อานิสงส์ 'พายุวิภา' ลดสารหนูปนเปื้อนแม่น้ำกก–โขง ครั้งแรกในรอบหลายเดือน

อิทธิพลของพายุ "วิภา" ทำให้ปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มขึ้นช่วยเจือจางการปนเปื้อนของสารหนูในแม่น้ำกกและแม่น้ำโขง จนมีค่าลดลงและส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน
KEY
POINTS
- อิทธิพลของพายุ "วิภา" ทำให้ปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มขึ้นช่วยเจือจางการปนเปื้อนของสารหนูในแม่น้ำกกและแม่น้ำโขง จนมีค่าลดลงและส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน
- คาดว่าสถานการณ์อุทกภัยจากพายุอาจทำให้เหมืองแร่ในเมียนมาซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษต้องหยุดดำเนินการชั่วคราว ส่งผลให้ไม่มีการปล่อยสารปนเปื้อนเพิ่มเติม
- แม้ภาพรวมจะดีขึ้น แต่ยังพบสารหนูเกินมาตรฐานเล็กน้อยในแม่น้ำกกบางจุด เช่น บริเวณฝายเชียงราย ซึ่งอาจเกิดจากการฟุ้งกระจายของตะกอนที่สะสมอยู่เดิม
- ในขณะที่แม่น้ำสายยังคงเป็นพื้นที่น่ากังวล เนื่องจากยังคงตรวจพบสารหนูและตะกั่วเกินค่ามาตรฐานอย่างต่อเนื่อง
สถานการณ์การปนเปื้อนโลหะหนักในแม่น้ำกก สาย รวก และโขง ไม่ใช่เพียงวิกฤติด้านสิ่งแวดล้อม แต่คือภัยเงียบที่คุกคามคุณภาพชีวิตประชาชนในภาคเหนืออย่างต่อเนื่อง โดยหนึ่งในต้นตอสำคัญคือ การขยายตัวของเหมืองแรร์เอิร์ธในรัฐฉานของเมียนมา ซึ่งอยู่ใกล้ชายแดนไทย
รายงานจากมูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ ระบุว่า จำนวนเหมืองในเมืองป้อกเพิ่มขึ้นหลายสิบเท่า ตั้งแต่ปี 2558 ถึงต้นปี 2568 และกสนใช้เทคนิคการขุดแบบ “ชะละลายแร่” (in-situ leaching) ที่ใช้น้ำยาเคมีฉีดลงดินเพื่อแยกแร่อาจก่อให้เกิด การปนเปื้อนของสารหนูในน้ำผิวดินและน้ำใต้ดินอย่างรุนแรง
คพ. ตรวจน้ำเดือนละ 2 ครั้ง
กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงได้กำหนดจุดตรวจวัดสิ่งแวดล้อมกว่า 15 จุดในแม่น้ำกก (KK01–KK15) พร้อมลำน้ำสาขา 4 สาย และแม่น้ำสาย 3 จุด แม่น้ำรวก 2 จุด และแม่น้ำโขงอีก 3 จุด ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย โดยมีการเก็บตัวอย่างน้ำเดือนละ 2 ครั้ง และเก็บตะกอนดินเดือนละ 1 ครั้ง ระหว่างเดือนมีนาคมถึงกันยายน 2568
ผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำและตะกอนดินล่าสุด (ครั้งที่ 9 ของปีงบประมาณ 2568) ต้นเดือนสิงหาคม 2568 พบว่า จากที่หลายเดือนที่ผ่านมา แม่น้ำกก สาย รวก และโขง มีปัญหาการปนเปื้อนโดยสารหนูเกินมาตรฐานทุกจุดตรวจ แต่ครั้งล่าสุดนี้ มีแนวโน้มลดลง
อานิสงส์ 'พายุวิภา' เจือจางสารหนู
โดยความขุ่นและการปนเปื้อนของโลหะหนักในแม่น้ำกกมีค่าลดลง การปนเปื้อนของสารหนูไม่เกินมาตรฐานที่กำหนด ซึ่งคาดว่าจากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือ ของประเทศไทย และที่ติดต่อกับประเทศเมียนมาเนื่องจากพายุวิภา ซึ่งมีน้ำล้นตลิ่งในฝั่งประเทศไทยหลายครั้ง อาจเป็นสาเหตุทำให้แหล่งกำเนิดจากต้นทาง (เมียนมา) หยุดดำเนินการชั่วคราว จึงไม่พบการปนเปื้อน ของโลหะหนักในบริเวณแม่น้ำกก
อย่างไรก็ตาม สารหนูยังเกินมาตรฐานเล็กน้อยเฉพาะบริเวณ ‘ฝายเชียงราย’ อ.เมือง จ.เชียงราย ที่มีการเปิดประตูระบายน้ำเพื่อบรรเทาอุทกภัย จึงอาจมีการกวนตะกอนทำให้สารหนูที่สะสมเดิมฟุ้งกระจาย และสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเล็กน้อย (0.011-0.012 มก./ล.)
ในขณะที่ แม่น้ำสายยังคงเป็นพื้นที่น่ากังวล เนื่องจากพบสารหนูและตะกั่วเกินมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยจากน้ำล้นตลิ่งและพนังกั้นน้ำเสียหายหลายจุด ส่งผลให้คุณภาพน้ำต่ำกว่ามาตรฐานและอาจกระทบต่อประชาชนที่ใช้น้ำในพื้นที่
ผลการตรวจวัดครั้งที่ 9 (4–8 สิงหาคม 2568)
แม่น้ำกก
ค่าการปนเปื้อนสารหนู (As) ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ไม่เกิน 0.01 มิลลิกรัมต่อลิตร (มก./ล.) แต่ตรวจพบเกินค่ามาตรฐานเล็กน้อยในบางจุด โดยเฉพาะช่วง อ.เมือง จ.เชียงราย ได้แก่
- KK01 ชายแดนไทย-พม่า ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ มีค่าสารหนู น้อยกว่า 0.010 มก./ล.
- KK02 สะพานมิตรภาพแม่นาวาง-ท่าตอน ต.ท่าตอน อ.แม่อาย มีค่าสารหนู น้อยกว่า 0.010 มก./ล.
- KK03 สะพานสองดินแดนบ้านแม่สลัก อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ มีค่าสารหนู น้อยกว่า 0.010 มก./ล.
- KK04 บ้านจะเด้อ หมู่ 6 ต.ดอยฮาง อ.เมือง จ.เชียงราย มีค่าสารหนู 0.011 มก./ล.
- KK05 สะพานมิตรภาพแม่ยาว-ดอยฮาง อ.เมือง จ.เชียงราย มีค่าสารหนู น้อยกว่า 0.010 มก./ล.
- KK06 บ้านโป่งนาคำ ต.ดอยฮาง อ.เมือง จ.เชียงราย มีค่าสารหนู น้อยกว่า 0.010 มก./ล.
- KK07 สะพานข้ามแม่น้ำกก ต.ดอยฮาง อ.เมือง จ.เชียงราย มีค่าสารหนู 0.010 มก./ล.
- KK08 สะพานแม่ฟ้าหลวง ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย มีค่าสารหนู น้อยกว่า 0.010 มก./ล.
- KK09 สะพานเฉลิมพระเกียรติ1 ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย มีค่าสารหนู 0.011 มก./ล.
- KK10 ฝายเชียงราย ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย มีค่าสารหนู 0.011 มก./ล.
- KK11 สะพานริมกก-เวียงเหนือรวมใจ อ.เวียงชัย จ.เชียงราย มีค่าสารหนู 0.012 มก./ล.
- KK12 สะพานโยนกนาคนคร ต.แม่ข้าวต้ม อ.เมือง มีค่าสารหนู น้อยกว่า 0.010 มก./ล.
- KK013 ต.ท่าข้าวเปลือก อ.แม่จัน มีค่าสารหนู 0.010 มก./ล.
- KK014 ต.หนองป่าก่อ อ.ดอยหลวง มีค่าสารหนู น้อยกว่า 0.010 มก./ล.
- KK015 ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน มีค่าสารหนู น้อยกว่า 0.010 มก./ล
ทั้งนี้ แม่น้ำสาขาของแม่น้ำกก ได้แก่ แม่น้ำฝาง (FA01) แม่น้ำกรณ์ (KO01) แม่น้ำสรวย (SU01) และแม่น้ำลาว (LA01) ยังมีคุณภาพน้ำเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน
แม่น้ำสาย
พบค่าการปนเปื้อนสารหนูสูงเกินมาตรฐานอย่างต่อเนื่องทุกจุดตรวจ ได้แก่
- SA01 บ้านหัวฝาย ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย มีค่าสารหนู 0.029 มก./ล.
- SA02 สะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย มีค่าสารหนู 0.034 มก./ล.
- SA03 บ้านป่าซางงาม ม.6 ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงราย มีค่าสารหนู 0.019 มก./ล.
แม่น้ำรวก
ค่าการปนเปื้อนสารหนูยังคงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ได้แก่
- RU01 สถานีสูบน้ำเกาะช้าง การประปาส่วนภูมิภาค อ.แม่สาย จ.เชียงราย มีค่าสารหนู น้อยกว่า 0.010 มก./ล.
- RU02 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย จุดปลายน้ำรวกก่อนลงแม่น้ำโขง มีค่าสารหนู น้อยกว่า 0.010 มก./ล.
แม่น้ำโขง
มีค่าเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด ทั้ง 3 จุด ดังนี้
- NK01 จุดผ่านแดนถาวรสามเหลี่ยมทองคำ ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย มีค่าสารหนู 0.010 มก./ล.
- NK02 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย มีค่าสารหนู 0.010 มก./ล.
- NK03 บ้านสบกก ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย มีค่าสารหนู น้อยกว่า 0.010 มก./ล
เส้นทางแม่น้ำ4 สาย สัมพันธ์ชายแดนไทย–เมียนมา
แม่น้ำกก
- ต้นน้ำ: เกิดจาก รัฐฉาน ประเทศเมียนมา ไหลเข้าสู่ไทยที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่
- เส้นทางในไทย: ไหลผ่าน อ.แม่อาย (เชียงใหม่) → อ.เมืองเชียงราย → อ.เชียงแสน ก่อนจะไหลลงแม่น้ำโขง
- จุดเด่น: เป็นแม่น้ำสายหลักของเชียงราย เชื่อมโยงเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว และเป็นแหล่งใช้น้ำสำคัญของชุมชน
แม่น้ำสาย
- ต้นน้ำ: ไหลมาจาก รัฐฉาน ประเทศเมียนมา เช่นกัน
- เส้นทาง: เป็นแม่น้ำเส้นเล็กแต่สำคัญ ไหลคั่นพรมแดนไทย–เมียนมา บริเวณ อ.แม่สาย จ.เชียงราย
- จุดเด่น: แม่น้ำสายทำหน้าที่เป็น “เส้นแบ่งเขตแดนธรรมชาติ” ระหว่างไทย–เมียนมา
แม่น้ำรวก
- ต้นน้ำ: มาจากเทือกเขาในเขตชายแดนไทย–เมียนมา
- เส้นทาง: ไหลผ่าน อ.แม่สาย → อ.เชียงแสน → ไหลบรรจบกับแม่น้ำโขงที่ สามเหลี่ยมทองคำ
- จุดเด่น: จุดบรรจบของแม่น้ำรวกกับแม่น้ำโขงที่ ต.เวียง อ.เชียงแสน คือพื้นที่ท่องเที่ยวระดับโลก “สามเหลี่ยมทองคำ” (ไทย–ลาว–เมียนมา)
แม่น้ำโขง
- ต้นน้ำ: ที่ทิเบต ไหลผ่านจีน ลาว เมียนมา ไทย กัมพูชา และเวียดนาม
- เส้นทางในไทย: ช่วง จ.เชียงราย แม่น้ำโขงทำหน้าที่เป็น เส้นแบ่งเขตแดนไทย–ลาว (ไม่ใช่ไทย–เมียนมา)
- จุดเด่น: เป็นแม่น้ำสายหลักของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีบทบาททั้งเศรษฐกิจ ประมง เกษตร และการขนส่ง







