ครั้งแรก การบินไทย เสิร์ฟ 5 เมนู 'กาแฟคาร์บอนเป็นกลาง' จากดอยตุง ที่ Puff & Pie

การบินไทยร่วมมือกับโครงการพัฒนาดอยตุง เปิดตัว 5 เมนูเครื่องดื่มซิกเนเจอร์จาก "Carbon Neutral Coffee" ที่ร้าน Puff & Pie เป็นครั้งแรก
KEY
POINTS
- การบินไทยร่วมมือกับโครงการพัฒนาดอยตุง เปิดตัว 5 เมนูเครื่องดื่มซิกเนเจอร์จาก "Carbon Neutral Coffee" ที่ร้าน Puff & Pie เป็นครั้งแรก
- เมนูใหม่จะทยอยเปิดตัวตั้งแต่เดือนตุลาคม 2568 ถึงกุมภาพันธ์ 2569 โดยใช้กาแฟอาราบิก้าไทย 100% ที่มีการชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
- ความร่วมมือนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ “From Farm to Cup” เพื่อส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนเกษตรกรบนดอยตุงให้มีรายได้ที่มั่นคง
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับโครงการพัฒนาดอยตุง มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูถัมภ์ ใช้กลยุทธ์ “From Farm to Cup” (ดื่มด่ำกาแฟจากผืนป่าสู่มือคุณ) นำกาแฟรักษ์โลก “Carbon Neutral Coffee” จากดอยตุง ดึงดูดผู้บริโภค โดยอาศัยจุดแข็งเรื่องแบรนด์และช่องทางจำหน่ายผ่าน Puff & Pie (พัฟแอนด์พาย) สะท้อนแนวโน้มใหม่ของตลาดกาแฟไทย ที่ไม่ได้แข่งกันเพียงรสชาติและราคา แต่ยังรวมถึงการสร้างคุณค่าทางสังคม ส่งเสริมเกษตรกรไทยให้มีรายได้ที่มั่นคง และสิ่งแวดล้อมดี ที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญมากขึ้น
เชื่อมโยงอนาคต–ชุมชน–สิ่งแวดล้อม
“วรางคณา ลือโรจน์วงศ์” ประธานเจ้าหน้าที่หน่วยธุรกิจการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การนำ Carbon Neutral Coffee จากดอยตุงมาให้บริการและจำหน่ายที่ร้าน Puff & Pie นั้น เป็นการตอกย้ำว่า ร้าน Puff & Pie ไม่ได้เป็นเพียงแค่ร้านเบเกอรี่ แต่ยังเป็นแบรนด์ที่ตั้งใจที่จะสร้างสรรค์สิ่งดีๆ
“กาแฟแต่ละแก้วไม่เพียงแต่ให้รสชาติที่กลมกล่อม แต่ยังสะท้อนถึงการขับเคลื่อนร่วมกันในอนาคตและความยั่งยืนระหว่างสององค์กร การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่เพียงตอบโจทย์ผู้ดื่มที่หันมาสนใจสินค้าเชิงความยั่งยืนมากขึ้น แต่ยังช่วยสร้างรายได้แก่เกษตรกรท้องถิ่น และเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตการเกษตรไทยในตลาดพรีเมียม”
5 เมนูซิกเนเจอร์เพื่อโลก
ความร่วมมือครั้งนี้ได้มีการนำเสนอ 5 เมนูซิกเนเจอร์ที่คิดร่วมกัน โดยเมนูแรกเริ่มเสิร์ฟในเดือนตุลาคม 2568 เป็นต้นไป คือ "Coco Coff on Cloud" ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่าง Espresso เข้มข้นกับความอ่อนละมุนของครีมมะพร้าว และฟองนมจากอัญชันสีฟ้า และจะมีอีก 4 เมนูใหม่ทยอยเปิดตัวจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2569 ได้แก่
- Tropical Honey
- Coffee Jeez Jaz
- Honey Cloud Latte
- Butter Pie Coffee
นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัวเบเกอรี่คอลเลคชั่น “Siam’s Treasures” ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากขนมไทยดั้งเดิมมาผสมผสานกับศาสตร์การทำขนมแบบตะวันตก อาทิ Siam Honey Crown ทาร์ตแมคคาเดเมียคาราเมลน้ำผึ้ง, Midnight Mocha Jewel เค้กมอคค่าเข้มข้นเคลือบดาร์กช็อกโกแลต และ Siam’s Molten Heart คุกกี้บราวนี่เนื้อหนึบไส้ช็อกโกแลตกรานาช
กาแฟชดเชยคาร์บอน
