เปลี่ยนวิธีคิด ทำไม 'เศรษฐกิจหมุนเวียน' ไม่ใช่แค่รีไซเคิล แต่คือการ 'ดีไซน์' อนาคตที่ยั่งยืน

จากโมเดลธุรกิจแบบดั้งเดิมที่เน้นการ "ผลิต-ใช้-ทิ้ง" สู่โลกใหม่ที่ทรัพยากรหมุนเวียนไม่รู้จบ เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) กำลังกลายเป็นวาระสำคัญระดับโลก และไม่ใช่เรื่องของการรีไซเคิลปลายทางเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป
KEY
POINTS
- เศรษฐกิจหมุนเวียนเป็นแนวคิดที่กว้างกว่าการรีไซเคิล โดยเน้นการ "ออกแบบ" ตั้งแต่ต้นทาง (Circular Design) เพื่อรักษาคุณค่าของวัสดุและลดของเสียให้เหลือน้อยที่สุด
- 80% ของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมถูกกำหนดตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบผลิตภัณฑ์ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน
- การขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียนให้สำเร็จต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในระบบ (System Thinking) ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ไม่สามารถทำได้โดยลำพัง
"ใช้แล้วทิ้ง" สู่โลกใหม่ที่ทรัพยากรหมุนเวียนไม่รู้จบ เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ไม่ใช่เรื่องของแค่การรีไซเคิลปลายทางอีกต่อไป แต่คือหัวใจสำคัญของการออกแบบทุกอย่างตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อสร้างโลกที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง
จาก "ดาวน์ไซเคิล" สู่การ "สร้างคุณค่า" ให้วัสดุรีไซเคิล
ดร.วิชชุดา เดาด์ นักวิจัยทีมวิจัยเทคโนโลยีพลาสติก กลุ่มวิจัยเทคโนโลยีโพลิเมอร์ขั้นสูง ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สวทช. กล่าวใน งานกิจกรรม NSTDA x Press Interviews หัวข้อ “ออกแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ‘คิดก่อนทำ’ กุญแจสำคัญในการสร้างธุรกิจที่ยั่งยืน” ว่า เมื่อพูดถึงการรีไซเคิล หลายคนอาจจะนึกถึงการนำพลาสติกไปทำเป็นถังขยะหรือกะละมัง ซึ่ง อธิบายว่าเป็นแค่ส่วนหนึ่งของแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน และบางครั้งก็เป็นการ "ดาวน์ไซเคิล" หรือลดคุณภาพของวัสดุลง ทำให้หมุนเวียนได้เพียงรอบเดียวแล้วกลายเป็นขยะในที่สุด ซึ่งแตกต่างจากแนวคิดการสร้างคุณค่าของเศรษฐกิจหมุนเวียนที่มุ่งเน้นการรักษาคุณภาพของวัสดุให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
การรีไซเคิลแบบเดิมยังต้องใช้พลังงานและทรัพยากรในการดำเนินการ ทำให้การแก้ปัญหาปลายทางเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอต่อวิกฤตสิ่งแวดล้อมที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
80% ของผลกระทบ กำหนดตั้งแต่ "ขั้นตอนการออกแบบ"
นี่คือประเด็นสำคัญที่ ดร.วิชุดา ต้องการเน้นย้ำ โดยชี้ให้เห็นว่า 80% ของผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมถูกกำหนดตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกวัสดุ ความทนทาน วิธีการประกอบ ไปจนถึงวิธีการแยกส่วนเพื่อการซ่อมแซมหรือรีไซเคิล
การออกแบบเพื่อความยั่งยืน หรือ "Circular Design" จึงเป็นหัวใจสำคัญที่ต้องเริ่มต้นตั้งแต่ต้นทาง (Upstream Thinking) เพื่อให้แน่ใจว่าทรัพยากรจะถูกใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และถูกเก็บไว้ในระบบให้นานที่สุด ไม่ใช่ถูกทิ้งให้กลายเป็นขยะในที่สุด ดังที่สหภาพยุโรปเริ่มออกกฎหมายบังคับสำหรับ 7 กลุ่มผลิตภัณฑ์เป้าหมายได้แก่
- อิเล็กทรอนิกส์และ ICT (Electronics and ICT) เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ เพื่อให้สามารถซ่อมแซมและอัปเกรดได้ง่ายขึ้น
- แบตเตอรี่และยานยนต์ (Batteries and Vehicles) มุ่งเน้นการรีไซเคิลวัสดุสำคัญในแบตเตอรี่และชิ้นส่วนรถยนต์เมื่อหมดอายุการใช้งาน
- บรรจุภัณฑ์ (Packaging) เพื่อลดปริมาณขยะบรรจุภัณฑ์และส่งเสริมการใช้ซ้ำหรือการรีไซเคิล
- พลาสติก (Plastics) เน้นการสร้างพลาสติกที่มีคุณภาพสูงขึ้นเพื่อการรีไซเคิลและลดการใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียว
- สิ่งทอ (Textiles) เพื่อยืดอายุการใช้งานของเสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์สิ่งทอ รวมถึงส่งเสริมการนำกลับมาใช้ใหม่และการรีไซเคิล
- การก่อสร้างและอาคาร (Construction and Buildings) เพื่อส่งเสริมการใช้วัสดุก่อสร้างที่ยั่งยืนและลดขยะจากการก่อสร้าง
- อาหาร น้ำ และสารอาหาร (Food, Water, and Nutrients) เพื่อลดขยะอาหารและปรับปรุงการจัดการทรัพยากรน้ำและสารอาหารในระบบห่วงโซ่อุปทาน
เพื่อให้มีการออกแบบที่เอื้อต่อการหมุนเวียนได้
ความร่วมมือคือหัวใจสำคัญ จาก "โรงงาน" สู่ "ระบบ"
เปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนเป็นเรื่องที่ทำคนเดียวไม่ได้ แต่ต้องอาศัยการทำงานร่วมกันเป็นเครือข่าย หรือ "Value Network" และมองภาพรวมทั้งระบบ (System Thinking) ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
สวทช. ในฐานะผู้ขับเคลื่อน ได้ทำงานร่วมกับภาคเอกชนมากกว่า 22 บริษัท พัฒนาต้นแบบ "CE Design Solution" กว่า 24 โครงการ เพื่อเป็นกรณีศึกษาให้เห็นว่าการปรับปรุงกระบวนการหรือการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วยหลักคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน สามารถทำได้จริง และจะมีการจัดสัมมนาใหญ่ในวันที่ 8 ตุลาคมนี้ เพื่อนำเสนอแนวคิดและกรณีศึกษาที่น่าสนใจให้กับผู้ประกอบการและผู้สนใจทั่วไป
ข้อมูลและความโปร่งใส เครื่องมือสำคัญสู่การหมุนเวียนที่ยั่งยืน
อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนประสบความสำเร็จคือการบริหารจัดการข้อมูลตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ (Data Management) เพื่อให้ทุกคนในระบบ ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิต ผู้บริโภค หรือผู้จัดการขยะ สามารถเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นและจัดการกับผลิตภัณฑ์ได้อย่างถูกต้อง
ดร.วิชุดา ทิ้งท้ายว่า "เศรษฐกิจหมุนเวียนไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่เป็นอนาคตที่กำลังมาถึง" และโลกกำลังขยับตัวด้วยกฎระเบียบและนโยบายที่เข้มงวดมากขึ้น หากต้องการอยู่รอดในตลาดโลก ผู้ประกอบการต้องเริ่มปรับตัวและนำแนวคิดนี้มาใช้ตั้งแต่ตอนนี้







