นวัตกรรมกู้ทะเล! '3D Printing' ออกแบบฐานให้ตัวอ่อนปะการัง

นวัตกรรมกู้ทะเล! '3D Printing' ออกแบบฐานให้ตัวอ่อนปะการัง

กรมทะเล ร่วมกับ SCG จัดกิจกรรม ARTIFICIAL REEFS HACKATHON 2025 ออกแบบฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการัง ด้วย 3D Printing สู่ต้นแบบการอนุรักษ์ทะเลไทย

ท้องทะเลไทยในวันนี้กำลังเผชิญวิกฤตความเสื่อมโทรมของแนวปะการังอย่างต่อเนื่อง จากทั้งปัจจัยธรรมชาติและกิจกรรมของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มลพิษทางทะเล หรือการท่องเที่ยวที่เกินขีดความสามารถของระบบนิเวศ การฟื้นฟูปะการังจึงกลายเป็นภารกิจสำคัญที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน 

กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) จับมือกับบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG จัดกิจกรรม “ARTIFICIAL REEFS HACKATHON 2025 by 3D Printing Tech” การแข่งขันออกแบบฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการังด้วยเทคโนโลยี 3D Printing เพื่อเปิดเวทีให้ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และภาคีเครือข่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนารูปแบบแนวคิด นวัตกรรม เทคนิคหรือรูปแบบใหม่ของฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการังที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย และสามารถตอบสนองต่อปัญหาความเสื่อมโทรมของแนวปะการังได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

รวมพลังรักษ์พะยูน! กรมทะเลจัดงานใหญ่ คืนชีวิตให้เลตรัง

เรือโลมา 168 ล้านบาท ออกปฏิบัติการอนุรักษ์ท้องทะเลไทย

มุมมองเพื่อการฟื้นฟูปะการังไทย

ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวถึงการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ว่า กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่เป็นเวทีแข่งขัน แต่ยังเป็นเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ องค์ความรู้ ตลอดจนการสร้างความร่วมมือ เพื่อขับเคลื่อนงานด้านการฟื้นฟูปะการังของประเทศไทยให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรม ด้วยความร่วมมือจาก บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG ผู้ผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่ของประเทศไทย ในการสร้างนวัตกรรมฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการังด้วยเทคนิค 3D printing และองค์ความรู้

จากภาคการศึกษาที่มีผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้อง เข้ามามีส่วนร่วมและแลกเปลี่ยนแนวทาง เทคนิคในการฟื้นฟูทรัพยากรปะการังของประเทศไทย ซึ่งกรมฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทุกท่านได้ให้ความสนใจและตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมกันฟื้นฟู คืนความสมบูรณ์ของท้องทะเลไทยให้คงอยู่ และมีใช้อย่างยั่งยืน และต้องขอแสดงความยินดีกับทุกทีมที่ได้รับรางวัล โดยกรมฯ และ SCG จะนำผลงานดังกล่าวไปต่อยอดการพัฒนาระบบโครงสร้างปะการังเทียมด้วย 3D Printing ให้เกิดประสิทธิภาพเหมาะกับสภาพแวดล้อมปะการังใต้ท้องทะเลต่อไป

นวัตกรรมกู้ทะเล! '3D Printing' ออกแบบฐานให้ตัวอ่อนปะการัง

ฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการังด้วย 3D Printing

เฉลิมวุฒิ สงวนญาติ Concrete and Construction Technology Director หน่วยงาน Innovation and Technology ธุรกิจ SCG Cement and Green Solutions กล่าวว่า SCG มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยี 3D Printing และปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างวัสดุฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการัง ที่มีคุณสมบัติในการเพิ่มประสิทธิภาพการลงเกาะของตัวอ่อนและมีความทนทานต่อสภาพใต้ท้องทะเลใกล้เคียงกับธรรมชาติ พร้อมสนับสนุนการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอย่างยั่งยืน

โดยความร่วมมือในครั้งนี้ ทำให้เกิดการบูรณาการทรัพยากร ทั้งในด้านองค์ความรู้และเทคโนโลยี สามารถขยายผลในวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว ตลอดจนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฟื้นฟูปะการังได้อย่างแท้จริง และยังสร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในการดูแลทรัพยากรของชาติอีกด้วย

นวัตกรรมกู้ทะเล! '3D Printing' ออกแบบฐานให้ตัวอ่อนปะการัง

ความหวังใหม่ของท้องทะเลไทย

แนวปะการังของประเทศไทย มีความสำคัญทั้งในด้านระบบนิเวศ คือ เป็นแหล่งอาหารและที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตในทะเลหลากหลายชนิด และในด้านเศรษฐกิจและสังคม คือ เป็นแหล่งท่องเที่ยว สร้างอาชีพให้กับประชาชนทั้งทางตรง และทางอ้อม กิจกรรม “ARTIFICIAL REEFS HACKATHON 2025” จึงไม่เพียงสร้างแรงบันดาลใจ แต่เป็นการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะช่วยฟื้นฟูท้องทะเลไทยให้กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง พร้อมทั้งสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และคนรุ่นใหม่ เพื่อขับเคลื่อนการอนุรักษ์สู่อนาคตที่ยั่งยืน

นวัตกรรมกู้ทะเล! '3D Printing' ออกแบบฐานให้ตัวอ่อนปะการัง

โดยกิจกรรมดังกล่าว มีทีมที่เข้าร่วมกิจกรรมและนำเสนอผลงานทั้งหมด 6 ทีม ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Thai Ocean Academy Pattaya และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ผลการแข่งขัน ผลงานที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ได้แก่ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้รับรางวัล 30,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณและประกาศนียบัตร รางวัลรองชนะเลิศ ได้แก่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้รับรางวัล 20,000 บาท พร้อมประกาศนียบัตร รางวัลการชมเชย จำนวน 4 ทีม ได้แก่ มหาวิทยาลัยบูรพา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Thai Ocean Academy Pattaya และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้รับรางวัลทีมละ 10,000 บาท พร้อมประกาศนียบัตร

รางวัลขวัญใจมหาชน ได้แก่ มหาวิทยาลัยบูรพา ได้รับรางวัล 20,000 บาท ซึ่งแนวคิดที่ชนะเลิศจะถูกนำไปพัฒนาต่อยอดเป็นแนวทางการดำเนินงานในระดับชาติ พร้อมทั้งเป็นต้นแบบสำหรับการบริหารจัดการทรัพยากรปะการังที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้การอนุรักษ์และฟื้นฟูแนวปะการังสามารถดำเนินไปได้อย่างยั่งยืน และทันต่อการเปลี่ยนแปลงของปัญหาในปัจจุบันและอนาคต

นวัตกรรมกู้ทะเล! '3D Printing' ออกแบบฐานให้ตัวอ่อนปะการัง

นวัตกรรมกู้ทะเล! '3D Printing' ออกแบบฐานให้ตัวอ่อนปะการัง