“ประเสริฐ เจริญเกียรติ” ประธานสายปฏิบัติการธุรกิจเพื่อสังคม มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวถึงเบื้องหลังของผลิตภัณฑ์ว่า ได้ศึกษาตั้งแต่การคัดเลือกพัฒนาสายพันธุ์ การปลูก การดูแล จนได้กาแฟมาแปรรูปและส่งมอบให้การบินไทย
กาแฟที่ร้าน Puff & Pie ใช้เป็นกาแฟไทยอาราบิก้า 100% ซึ่งแสดงถึงความสำคัญของการจัดหาวัตถุดิบภายในประเทศ (local sourcing) ของกลุ่มการบินไทย โดยจุดเด่นที่สำคัญคือ คาร์บอนฟุตพรินท์ผลิตภัณฑ์ (Carbon Footprint of Product: CFP) ทางโครงการพัฒนาดอยตุงฯมีการตรวจประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของกาแฟต่อ 1 กิโลกรัม มีการจัดหาคาร์บอนมาชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทุกกิโลที่ Puff & Pie ใช้ และมีการออกใบรับรองให้
"เป็นนโยบายและเป็นโจทย์ที่สอดคล้องกันของทั้ง 2 องค์กร ทั้งการบินไทย และมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ที่ให้ความสำคัญในเรื่องของสิ่งแวดล้อมและชุมชนที่เข้มแข็ง นอกจากนี้ ภายใต้ความร่วมมือยังมีการนำวัตถุดิบอื่นๆ เช่น น้ำผึ้ง แมคคาเดเมีย มาใช้รังสรรค์เมนูร่วมกัน"
เสริมความมั่นคงทางรายได้เกษตรกรดอยตุง
เมื่อถามถึงด้านเกษตรกร “ประเสริฐ” บอกว่า มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯได้รับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรบนดอยตุงอย่างสม่ำเสมอ โดยในแต่ละปีดอยตุงจะมีการรับซื้อผลผลิต “เชอรี่” (เมล็ดกาแฟที่ยังไม่กะเทาะเปลือกและมีเยื่อหุ้มอยู่) ที่เกษตรกรปลูกโดยรวมประมาณ 900 ถึง 1,000 ตัน
ปัจจุบันราคาเชอรี่ที่รับซื้ออยู่ที่ประมาณ 26-27 บาทต่อกิโลกรัม ดอยตุงจะรับซื้อผลเชอรี่จากเกษตรกรบนดอยตุงในสัดส่วนประมาณ 40-50% ต่อปี ส่วนที่เหลือจากนั้นจะเป็นการเข้ามารับซื้อของพ่อค้าภายนอก ซึ่งต้องเข้ามาแข่งขันด้านราคาด้วย
“ปัจจุบันความต้องการกาแฟในประเทศไทยมีมากขึ้น และกาแฟที่ปลูกบนดอยตุงมีคุณลักษณะพิเศษและมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้มีผู้ประกอบการรายอื่นเข้ามาแย่งซื้อผลผลิต อย่างไรก็ตาม การรับซื้อของดอยตุงช่วยให้เกษตรกรและผู้ประกอบการที่ปลูกกาแฟมี รายได้ที่มั่นคงมากยิ่งขึ้น”
อัตลักษณ์ความเป็นไทย
“ชาย เอี่ยมศิริ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่เคยไปเยี่ยมชมโครงการดอยตุงเมื่อหลายสิบปีก่อนและได้ไปอีกครั้งเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว (สิงหาคม 2568) ได้เล็งเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงและการสร้าง "คุณค่าเพิ่ม" (Value Added) ที่มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงได้ทำเพื่อสังคม โดยเฉพาะเกษตรกรในภาคเหนือ
โครงการนี้เป็นการให้ "โอกาส" แก่ผู้ผลิตท้องถิ่นของประเทศไทย สอดคล้องกับ Vision ของการบินไทย ที่เน้นอัตลักษณ์ความเป็นไทย ต่อจากนี้ที่ Puff & Pie จะมีผลิตภัณฑ์หลายอย่างที่มาจากผู้ผลิตที่เป็นคนไทย ซึ่งเป็นการร่วมกันแก้ไขและพัฒนาระบบนิเวศ (Ecosystem) ให้ได้รับประโยชน์ด้วยกัน
ที่ผ่านมา กาแฟ Black Silk Blend ของดอยตุงได้ให้บริการในชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจของสายการบินในเส้นทางออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลี ตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2565 และได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้โดยสาร
“ชาย” ย้ำว่า เมนูพิเศษและเมนูซิกเนเจอร์ที่นำเสนอภายใต้ความร่วมมือนี้ คือ การ "ต่อยอดแนวคิด" ของโลกที่ยั่งยืน (sustainable world) ผสมผสานกับเอกลักษณ์ของการบินไทย







