พลิกโฉมหม้อแปลงไฟฟ้า เมื่อ 'เทคโนโลยีรีไซเคิล' ตอบโจทย์และลดขยะ

พลิกโฉมหม้อแปลงไฟฟ้าเมื่อเทคโนโลยีรีไซเคิลสร้าง 'ชีวิตใหม่'ให้ขุมพลังเมืองไทย ธุรกิจหมื่นล้านที่ยั่งยืน
KEY
POINTS
- บริษัท ถิรไทยฯ นำหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาใช้รีไซเคิลหม้อแปลงไฟฟ้าเก่าที่มีอายุกว่า 20 ปี ให้กลับมามีประสิทธิภาพและคุณภาพเทียบเท่าของใหม่
- หม้อแปลง CE ต้นแบบที่ผ่านการปรับปรุง มีประสิทธิภาพสูงถึง 98.92% ผ่านมาตรฐานเดียวกับหม้อแปลงใหม่ และมีการรับประกันคุณภาพนาน 2 ปี
- โครงการนี้มีศักยภาพตลาดมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท ช่วยลดการนำเข้าวัตถุดิบหลักได้ถึง 60% และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการกำจัดของเสีย
วงการพลังงานเตรียมรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อบริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าอันดับหนึ่งในไทย นำหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาใช้ในธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้าเก่า นำกลับมาปรับปรุงใหม่ให้มีประสิทธิภาพเทียบเท่าของใหม่ สร้างโอกาสทางธุรกิจมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท และลดการนำเข้าวัสดุหลักจากต่างประเทศได้อย่างมหาศาล
เมื่อ “หม้อแปลงเก่า” กลายเป็น “ขุมพลังใหม่”
อวยชัย ศิริวจนา ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า บริษัทฯ ได้เดินหน้าธุรกิจตามหลัก ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) อย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประยุกต์ใช้หลักการของ เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ในอุตสาหกรรมหม้อแปลงไฟฟ้า ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่กำลังสร้างมูลค่ามหาศาล และเป็นที่น่าจับตามองในตลาดโลก
โครงการที่น่าสนใจที่สุดคือการพัฒนา “หม้อแปลง CE (Circular Economy) Transformer” ซึ่งเป็นการร่วมมือกับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และสถาบันการศึกษา เพื่อนำหม้อแปลงไฟฟ้าเก่าที่ใช้งานมานานกว่า 20 ปี กลับมาตรวจสภาพและปรับปรุงใหม่ให้มีคุณภาพเทียบเท่าหม้อแปลงใหม่ โดยไม่เพียงแค่ซ่อมแซม แต่เป็นการยกระดับและเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์เดิมอย่างแท้จริง
จากแนวคิดสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม
หม้อแปลงต้นแบบขนาด 2,000 kVA ที่ถูกใช้งานมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี ถูกนำมาเข้ากระบวนการตามแนวทาง Circular Economy อย่างละเอียดถี่ถ้วน โดยมีการถอดชิ้นส่วน ชั่งน้ำหนัก และตรวจสอบสภาพอย่างเป็นระบบ เพื่อประเมินว่าชิ้นส่วนใดบ้างที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ หรือปรับปรุงใหม่ได้
ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่า หม้อแปลง CE ต้นแบบมี ประสิทธิภาพสูงถึง 98.92% และผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน มอก. 384 หรือ IEC standard ที่ใช้กับหม้อแปลงใหม่ 100% ทุกรายการ ที่สำคัญคือยังมาพร้อมการรับประกันคุณภาพนาน 2 ปี ซึ่งเท่ากับหม้อแปลงใหม่ ทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจในประสิทธิภาพและความปลอดภัย
ตลาดหมื่นล้านบาท และประโยชน์สามด้าน
จากข้อมูลเชิงลึกพบว่า ในประเทศไทยมีหม้อแปลงไฟฟ้าที่ติดตั้งอยู่กับภาคเอกชนมากกว่า 400,000 ยูนิต โดยมีหม้อแปลงที่มีอายุมากกว่า 20 ปีถึง 15,700 เครื่อง หากคำนวณจากราคาหม้อแปลงใหม่ มูลค่ารวมของหม้อแปลงกลุ่มนี้อยู่ที่ประมาณ 31,710 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงศักยภาพตลาดอันมหาศาลสำหรับหม้อแปลง CE ทั้งในภาคเอกชนและภาคการไฟฟ้า
การดำเนินงานในรูปแบบเศรษฐกิจหมุนเวียนนี้ไม่เพียงแต่สร้างโอกาสทางธุรกิจ แต่ยังมอบประโยชน์ที่สำคัญในสามด้าน ได้แก่:
- ด้านเศรษฐกิจ: ช่วยลดการนำเข้าวัตถุดิบสำคัญอย่างทองแดง น้ำมันหม้อแปลง และเหล็กได้ถึง 60% ของวัตถุดิบเดิม ทำให้ลดต้นทุนการผลิต ลดความเสี่ยงด้านซัพพลาย และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
- ด้านสิ่งแวดล้อม: ลดการใช้พลังงานในการผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ ลดปริมาณของเสียที่ต้องกำจัด และป้องกันอันตรายจากการนำหม้อแปลงเก่าไปชำแหละอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจก่อให้เกิดมลพิษจากสารพิษ
- ด้านสังคม: สร้างงานและแรงงานที่มีทักษะในระบบอุตสาหกรรมหมุนเวียน ทำให้เกิดความมั่นคงทางอาชีพ และเป็นการส่งเสริมให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน
บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เช่น “หม้อแปลง Green CT” ที่ใช้วัสดุชีวภาพแทนวัสดุเดิมเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และมี “Transformer Monitoring” ที่ช่วยตรวจสอบสภาพการทำงานของหม้อแปลงได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีการนำเศษวัสดุเหลือใช้จากการบรรจุภัณฑ์มาผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์แบบ Upcycling เพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างความตระหนักรู้ด้านการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน
ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมพลังงานของประเทศไทย







