SX2025 จัดแข่งคนรุ่นใหม่ Enactus World Cup + โซน Inter โชว์นวัตกรรมกู้โลกรวน

เป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดงาน “Enactus World Cup 2025” เวทีระดับโลกที่รวบรวมพลังของนักศึกษามานำเสนอโครงการนวัตกรรมและธุรกิจเพื่อสังคม
เป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดงาน “Enactus World Cup 2025” เวทีระดับโลกที่รวบรวมพลังของนักศึกษาผู้นำการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่จากกว่า 32 ประเทศ มานำเสนอโครงการนวัตกรรมและธุรกิจเพื่อสังคม ที่สร้างผลกระทบเชิงบวกและขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน
การจัดงานในปีนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง มูลนิธิรากแก้ว และ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ Enactus Global พร้อมด้วยเครือข่ายพันธมิตรจากภาคเอกชนและองค์กรไม่แสวงหากำไร โดยมีความพิเศษตรงที่ “Enactus World Cup 2025” จะจัดขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของงาน Sustainability Expo 2025 (SX2025) ระหว่างวันที่ 26-28 ก.ย.2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร
“ต้องใจ ธนะชานันท์” ผู้อำนวยการคณะจัดงาน SX2025 กล่าวว่า การได้ร่วมได้ร่วมเป็นหนึ่งในเจ้าภาพร่วมของ Enactus World Cup 2025 ถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญ เพราะ Enactus มีบทบาทสำคัญในการร่วมขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ภายในปี 2030 โดยใช้ SDGs เป็นกรอบแนวทางในการดำเนินโครงการด้านความยั่งยืน รวมถึงการจัดประเภทและวัดผลกระทบที่เกิดจากผลงานของนิสิตนักศึกษาในแต่ละปี
ปัจจุบัน Enactus เป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ที่มีนักศึกษาเข้าร่วมมากกว่า 72,000 คน จากกว่า 1,700 มหาวิทยาลัยใน 35 ประเทศ และได้สร้างโครงการและธุรกิจมาแล้วกว่า 75,000 โครงการทั่วโลก
ดังนั้น งานปีนี้ในประเทศไทยไม่เพียงแต่จะเป็นเวทีให้คนรุ่นใหม่แสดงศักยภาพ แต่ยังพวกเขาจะได้เข้าร่วม SX2025 มหกรรมด้านความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)
รวมทั้งยังได้เยี่ยมชมนิทรรศการแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน เวทีสัมมนาและเสวนาจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลก พื้นที่สำหรับธุรกิจและสตาร์ตอัปนำเสนอแนวคิดใหม่สู่อนาคตคาร์บอนต่ำ เป็นต้น ระหว่างวันที่ 26 ก.ย. ถึง 5 ต.ค. 2568
“SX มีโอกาสแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และยกระดับประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนในสายตาชาวโลก และสร้างโอกาสในการสร้างเครือข่ายและความร่วมมือที่มีพลังระหว่างเยาวชนไทยกับผู้นำจากทั่วโลกด้วย”
DNA 3 ประการ ของ Enactus
Enactus คือเครือข่ายระดับโลกของนิสิตนักศึกษา คณาจารย์ และผู้นำทางธุรกิจ ที่ผนึกกำลังสร้างโลกที่ดีกว่าและยั่งยืนสำหรับทุกคน สำหรับในประเทศไทย มูลนิธิรากแก้วเป็นผู้บริหารและดำเนินงาน Enactus Thailand โดยชื่อของ Enactus สะท้อนถึงแก่นแท้ขององค์กร เพราะมาจากการรวมคำ 3 คำ ได้แก่
- Entrepreneurial (ทักษะการเป็นผู้ประกอบการ) การจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ทางธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์และมุ่งมั่น
- Action (การลงมือทำ) เป็นการสัมผัสประสบการณ์ที่สร้างผลกระทบทางสังคมและจุดประกายความคิดในการดำเนินธุรกิจเพื่อสังคม
- Us (เรา) ที่การทำงานร่วมกันของนิสิตนักศึกษา คณาจารย์ และผู้นำทางธุรกิจ
งาน Enactus World Cup จัดขึ้นทุกปีนับตั้งแต่ปี 2001 โดยทีมที่ชนะเลิศการแข่งขันในระดับประเทศจะได้เป็นตัวแทนมานำเสนอโครงการธุรกิจ เพื่อสังคมที่สร้างผลกระทบเชิงบวกให้เกิดขึ้นจริงต่อหน้าคณะกรรมการซึ่งเป็นผู้นำทางธุรกิจและผู้ทรงอิทธิพลจากภาคส่วนต่างๆ
แนวคิด นวัตกรรม และโครงการต่างๆ ของเยาวชนที่เข้าร่วมการแข่งขันนี้ จะแสดงให้เห็นว่าสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้จริงในสังคม ทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องโดยตรงกับเป้าหมาย SDGs
ตัวแทนเยาวชนไทยบนเวทีโลก
“ต้องใจ” อธิบายว่า ตัวแทนประเทศไทยที่เข้าร่วมแข่งขัน Enactus World Cup 2025 คือ ทีมนิสิตจากสำนักวิชาทรัพยากรการเกษตร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยทำโครงการ Cocoa Go Green นวัตกรรมแก้ปัญหาให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกโกโก้ในจังหวัดน่าน ควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม
“พวกเขาได้นำผลโกโก้ตกเกรดมาพัฒนาเป็นอาหารสำหรับโคขุน ผลการวิจัยพบว่ามีคุณประโยชน์ในการช่วยลดการผลิตก๊าซมีเทนในกระเพาะโค ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่สำคัญ นวัตกรรมนี้ไม่เพียงแต่ช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่ยังสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล โดยสามารถเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรผู้ปลูกโกโก้และผู้เลี้ยงโคได้ถึง 15% และช่วยลดต้นทุนค่าอาหารโคได้ 35% ต่อวัน”
เป็นตัวอย่างของพลังความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนจากเยาวชนไทย และแสดงความสามารถทางวิชาการและจิตสาธารณะในการสร้างโมเดลธุรกิจเพื่อสังคมที่ยั่งยืนและพร้อมก้าวสู่เวทีโลก
International Pavilion @ SX2025
International Pavilion คือหนึ่งในโซนไฮไลต์ของ Sustainability Expo 2025 (SX2025) โดยจัดอยู่ในโซน SEP INSPIRATION ที่รวบรวมเทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับโลกจากหลายประเทศ เพื่อร่วมกันหาคำตอบรับมือวิกฤติโลกรวน และสร้างอนาคตที่ยั่งยืน
ตัวอย่างนวัตกรรมต่างประเทศมีดังนี้
- จีน นำเสนอนวัตกรรมจาก Beijing Economic-Technological Development Area (BDA) ซึ่งเป็นศูนย์กลางความร่วมมือด้านนวัตกรรมระดับโลก ร่วมกับผู้ผลิตกว่า 30,000 บริษัท โดยมีมูลค่าการลงทุนรวมมากกว่า 100 พันล้านดอลลาร์ อาทิ
บริษัท Beijing Feda High-Tech Gas Co., Ltd. ผู้นำด้านเครื่องผลิตไนโตรเจนและออกซิเจน ระบบฟอกอากาศ
บริษัท Beijing Multifit Electrical Technology Co., Ltd. ผู้ผลิตหุ่นยนต์ทำความสะอาดแผงโซลาร์เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
บริษัท Beijing Minli Energy Storage Technology Co., Ltd. ผู้นำด้านโซลูชันการกักเก็บพลังงานขั้นสูง รวมถึง ระบบพลังงานสะอาดและระบบทำความร้อน เพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
บริษัท CapitalBio Technology Co., Ltd., ศูนย์วิจัยวิศวกรรมแห่งชาติด้านไบโอชิป มุ่งพัฒนานวัตกรรมด้านการแพทย์แม่นยำและสาธารณสุข และบริษัท Tungkong Inc. ผู้ผลิตหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ในระดับอุตสาหกรรม ด้วยโมเดลปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูง
- สวีเดน จัดแสดงนวัตกรรมแบบองค์รวมที่ขับเคลื่อนภายใต้แนวคิด “อนาคตหมุนเวียน : จากอุตสาหกรรมสู่บ้าน” สะท้อนให้เห็นว่าสวีเดนกำลังพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียนให้ครอบคลุมทุกมิติตั้งแต่ในระดับอุตสาหกรรมไปจนถึงชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน เรียนรู้องค์ความรู้จาก IKEA และ Electrolux ที่มุ่งออกแบบผลิตภัณฑ์และระบบที่ช่วยลดของเสียตั้งแต่ต้นทาง
พร้อมส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ในระดับอุตสาหกรรม จาก Alfa Laval และ Tetra Pak ที่ให้ความสำคัญกับการป้องกันการเกิดของเสียโดยสิ้นเชิง ยกระดับประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด และพัฒนาบรรจุภัณฑ์หมุนเวียนที่มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น สำหรับภาคการขนส่ง Candela นำเสนอนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งผสานกับเทคโนโลยีขั้นสูง
- ออสเตรเลีย จัดโชว์นวัตกรรมการจัดการพลาสติกและพลังหมุนเวียน ผ่านโครงการที่ร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และภาคประชาสังคม อาทิ Indo-Pacific Plastics Innovation Network (IPPIN) เสนอข้อมูลโครงการนวัตกรรมพลาสติกในไทย
Pumped Storage Hydro จัดแสดง Australian National University Renewable Energy Group Atlas ใช้ในการค้นหาพื้นที่ ที่มีศักยภาพเพื่อโรงไฟฟ้าพลังน้ำ แบบสูบกลับ, Partnerships for Infrastructure x Electricity Generating Authority of Thailand x Ministry of Energy เป็นต้น
- อิตาลี นำเสนอนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนหลากหลายรูปแบบ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของประเทศในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งนวัตกรรมเหล่านี้ได้รับการพัฒนาโดยบริษัทและสถาบันต่างๆ ของอิตาลี โดยมุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหาที่ยั่งยืนสำหรับอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์
- สหราชอาณาจักร โชว์เทคโนโลยี นวัตกรรมด้านพลังงานสะอาดที่น่าสนใจ และเรียนรู้เส้นทาง สู่ประเทศแห่งพลังงานสะอาดจากบริษัทสัญชาติอังกฤษที่เป็นผู้นำในการเปลี่ยนพลังงานของ สหราชอาณาจักร
นอกจากนี้ ยังมีองค์กรนานาชาติและอีกหลายประเทศที่มาร่วมจัดแสดงเนื้อหาและนวัตกรรม อาทิ ญี่ปุ่น, นิวซีแลนด์, เนเธอร์แลนด์, ฝรั่งเศส, ฟินแลนด์, ฮังการี, ศูนย์อาเซียนว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ (ASEAN Centre for Biodiversity), และหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (JFCCT) ที่จะนำเสนอนวัตกรรมและแนวทางใหม่เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน
UN ยกทัพร่วม SX2025
นอกจากภาคธุรกิจ ยังมีการเข้าร่วมขององค์การสหประชาชาติในประเทศไทย (UN) ทั้ง 11 หน่วยงาน ได้แก่ FAO, ILO, IOM, UNDP, UNESCO, UNFPA, UN-Habitat, UNHCR, UNICEF, UNV และ UN Women พร้อมภาคีเอกชนอย่าง สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย (GCNT) และ Model United Nations Network Thailand ที่จะจัดแสดงกิจกรรมและนิทรรศการสะท้อนบทบาทการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)
ผู้สนใจเข้าชม Sustainability Expo 2025 (SX2025) ตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย.- 5 ต.ค. 2568 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ร่วมกอบกู้โลกใบนี้ไปด้วยกันที่ Sustainability Expo 2025 “พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก” เพราะโลกที่ดีกว่า...เริ่มต้นได้จากเราทุกคน







