ดิจิทัลโซลูชั่นระบบจัดการเกษตร “FAO”หนุนเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน

นวัตกรรมเกษตรดิจิทัลกำลังเปลี่ยนแปลงระบบอาหารทุกด้าน ทั้งวิธีการผลิต การจัดการ และการจัดส่ง เป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
เสริมความมั่นคงทางอาหาร และสร้างระบบเกษตรและอาหารที่มีความทนทานและยั่งยืนยิ่งขึ้น
องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ สำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (FAO) จัดเวทีเสวนา “โซลูชั่นเกษตรดิจิทัลระดับภูมิภาค 2025 (IDASF 2025)” สนับสนุนโดยธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) กองทุนระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนาการเกษตร (IFAD) สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) และสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการเกษตรเขตร้อน (IITA) โดยมีผู้นำภาครัฐ ผู้ที่ทำงานสาขาการพัฒนา และผู้ที่อยู่ในวงการนวัตกรรม เกือบ 400 คนจากกว่า 50 ประเทศ ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ นำเสนอนวัตกรรม และแนวทางในการขยายผลการใช้เกษตรดิจิทัลทั่วภูมิภาค
ผู้เข้าร่วมงานเห็นพ้องว่ารัฐบาล นักพัฒนานวัตกรรม นักวิจัย และเกษตรกรในภูมิภาคต่างๆใช้ปัญญาประดิษฐ์(เอไอ) แพลตฟอร์มมือถือ ข้อมูลดาวเทียม และบริการให้คำปรึกษาด้านดิจิทัล กับอุตสาหกรรมเกษตร ปศุสัตว์ ประมง ป่าไม้ และห่วงโซ่อุปทานอาหารมากขึ้น
ตัวอย่างนวัตกรรมที่โดดเด่น ได้แก่การผลิตพืชที่คำนึงถึงสภาพภูมิอากาศ การปลูกข้าวด้วยโดรนซึ่งช่วยลดการใช้น้ำและการปล่อยก๊าซมีเทน การจัดการประมงที่สนับสนุนด้วย AI เทคโนโลยีสเปกโทรสโกปีในการวิเคราะห์เคมีและเคมีกายภาพเพื่อตรวจจับการเน่าเสียของเนื้อสัตว์ในปศุสัตว์ และระบบตรวจสอบย้อนกลับแบบดิจิทัลในภาคป่าไม้เพื่อลดตัดไม้ทำลายป่า และเพิ่มความโปร่งใสของห่วงโซ่อุปทาน
การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลยังช่วยให้การพัฒนาชนบทเป็นไปอย่างครอบคลุม โดยเชื่อมสตรี เยาวชน และชุมชนชนบทเข้ากับตลาดและข้อมูล แพลตฟอร์ม Farmer.Chat ของ Digital Green ซึ่งให้บริการคำแนะนำด้านการเกษตรแบบเรียลไทม์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI หลายภาษา แสดงให้เห็นว่าข้อมูลทั่วโลกและระดับท้องถิ่นสามารถสนับสนุนโซลูชันที่ยั่งยืน สอดคล้องกับท้องถิ่น และขับเคลื่อนโดยประชาชนได้
นายอาลู โดฮง ผู้แทนองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก กล่าวว่า การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลไม่ใช่ทางเลือกในภาคเกษตรกรรมอีกต่อไป แต่เป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการแก้ไขปัญหาความหิวโหย ลดการปล่อยมลพิษ และช่วยให้เกษตรกรรายย่อยและชุมชนชนบทมั่งคั่ง ฟอรั่มนี้มุ่งขยายผลบวกเหล่านี้ไปสู่ระดับรากหญ้า
ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ย้ำถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงที่มาจากเทคโนโลยีดิจิทัลในภาคเกษตรว่า นวัตกรรมดิจิทัลไม่ใช่สิ่งฟุ่มเฟือยอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็น เป็นสะพานเชื่อมระหว่างวิถีเดิมและการเปลี่ยนแปลง และระหว่างความรู้ท้องถิ่นและผลลัพธ์ในระดับโลก
นายอับเดลคาริม สมา หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคของ IFAD ย้ำถึงความสำคัญของแนวทางที่เน้นเกษตรกรเป็นศูนย์กลางในการนำโซลูชั่นไปใช้และความยั่งยืน โดยกล่าวว่า เราต้องออกแบบโซลูชั่นการเกษตรดิจิทัลร่วมกับเกษตรกร ไม่ใช่เพื่อเกษตรกรเพียงอย่างเดียว
นายชิงเฟิง จาง ผู้อำนวยการอาวุโสของ ADB เน้นย้ำถึงบทบาทของธรรมาภิบาลและความร่วมมือจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายฝ่าย และกล่าวว่า นอกจากเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลที่ประสบความสำเร็จต้องอาศัยนโยบายที่สนับสนุน สถาบันที่แข็งแกร่ง และความร่วมมือ
ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกเป็นภูมิภาคแนวหน้าของโครงการริเริ่มด้านการเกษตรดิจิทัลมากมาย และ IDASF 2025 แสดงให้เห็นว่าการเกษตรดิจิทัลนั้นสามารถแบ่งปันประสบการณ์ได้ทั่วโลก การเรียนรู้ข้ามประเทศและความร่วมมือในระดับภูมิภาคจะเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้าถึงผู้ที่ต้องการมากที่สุด ซึ่งรวมถึงสตรี เยาวชน และเกษตรกรรายย่อย
FAO จะรวบรวมและเผยแพร่ข้อมูลเชิงลึกจาก IDASF 2025 เป็นแนวทางในการทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างระบบนิเวศดิจิทัลที่เอื้อต่อการเกษตรและสร้างระบบเกษตรอาหารที่ยั่งยืนสำหรับโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง







