‘จีน’ ใช้ ‘เอไอ’ สร้างเขื่อนหินถมหน้าคอนกรีตสูงในโลก ป้องกันน้ำท่วม ต้านภัยแล้ง

‘จีน’ ใช้ ‘เอไอ’ สร้างเขื่อนหินถมหน้าคอนกรีตสูงในโลก ป้องกันน้ำท่วม ต้านภัยแล้ง

“จีน” เปิดใช้งาน “เขื่อนต้าสือเสีย” (Dashixia) ที่สร้างด้วย “เอไอ” ซึ่งเป็นเขื่อนหินถมหน้าคอนกรีตที่สูงที่สุดในโลก

KEY

POINTS

  • จีนเปิดใช้งานเขื่อนต้าสือเสียในซินเจียง ซึ่งเป็นเขื่อนหินถมดาดหน้าคอนกรีตที่สูงที่สุดในโลก (247 เมตร)
  • เป็นเขื่อนแห่งแรกของโลกที่ก่อสร้างโดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ดิจิทัลทวิน และอุปกรณ์ไร้คนขับ ทำให้การก่อสร้างเสร็จเร็วกว่ากำหนด
  • มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อควบคุมน้ำท่วมรุนแรง แก้ปัญหาภัยแล้งโดยส่งน้ำเพื่อการเกษตร และผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาด
  • โครงการนี้จะช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศในลุ่มแม่น้ำทาริม และเพิ่มการจ้างงานให้กับคนในท้องถิ่น

จีนเริ่มเปิดกักเก็บน้ำใน “โครงการควบคุมน้ำเขื่อนต้าสือเสีย” (Dashixia Water Control Project) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถือเป็นเขื่อนหินถมดาดหน้าด้วยคอนกรีตที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูง 247 เมตร เทียบเท่ากับอาคารสูง 80 ชั้น มีปริมาตรน้ำรวม 18.9 ล้านลูกบาศก์เมตร เพียงพอสำหรับสระว่ายน้ำมาตรฐาน 7,560 สระ

เขื่อนนี้ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางและตอนล่างของแม่น้ำกุมารัก ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ และยังเป็นเขื่อนแห่งแรกของโลกที่ก่อสร้างโดยใช้เทคโนโลยีและการก่อสร้างด้วยปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีดิจิทัลทวิน รวมถึงการใช้งานอุปกรณ์ไร้คนขับ

สถานีโทรทัศน์ CGTN ของรัฐ ระบุว่า “โครงการนี้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลทวิน เทคโนโลยี AI และบล็อกเชน เพื่อสร้างการก่อสร้างอัจฉริยะที่คล้ายกับการพิมพ์ 3 มิติ สำหรับรับมือกับความท้าทายด้านแผ่นดินไหวและธรณีวิทยา”

สำหรับเขื่อนหินถมดาดหน้าด้วยคอนกรีต (Concrete Faced Rockfill Dam) เป็นเขื่อนประกอบด้วยหินหรือกรวดขนาดใหญ่ที่อัดแน่นและกันน้ำ โดยมีแผ่นคอนกรีตปิดทับอยู่ด้านเหนือน้ำ ซึ่งในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา เขื่อนประเภทนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากปลอดภัยกว่า ต้นทุนต่ำกว่า และเหมาะสมกับโครงสร้างที่สูง

เขื่อนนี้ออกแบบโดยบริษัทวิศวกรรมพลังงานแห่งรัฐ (China Energy Engineering Corporation) เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2026 เขื่อนจะมีความจุอ่างเก็บน้ำ 1,170 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะส่งน้ำไปยังพื้นที่เพาะปลูกกว่า 533,000 เฮกตาร์ในลุ่มแม่น้ำอักซูและลุ่มแม่น้ำทาริม และคาดว่าเขื่อนแห่งนี้จะช่วยควบคุมน้ำท่วมและลดการเกิดน้ำท่วมรุนแรงได้

‘จีน’ ใช้ ‘เอไอ’ สร้างเขื่อนหินถมหน้าคอนกรีตสูงในโลก ป้องกันน้ำท่วม ต้านภัยแล้ง

ด้วยกำลังการผลิตติดตั้งรวม 750,000 กิโลวัตต์ เขื่อนแห่งนี้จะผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 1,900 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมงต่อปี ช่วยประหยัดถ่านหินมาตรฐานได้ 600,000 ตันต่อปี และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 2.4 ล้านตัน เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 124 ล้านต้น เมื่อเปิดใช้งานแล้ว เขื่อนนี้จะทำหน้าที่เป็น “ตัวควบคุมแรงดันไฟฟ้า” ให้กับระบบไฟฟ้าของซินเจียงตอนใต้

หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลีของรัฐบาลจีนรายงานว่า สำหรับการออกแบบและสร้างเขื่อนได้มีการใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะมากมายเข้าช่วย ทำให้สามารถเสร็จงานได้เร็วกว่ากำหนดถึง 8 เดือน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์เพื่อวิเคราะห์ตำแหน่ง การประมวลผลแบบคลาวด์ ปัญญาประดิษฐ์ และการสร้างแบบจำลองข้อมูลอาคาร (BIM) หรือการใช้แบบจำลอง 3 มิติอัจฉริยะ เพื่อสร้างโครงการในรูปแบบดิจิทัลที่ช่วยให้การก่อสร้างและการดำเนินงานสะดวกสบายยิ่งขึ้น

