เปิด 3 สาเหตุ หลุมยุบหน้า รพ.วชิรพยาบาล กรมทรัพยากรธรณี ชี้ ไม่ใช่ภัยธรรมชาติ

กรมทรัพยากรธรณีสรุปว่า เหตุหลุมยุบหน้า รพ.วชิรพยาบาล ไม่ใช่ภัยธรรมชาติทางธรณีวิทยา เนื่องจากลักษณะการยุบตัวเป็นบล็อกตามแนวถนน ไม่ใช่วงกลมเหมือนหลุมยุบตามธรรมชาติ
KEY
POINTS
- กรมทรัพยากรธรณีสรุปว่าเหตุหลุมยุบหน้า รพ.วชิรพยาบาล ไม่ใช่ภัยธรรมชาติทางธรณีวิทยา เนื่องจากลักษณะการยุบตัวเป็นบล็อกตามแนวถนน ไม่ใช่วงกลมเหมือนหลุมยุบตามธรรมชาติ
- สาเหตุหลักเกิดจากความไม่มั่นคงของชั้นดินถมที่ใช้เป็นฐานรากในการก่อสร้างถนน ซึ่งเมื่อเกิดโพรงใต้ดินจึงนำไปสู่การยุบตัวขนาดใหญ่
- ปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้ดินยุบตัวมี 3 ประการ คือ ท่อประปาแตกทำให้น้ำรั่วซึม, ฝนตกหนักต่อเนื่อง และผลกระทบจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินในบริเวณใกล้เคียง
เหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.13 น. โดยผิวถนนยุบได้เกิดการยุบตัวเป็นแนวยาว จากนั้นเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เวลาประมาณ 07.45 น. หลุมยุบขยายวงกว้างครอบคลุมหลายช่องทางการจราจร ส่งผลให้ เสาไฟฟ้าหักโค่น และรถยนต์บางส่วนถูกดูดตกลงไปในหลุม เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเร่งปิดกั้นเส้นทาง และอำนวยความปลอดภัย โดยโชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
วันนี้ (24 กันยายน 2568) เวลา 09.30 น. "ดร.ชญานันท์ ภักดีจิตต์" ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำคณะผู้เชี่ยวชาญจาก กรมทรัพยากรธรณี พร้อมด้วย ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุการณ์ หลุมยุบขนาดใหญ่ บริเวณถนนด้านหน้า โรงพยาบาลวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร หลังเกิดเหตุเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา
ผลการตรวจสอบ ไม่เกี่ยวข้องกับธรณีวิทยาโดยตรง
ภายหลังการตรวจสอบพื้นที่เวลา 08.45 น. ทีมผู้เชี่ยวชาญจากกรมทรัพยากรธรณีพบว่า พื้นที่ดังกล่าวมีลักษณะทางธรณีวิทยาเดิมเป็น ชั้นดินเหนียว (Bangkok Clay) หนาประมาณ 25 เมตร ทับด้วยดินถมที่ใช้เป็นฐานรากของการก่อสร้างถนน
ดร.ชญานันท์ อธิบายว่า การยุบตัวครั้งนี้ไม่ใช่ปรากฏการณ์ธรรมชาติทางธรณีวิทยา เนื่องจากโดยทั่วไป “หลุมยุบธรรมชาติ” จะมีลักษณะเป็นวงกลม แต่กรณีนี้กลับยุบตัวตามแนวถนนในลักษณะเป็นบล็อก จึงสรุปเบื้องต้นว่าเกิดจากความไม่มั่นคงของชั้นดินถมที่ใช้สร้างถนน
ปัจจัยกระตุ้นหลายด้าน
การตรวจสอบชี้ให้เห็นว่ามีหลายปัจจัยที่อาจกระตุ้นให้เกิดการยุบตัว ได้แก่
- ท่อประปาแตก ทำให้น้ำรั่วซึมลงใต้ดิน และชะล้างดินถม
- ฝนตกหนักต่อเนื่อง เพิ่มการกัดเซาะชั้นดิน
- โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินในพื้นที่ใกล้เคียง อาจมีผลต่อเสถียรภาพของชั้นดิน
ทั้งหมดนี้ส่งผลให้เกิดโพรงใต้ดินเฉพาะที่ และนำไปสู่การเลื่อนตัวของชั้นดินจนกลายเป็นหลุมยุบขนาดใหญ่
แผนฟื้นฟู และสร้างความมั่นใจ
ดร.ชญานันท์ ย้ำว่า ได้มอบหมายให้กรมทรัพยากรธรณีเร่ง ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรุงเทพมหานคร การประปานครหลวง และการไฟฟ้านครหลวง เพื่อดำเนินมาตรการแก้ไข และวางแผนฟื้นฟูพื้นที่โดยเร็ว พร้อมทั้งชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสาธารณชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดความตื่นตระหนก และสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน
นอกจากนี้ จะมีการตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อตรวจสอบเส้นทางถนนสายหลักในกรุงเทพมหานคร ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดหลุมยุบ โดยเฉพาะพื้นที่ที่อยู่ใกล้แนวการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ และมีระบบสาธารณูปโภคใต้ดินหนาแน่น
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์





