พบ ‘ปลาทะเลน้ำลึก’ ชนิดใหม่ สีชมพูสุดแบ๊ว ลบความเชื่อใต้ทะเลมีแต่ตัวประหลาด

พบ ‘ปลาทะเลน้ำลึก’ ชนิดใหม่ สีชมพูสุดแบ๊ว ลบความเชื่อใต้ทะเลมีแต่ตัวประหลาด

นักวิจัยพบปลาทะเลน้ำลึกชนิดใหม่สีชมพู หน้าตาบ๊องแบ๊ว ที่ระดับความลึกกว่า 10,000 ฟุต ลบความเชื่อใต้ทะเลมีแต่ตัวประหลาด

KEY

POINTS

  • มีการค้นพบปลาทะเลน้ำลึกสายพันธุ์ใหม่ชื่อ "Bumpy Snailfish" ซึ่งมีลักษณะเด่นคือลำตัวสีชมพูและหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู
  • การค้นพบนี้ช่วยลบล้างความเชื่อเดิมที่ว่าสัตว์ทะเลน้ำลึกมีแต่รูปร่างหน้าตาแปลกประหลาดและน่ากลัว
  • ปลาชนิดนี้เป็นหนึ่งในสามสายพันธุ์ใหม่ที่ถูกค้นพบนอกชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย ที่ระดับความลึกกว่า 10,000 ฟุต

เพื่อเอาชีวิตรอดในส่วนที่ลึกที่สุดของมหาสมุทร ที่ทั้งมืด เย็นยะเยือก และมีแรงดันมหาศาล “สัตว์ทะเลน้ำลึก” จึงจำเป็นต้องปรับตัวอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น การทำลำตัวให้นุ่มเหมือนวุ้นให้ทนต่อแรงกดดัน มีคุณสมบัติเรืองแสงชีวภาพนำทาง รวมไปถึงทำตัวโปร่งใสเพื่อพรางตัวในความมืดมิดสนิท ด้วยการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ จึงทำให้สัตว์ทะเลน้ำลึกมีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับมนุษย์ต่างดาว และค่อนข้างไม่น่าเอ็นดูเท่าใดนัก

แต่ไม่ใช่กับ “Bumpy Snailfish” ปลาทะเลน้ำลึกสายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่งค้นพบ ที่มีหน้าตาบ๊องแบ๊ว จนนักชีววิทยาทางทะเลถึงออกปากชมว่า “น้องน่ารักน่าเอ็นดูจริง ๆ” ลบความเชื่อเก่า ๆ ที่บอกว่า สัตว์ที่อาศัยในท้องทะเลลึกจะมีรูปร่างหน้าตาแปลกประหลาดน่ากลัว

Bumpy Snailfish เป็นหนึ่งในสามสเนลฟิชสายพันธุ์ใหม่ที่ค้นพบนอกชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย ที่ระดับความลึกกว่า 10,000 ฟุต จากการสำรวจโดยสถาบันวิจัยพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมอนเทอเรย์เบย์ (MBARI) ซึ่งนำทีมโดย ดร.แมคเคนซี เกอร์ริงเกอร์ นักชีววิทยาทางทะเลจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐนิวยอร์กที่เจนีซีโอ

bumpy snailfish (Careproctus colliculi) Bumpy Snailfish (Careproctus colliculi) 
เครดิตภาพ: MBARI

ทะเลลึกเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 80% ของพื้นมหาสมุทร และเชื่อมโยงกับส่วนอื่น ๆ ของมหาสมุทร 

สเนลฟิซเป็นปลาน้ำเค็มขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ทุกที่ทั่วโลก ตั้งแต่แอ่งน้ำเล็ก ๆ ตามชายทะเลไปจนถึงทะเลลึก แม้แต่ร่องลึกมาเรียนา ส่วนที่ลึกที่สุดในโลก ก็ยังคงมี “มาเรียนาสเนลฟิช” อาศัยอยู่ และเป็นเจ้าของตำแหน่งปลาที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ลึกที่สุดในโลกที่ความลึกระดับ 27,000 ฟุต

ปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์สามารถระบุปลาในตระกูลสเนลฟิชได้ประมาณ 450 ชนิด ซึ่งหลายชนิดเพิ่งถูกค้นพบในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา ปลาตระกูลนี้มีลักษณะโดดเด่นด้วยลำตัวไร้เกล็ดและแผ่นท้องที่ช่วยให้สเนลฟิชที่อาศัยในน้ำตื้นสามารถเกาะติดกับก้อนหินหรือปลาขนาดใหญ่ได้ และแต่ละชนิดก็มีความสวยงามเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน

ดร.เกอร์ริงเกอร์ กล่าวว่า ปลาเหล่านี้สวยงามและน่าสนใจมากที่สิ่งมีชีวิตที่บอบบางเช่นนี้สามารถอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายเช่นนี้ได้ แสดงให้เห็นว่าพวกมันต้องปรับตัวอย่างมาก เพราะในพื้นที่ที่สเนลฟิชบางชนิดอาศัยอยู่มีแรงกดดันมากถึง 15,000 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว และมีอุณหภูมิต่ำกว่าตู้เย็นในบ้านเสียอีก

การสำรวจของทีมนักวิจัยเริ่มขึ้นในปี 2019 โดยใช้ยานควบคุมจากระยะไกล Doc Ricketts และยานดำน้ำลึก Alvin เก็บตัวอย่างปลาสเนลฟิชทั้งสามตัวจากบริเวณนอกของหุบเขามอนเทอเรย์ ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งแคลิฟอร์เนียตอนกลางประมาณ 60 ไมล์ โดยทั้งหมดถูกพบที่ระดับความลึกมากกว่า 10,000 ฟุต

ที่ระดับความลึก 10,722 ฟุต ปลาสีชมพูตัวเล็ก ๆ ตัวหนึ่งว่ายผ่านกล้องไป ทีมงานได้เก็บปลาสเนลฟิชตัวเมียที่โตเต็มวัย ซึ่งมีความยาว 3.6 นิ้ว ไว้ศึกษาอย่างละเอียดบนฝั่ง นอกจากนี้ นักวิจัยได้เก็บปลาสเนลฟิชที่ไม่เห็นอีก 2 ตัวที่ระดับความลึกประมาณ 13,100 ฟุต

นักวิจัยได้เปรียบเทียบลักษณะทางกายภาพและพันธุกรรมของปลากับปลาชนิดอื่น ๆ ที่รู้จัก โดยผสมผสานการถ่ายภาพความละเอียดสูงและพันธุศาสตร์เข้าด้วยกันเพื่อพิสูจน์ พวกเขาใช้กล้องจุลทรรศน์และไมโครซีทีสแกน เพื่อทำแผนโครงสร้างกระดูกและเนื้อเยื่ออ่อน

พบ ‘ปลาทะเลน้ำลึก’ ชนิดใหม่ สีชมพูสุดแบ๊ว ลบความเชื่อใต้ทะเลมีแต่ตัวประหลาด ด้านข้างของ Bumpy Snailfish (Careproctus colliculi) 
เครดิตภาพ: MBARI

รวมถึงการจัดลำดับดีเอ็นเอเพื่อจัดวางปลาแต่ละตัวในวงศ์ Liparidae พร้อมทำการวัดอย่างละเอียด เช่น จำนวนครีบ มุมกราม สัดส่วนลำตัว ประกอบกับความแตกต่างทางพันธุกรรม เพื่อแยกสิ่งมีชีวิตที่เพิ่งเกิดใหม่ออกจากสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะคล้ายกัน

ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่าปลาทั้ง 3 ชนิดเป็นสายพันธุ์ใหม่ โดยให้ชื่อว่า Bumpy Snailfish, Dark Snailfish และ Sleek Snailfish

Bumpy Snailfish (Careproctus colliculi) ที่นักวิจัยนำมาศึกษามีขนาดกว้างประมาณฝ่ามือมนุษย์ เป็นปลาเพศเมียโตเต็มวัย หัวกลม ตาโต มีสีชมพูที่โดดเด่น ครีบอกกว้าง ก้านครีบด้านบนเรียวยาว และผิวหนังมีลวดลาย

