SX2025 มหกรรมความยั่งยืน 10 วัน 10 โซน ยิ่งใหญ่สุดในอาเซียน

งาน SX2025 เป็นมหกรรมด้านความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน จัดขึ้น 10 วันเต็ม ระหว่างวันที่ 26 กันยายน - 5 ตุลาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
KEY
POINTS
- งาน SX2025 เป็นมหกรรมด้านความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน จัดขึ้น 10 วันเต็ม ระหว่างวันที่ 26 กันยายน - 5 ตุลาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
- ชูแนวคิด "พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก" โดยเน้นเรื่อง "การปรับตัวและร่วมมือ" มีองค์กรชั้นนำกว่า 270 แห่ง และวิทยากรจากทั่วโลกกว่า 750 คนเข้าร่วม
- ภายในงานแบ่งออกเป็น 10 โซนหลัก ครอบคลุมกิจกรรมหลากหลาย เช่น นิทรรศการ, การประชุมระดับนานาชาติ, เวิร์กชอป, ตลาดสินค้ารักษ์โลก และเทศกาลอาหารยั่งยืน
มหกรรม “SUSTAINABILITY EXPO 2025 (SX2025)” พร้อมเปิดฉากยิ่งใหญ่ 10 วัน ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชูแนวคิด “พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก” ตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน-วันที่ 5 ตุลาคม 2568 เวลา 10.00-20.00 น. ดึง 270 องค์กรชั้นนำ และ 750 วิทยากรจากทั่วโลก ร่วมขับเคลื่อนยุคแห่งการลงมือทำ
งาน Sustainability Expo จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ที่ได้น้อมนำพระปฐมบรมราชโองการตามพระราชปณิธานการสืบสาน รักษา ต่อยอด ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรมาเป็นแนวทางการจัดงานร่วมกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก (SDGs)
สำหรับปีนี้ มุ่งเน้นไปที่เรื่อง “การปรับตัว และร่วมมือ” (Adaptation & Collaboration) โดยมีเป้าหมายเพื่อรวมพลังทุกภาคส่วนในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อโลกที่น่าอยู่อย่างยั่งยืน พร้อมทั้งสร้างการตระหนักรู้ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ และขยายแพลตฟอร์มความร่วมมือไปยังเครือข่ายนานาชาติ ในงานครอบคลุมพื้นที่กว่า 70,000 ตารางเมตร
รวมทั้งมีการคาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าร่วมเรียนรู้ด้านความยั่งยืนกว่าแสนคน โดยมีองค์กรชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศกว่า 270 แห่ง และวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืนกว่า 750 ท่านจากทั่วโลกเข้าร่วมแบ่งปันประสบการณ์และองค์ความรู้
กิจกรรมและสิ่งที่จะได้เห็นใน SX2025
ผู้เข้าชมงานจะได้ก้าวเข้าสู่โลกแห่งความยั่งยืนผ่าน 5 โซนนิทรรศการหลัก และ 4 Conversion Zones ที่จะเปลี่ยนแนวคิดให้เป็นการลงมือทำจริง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมหลากหลายมิติ ทั้งการประกวด เวิร์กชอป คอนเสิร์ตการกุศล และเวทีพบปะพูดคุยกับหน่วยงานสำคัญต่าง ๆ กิจกรรมไฮไลต์สำคัญ ได้แก่
1. Enactus World Cup 2025 Presented by ThaiBev: นับเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรอบตัดสิน 3 วัน โดยนักศึกษาผู้ประกอบการเพื่อสังคมรุ่นใหม่จาก 32 ประเทศจะมาประชันโครงการเพื่อสังคมที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
2. Thailand Climate Action Conference (TCAC 2025): การประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาโลกร้อนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ภายใต้แนวคิด “จุดประกายความคิด ร่วมพลิกวิกฤตโลกเดือด” โดยมีการเสวนาเกี่ยวกับ พ.ร.บ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, การเงินสีเขียว, และบทบาทพลังเยาวชน
3. SX Youth Speech Contest 2025: เวทีให้เยาวชนแสดงวิสัยทัศน์ภายใต้หัวข้อ “ปรับตัวไปด้วยกัน เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน”
4. SX Talk Stage และ Workshops: เวทีแลกเปลี่ยนมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญกว่า 750 ท่าน พร้อมเวิร์กชอปให้คุณได้ลงมือทำจริง
5. B2B Events: กิจกรรม Business-to-Business ที่ออกแบบมาเป็นแพลตฟอร์มความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน อาทิ CSO Forum, Water 2030 Forum, SE Forum 2025 และ Smart & Livable City Expo 2025 (SLIC EXPO)
6. คอนเสิร์ตการกุศล: มีคอนเสิร์ตรอบพิเศษ “คืนรอยยิ้มให้โรงเรียนที่ได้รับความเสียหาย” โดยมูลนิธิพลังน้ำใจไทย และคอนเสิร์ต “Royal Jazz for the Chaipattana Foundation Volume 2” เพื่อนำรายได้มอบให้มูลนิธิชัยพัฒนา
เจาะลึก 4 โซนหลัก และพื้นที่ประสบการณ์ (ชั้น G และ LG)
1. SEP INSPIRATION (PROLOGUE) โซนนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่ความยั่งยืน นำเสนอเรื่องราวการปรับตัวและความยืดหยุ่นในทุกมิติ โดยเริ่มต้นด้วย SKY, LAND, SEA: PROLOGUE EXHIBITION ที่นำเสนอมุมมองของ 3 นักสำรวจจากเนชั่นแนล จีโอกราฟิก เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม
- โครงการพระราชดำริและองค์กรหลัก: นำโดย มูลนิธิชัยพัฒนา ซึ่งน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการพัฒนาประเทศจนเกิดเป็น “ชัยชนะแห่งการพัฒนา”
- นานาชาติ: มีการจัดแสดงนิทรรศการจากองค์กรระหว่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูต และหน่วยงานชั้นนำ อาทิ องค์กรสหประชาชาติในประเทศไทย, ศูนย์อาเซียน ว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ (ACB). รวมถึงการนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีจากประเทศต่าง ๆ เช่น จีน, ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, อิตาลี, เนเธอร์แลนด์, นิวซีแลนด์, สวีเดน, สหราชอาณาจักร, และหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (JFCCT)
2. BETTER ME (ชีวิตที่ดียั่งยืนเริ่มต้นที่ตัวเรา) โซนนี้ชวนให้ทุกคนค้นพบว่าชีวิตที่ดีและมีคุณภาพเริ่มต้นได้ที่ตัวเรา เน้นการปรับตัวด้านสุขภาพและการดำรงชีวิตอย่างมีความสุขเพื่อรองรับช่วงอายุที่ยืนยาวขึ้น
- สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี: ผู้เข้าชมจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับความก้าวหน้าทางการแพทย์เฉพาะบุคคล (Personalized Medicine) และประโยชน์ของการตรวจ DNA. พร้อมนำเสนอนวัตกรรมสุขภาพที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตคนไทย เช่น ส้อมวัดความเค็ม (เพื่อลดความเสี่ยงโรคไต/ความดันโลหิตสูง) และนวัตกรรมป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุ
- การเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning): โซนนี้ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ที่ต่อเนื่องตลอดช่วงวัย ผ่านโครงการต่าง ๆ อาทิ Partnership School, CONNEXT ED, และ Win Win WAR OTOP Junior
