผสมพันธุ์ ที่นกกำลังถูกกดดันให้รีบมีคู่ 

นักปักษีวิทยาและนักอนุรักษ์ได้สังเกตการณ์ผลกระทบของภาวะโลกร้อนที่มีต่อนกและถิ่นที่อยู่อาศัยของพวกมันมานานแล้ว ในแถลงการณ์ประกาศการค้นพบนี้ สโตกส์กล่าวว่าการผสมพันธุ์ตามธรรมชาติน่าจะเกิดขึ้นบ่อยกว่าที่นักวิจัยรู้ เพราะยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมายที่ไม่สามารถรายงานเหตุการณ์เหล่านี้ได้

จิม เรย์โนลด์ส ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านปักษีวิทยา มหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม ซึ่งไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการศึกษานี้ กล่าวว่า การผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์ในนกพบได้บ่อยที่สุดใน “นกน้ำ” ซึ่งการข้ามสายพันธุ์นี้เป็นเรื่องที่น่ากังวล เพราะหากเกิดการผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์กันมากเข้า อาจจะทำให้ยีนของนกสายพันธุ์ดั้งเดิมสายพันธุ์ใดสายพันธุ์หนึ่งเจือจางลงและหายไปทั้งหมด เหมือนกับที่เคยเป็นกังวลกับเป็ดรัดดี้และเป็ดหัวแดงในสเปน

แต่นี่อาจจะยังไม่เกิดขึ้นในกรณีของนกเจย์ลูกผสม เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์สามารถพิสูจน์การมีอยู่ของนกได้เพียงตัวเดียวเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ยังมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้อีกมากมายจากนกชนิดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งว่ามันจะสามารถมีคู่ผสมพันธุ์และผลิตลูกหลานได้หรือไม่ เพราะมีปัจจัยหลายประการที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการผสมพันธุ์แบบลูกผสม


ที่มา: ABC NewsCNNThe Washington Post

 

พบ ‘นกเจย์’ ผสมข้ามสายพันธุ์ ตัวแรกของโลก ผลจากโลกร้อน ทำที่อยู่นกเปลี่ยนไป

นกลูกผสมที่เกิดจาก บลูเจย์และกรีนเจย์
เครดิตภาพ: Brian Stokes