ขณะที่ Dark Snailfish (Careproctus yanceyi) มีสีดำสนิทตามชื่อของมัน มีหัวกลมและปากอยู่ปลายสุดของหัว ส่วน Sleek Snailfish (Paraliparis em) ลำตัวเรียวยาวเป็นรูปทรงยาวด้านข้างสีดำ ปลายปากมีกรามทำมุมแหลม

พบ ‘ปลาทะเลน้ำลึก’ ชนิดใหม่ สีชมพูสุดแบ๊ว ลบความเชื่อใต้ทะเลมีแต่ตัวประหลาด สเนลฟิชอีกสองสายพันธุ์ที่เพิ่งค้นพบ 
[ซ้าย] Dark Snailfish (Careproctus yanceyi)
[ขวา] Sleek Snailfish (Paraliparis em)
เครดิตภาพ: MBARI

 

สำหรับชื่อวิทยาศาสตร์ของ Sleek Snailfish ตั้งขึ้นเพื่อการยกย่องสถานี M และชุมชนนักวิทยาศาสตร์และผู้คนเบื้องหลัง ซึ่งได้เปลี่ยนโฉมหน้าความเข้าใจของนักวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับระบบนิเวศใต้ท้องทะเลลึกและความเชื่อมโยงกับสภาพภูมิอากาศ

“พวกมันมีสีสันที่สวยงาม มีหลายสี ทั้งสีน้ำเงิน ชมพู ขาว และม่วง และพวกมันยังมีรอยยิ้มเล็ก ๆ ที่น่ารักบนใบหน้าอีกด้วย” ดร.เกอร์ริงเกอร์กล่าว

จนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีรายงานการพบสเนลฟิชทั้ง 3 ชนิดอีกเลย ทำให้นักวิทยาศาสตร์จึงยังไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วพวกมันอาศัยอยู่ที่ใด และมีพฤติกรรมอย่างไร นักวิจัยยังต้องไปสืบค้นฟุตเทจจากคลังวิดีโอขนาดใหญ่ของ MBARI เพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม ในปี 2009 นอกชายฝั่งรัฐโอเรกอน มีการพบเจอสเนลฟิชสีชมพู ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็น Bumpy Snailfish แต่ในคลิปที่บันทึกระบุว่าเป็นสเนลฟิชชนิดอื่น จำเป็นต้องมีการตรวจสอบอีกครั้ง

แม้จะยังไม่มีข้อมูลของปลาทั้ง 3 ชนิดมากไปกว่านี้ แต่พวกมันคือโครงร่างของการอนุรักษ์และวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ หากไม่มีชื่อและคำอธิบายเชิงวินิจฉัย ก็ไม่ต่างอะไรกับการที่พวกมันไม่มีตัวตนอยู่บนโลก ทำให้ยากต่อการติดตามการเปลี่ยนแปลงการกระจายพันธุ์หรือการลดลงของสายพันธุ์ และไม่รู้ว่าสภาพแวดล้อมใต้ทะเลลึกอุ่นขึ้นและเป็นกรดส่งผลกระทบใดต่อพวกมันบ้าง

กระบวนการจัดเก็บข้อมูลสายพันธุ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคลังวิดีโอไปจนถึงเอกสารทางอนุกรมวิธาน กำลังมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การทำเหมืองใต้น้ำลึก มีเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นข้อมูลที่มีจึงถือเป็นก้าวแรกในการปกป้องสิ่งมีชีวิตตัวจิ๋วเหล่านี้

การค้นพบสเนลฟิชเหล่านี้จึงเป็นการตอกย้ำว่ามนุษย์ยังไม่รู้จักโลกใบนี้อีกมาก ดังที่ ดร.เกอร์ริงเกอร์กล่าวไว้ว่า “ทะเลลึกเป็นบ้านของสิ่งมีชีวิตที่หลากหลายอย่างเหลือเชื่อ และปลาเหล่านี้ปรับตัวได้อย่างงดงาม การค้นพบปลาสเนลฟิชสายพันธุ์ใหม่ของเราไม่ใช่แค่หนึ่ง แต่เป็นถึงสามสายพันธุ์ เป็นเครื่องเตือนใจว่าเรายังต้องเรียนรู้อีกมากเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตบนโลก และสร้างพลังแห่งความอยากรู้อยากเห็นและการสำรวจ” 


ที่มา: EarthIFL ScienceThe New York TimesVice