BIM เป็นกระบวนการดิจิทัลที่สามารถใช้งานได้ตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงการรื้อถอน โดยเป็นแหล่งข้อมูลส่วนกลางสำหรับโครงการ

หวัง เฟิงปิน รองหัวหน้าวิศวกรของ China Gezhouba Group บริษัทก่อสร้างและวิศวกรรมที่เกี่ยวข้องกับโครงการเขื่อน ให้สัมภาษณ์กับ CGTN ว่า BIM ถูกนำมาใช้เพื่อสร้างคลังข้อมูลขนาดใหญ่สำหรับโครงการนี้

“ด้วยการจัดตั้งระบบการจัดการแพลตฟอร์มคลาวด์ เราจึงมุ่งมั่นที่จะบริหารจัดการและควบคุมอย่างชาญฉลาดตลอดกระบวนการทั้งหมด พร้อมด้วยระบบตรวจสอบสภาพอากาศ คุณภาพอากาศ และน้ำอัตโนมัติ รวมถึงเครือข่ายแผ่นดินไหว” หวังกล่าว

การใช้เทคโนโลยี AI ยังช่วยแก้ปัญหาอุปสรรคทางเทคโนโลยีในการสร้างเขื่อน รวมถึงการทดสอบความชื้นและคุณภาพการอัดแน่น ณ สถานที่ก่อสร้าง

จากการทดสอบแบบจำลองเขื่อนสองแห่งที่สูงที่สุดในจีน ซึ่งแห่งหนึ่งเป็นเขื่อนคอนกรีตและอีกแห่งหนึ่งเป็นเขื่อนแกนดิน พบว่าประสิทธิภาพในการป้องกันแผ่นดินไหวของเขื่อนคอนกรีตมีประสิทธิภาพดีกว่า 

นั่นชี้ให้เห็นว่าเขื่อนคอนกรีตน่าจะเหมาะสมกว่าในการต้านทานแผ่นดินไหว จากข้อมูลของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แห่งประเทศจีน และห้องปฏิบัติการหลักของรัฐด้านการควบคุมวัฏจักรน้ำในลุ่มแม่น้ำในกรุงปักกิ่ง

หวง จิน จาก บริษัท ซินเจียง ต้าชิเซีย วอเตอร์ คอนเซอร์เวทีฟ แมเนจเมนท์ จำกัด กล่าวว่า โครงการนี้สร้างผลกระทบเชิงบวกมากมาย เพราะตลอดการก่อสร้าง การกักเก็บน้ำ และการดำเนินงานของเขื่อน ทำให้มั่นใจได้ว่าจะมีน้ำประปาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมถึง 3,400 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี

เมื่อเขื่อนนี้สร้างเสร็จ การเกิดน้ำท่วมในลุ่มแม่น้ำอาคซูจะลดลงอย่างมาก จากเดิมที่จะเกิดน้ำท่วมร้ายแรงในทุก 10 ปี จะเปลี่ยนเป็นทุก 50 ปี นอกจากนี้ยังช่วยปรับปรุงระบบชลประทานให้ดีขึ้นและช่วยเพิ่มการผลิตพลังงานสะอาด ที่สำคัญคือเพิ่มการจ้างงาน โดยปัจจุบันมีการจ้างงานชาติพันธุ์ในท้องถิ่นเพิ่มขึ้นมากกว่า 40% เพิ่มจากในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ที่มีน้อยกว่า 2%

เพื่อปกป้องประชากรปลาในท้องถิ่น โครงการได้ดำเนินมาตรการอนุรักษ์ปลาด้วยเงินลงทุนรวม 65 ล้านหยวน (ราว 296 ล้านบาท) ในปีนี้ มีการปล่อยลูกปลาจำนวน 92,000 ตัวลงสู่แม่น้ำกุมารัก เพื่อปรับปรุงระบบนิเวศทางน้ำและเพิ่มความหลากหลายของสายพันธุ์

หลังจากโครงการควบนี้เสร็จสมบูรณ์ จะสามารถส่งน้ำเชิงนิเวศมากกว่า 3,400 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปีสู่แม่น้ำทาริม ซึ่งจะช่วยปรับปรุงสภาพแวดล้อมของลุ่มน้ำ ซึ่งจะทำให้ภูมิภาคนี้จะไม่เป็นดินแดนรกร้างอีกต่อไป แต่จะเป็นโอเอซิสที่สิ่งมีชีวิตทุกชนิดสามารถเจริญเติบโตได้


ที่มา: CGTNSouth China Morning PostWION

‘จีน’ ใช้ ‘เอไอ’ สร้างเขื่อนหินถมหน้าคอนกรีตสูงในโลก ป้องกันน้ำท่วม ต้านภัยแล้ง