- SX Sensory Experience: กิจกรรมจำลองให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้ข้อจำกัดและความท้าทายของผู้ที่มีความบกพร่องทางสายตาและการได้ยิน เพื่อเสริมสร้างความพร้อมในการช่วยเหลือในสถานการณ์ฉุกเฉิน
3. BETTER LIVING (ตื่นรู้และปรับตัว เตรียมพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลง) เนื่องจากภัยพิบัติทางธรรมชาติรุนแรงและถี่ขึ้น โซนนี้จึงเชิญชวนให้ทุกคน “ตื่นรู้และปรับตัว” เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change Adaptation) และมีนิทรรศการหลัก 3 ส่วน ได้แก่
- Rising Awareness: นำเสนอความเชื่อมโยงของ Climate Change กับภัยธรรมชาติผ่านประสบการณ์ 4D Immersive Experience จำลองสถานการณ์ภัยพิบัติเสมือนจริง
- Survive Extreme Weather: นำเสนอแนวทางเอาตัวรอดในสภาวะอากาศสุดขั้ว พร้อมกิจกรรม Interactive
- Adaptation to Climate Change: สำรวจแนวทางการปรับตัวระยะยาว เช่น การออกแบบบ้านรับมือเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น และการแก้ปัญหาโดยอาศัยธรรมชาติเป็นพื้นฐาน (Nature-based Solutions)
- นวัตกรรมจากภาคธุรกิจ: องค์กรเอกชนชั้นนำของไทยและพันธมิตรระดับโลก เช่น World Bank และ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (เข้าร่วมเป็นปีแรก) จะจัดแสดงความสำเร็จด้านการประหยัดพลังงาน, การขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน, และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
4. BETTER COMMUNITY (สำรวจพลังของชุมชนและจิตอาสา) โซนนี้รวมพลังชุมชนเพื่อการปรับตัวและอยู่รอดไปด้วยกันในวิกฤตโลกรวน โดยเชื่อว่าทุกคนคือพลังสำคัญในการสร้างเมืองที่ดีและยั่งยืน
- Active Citizen: ผู้เข้าชมจะได้พบกับบทบาทของนักลงมือทำและอาสาสมัครจากเครือข่ายกว่า 50 องค์กร ที่จะจุดประกายให้คุณลุกขึ้นมาเป็น Active Citizen
- พื้นที่สร้างสรรค์ 3 ส่วน 1. Inspiring Showcase: เรื่องราวของเครือข่ายพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและเครือข่ายเมืองเพื่อทุกคน 2. Connect the Dots: จุดเปิดรับอาสาสมัคร พร้อมกิจกรรมสำรวจตนเองเพื่อค้นหางานอาสาที่เหมาะสม และ 3. Gathering Space: พื้นที่แบ่งปันความรู้จากประสบการณ์ของผู้ลงมือทำจริง
- การพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน: บูทจากภาคธุรกิจและองค์กรพันธมิตรจากแวดวงต่าง ๆ อาทิ ธนาคาร, อสังหาริมทรัพย์, และสายการบิน จะมาร่วมแบ่งปันเรื่องราวการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน
5. BETTER WORLD (โลกแห่งศิลปะเพื่อสิ่งแวดล้อม) โซนนี้ชวนเปิดประตูสู่โลกนิทรรศการศิลปะที่สะท้อนการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม สังคม และความจริงอันเปราะบางของโลก โดยใช้ศิลปะแขนงต่าง ๆ รวมถึงงานจัดวางจากวัสดุเหลือใช้
- นิทรรศการเด่นที่เน้น “น้ำ”: หัวข้อหลักของงานประกวดในปีนี้คือ “น้ำ” อาทิ ศิลปกรรมช้างเผือก ครั้งที่ 14 หัวข้อ “น้ำกับความเปลี่ยนแปลง”, การประกวดสารคดีภาพถ่าย 10 ภาพเล่าเรื่อง หัวข้อ “WATER OF LIFE”, และ Trash to Treasure Art & Design Contest ภายใต้แนวคิด “น้ำแห่งชีวิต”
- อื่นๆ: มีการจัดแสดง Shaper Award Hall of Fame 2020-2025 เพื่อยกย่องบุคคลและองค์กรที่มีผลงานจริงจังด้านความยั่งยืน.
6. SX FOOD FESTIVAL (มหกรรมอาหารยั่งยืน) มหกรรมอาหารยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยกลับมาเป็นครั้งที่ 4 ภายใต้แนวคิด “WORLD FOOD COLLABORATION”
- ประสบการณ์การบริโภคที่ยั่งยืน: ผู้เข้าชมจะได้ลิ้มลองเมนูจากกว่า 160 ร้าน ที่เน้นการดูแลสิ่งแวดล้อมตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ การลดการใช้พลาสติก ไปจนถึงการจัดการขยะอาหารอย่างใส่ใจ
- ไฮไลต์: พบกับ Celebrity Chef จาก Master Chef, Top Chef, Iron Chef, และ Hell’s Kitchen ที่จะมารังสรรค์เมนูอาหารที่เปี่ยมคุณค่าทางโภชนาการและสะท้อนแนวคิดการทำอาหารอย่างยั่งยืน
7. SX MARKETPLACE (ตลาดสร้างสรรค์เพื่อโลก) โซนนี้มีร้านค้ารักษ์โลกกว่า 235 ร้าน ชวนคุณมาชอปเปลี่ยนโลกสู่ไลฟ์สไตล์ที่ยั่งยืน
- สินค้า 4 หมวดหลัก: 1.Innovation for Better Living (นวัตกรรมยกระดับคุณภาพชีวิต) 2.Design for Low-Carbon Lifestyle (ผลิตภัณฑ์ลดคาร์บอน) 3.Empower Local Communities (งานฝีมือจากชุมชน) 4.Future Urban Farming (โซลูชันเกษตรสำหรับคนเมือง)
- Market Square: สนามทดลองนวัตกรรมและสินค้าเพื่อการใช้ชีวิตยั่งยืน
8. SX REPARTMENT STORE (ร่วมให้ ร่วมแบ่งปัน เปลี่ยนของเบื่อให้เป็นบุญ) โครงการนี้ดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เป็นพื้นที่แห่งการแบ่งปันอย่างครบวงจร
- การดำเนินงาน: เริ่มจากจุดรับบริจาค “ของนอกสายตาสภาพดี” ด้านหน้า Hall 8 นำมาคัดแยกและจำหน่ายในร้านค้า (Hall 7) โดยรายได้ทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่ายจะมอบให้แก่มูลนิธิชัยพัฒนา
- กิจกรรมพิเศษ: มีเวิร์กชอปฟรี “From Cloth to Tote” เปลี่ยนเสื้อผ้าเก่าเป็นกระเป๋าผ้า และสร้างโอกาสการทำงานให้กลุ่มเปราะบางจากโครงการจ้างวานข้า มูลนิธิกระจกเงา
9. SX KIDS ZONE (เปิดโลกการผจญภัย เรียนรู้ให้อยู่รอด เล่นให้รู้ปรับตัวให้เป็น) โซนนี้ถูกออกแบบมาเพื่อปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งอนาคต ให้เด็กๆ ได้ “เล่น-ทดลอง-เรียนรู้” เกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน
- นิทรรศการไฮไลต์: นิทรรศการ Adaptation Adventures สอนเรื่องการปรับตัวของสัตว์และสิ่งแวดล้อมด้วยเทคนิค Sensory Play และนิทรรศการ Sustainability and Whales Exhibition by CRYSTAL ที่รณรงค์การอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำและสิ่งมีชีวิตในทะเล
- กิจกรรม: มีเวทีกลางให้ความรู้, Kids Weekend Market, และ Chess Kids Club
10.งานสัมมนาและเครือข่ายธุรกิจเพื่อความยั่งยืน (B2B) ร่วมเจาะลึกแนวทางธุรกิจยั่งยืน ที่จะสร้างความเชื่อมโยงและพลังความร่วมมือทุกภาคส่วนทั้งในระดับประเทศและระดับโลก เพื่อค้นหาคำตอบและทางรอดให้กับสังคมในยุคสมัยนี้ไปด้วยกัน
SX2025 เน้นย้ำว่า ทุก “พลังร่วม” มีส่วนสำคัญในการผลักดันหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สู่การเปลี่ยนแปลงที่ “ยั่งยืน” เพื่อโลกอย่างแท้จริง







