'PLA' พลาสติกแห่งอนาคต ทางออกของปัญหาขยะเพื่อเศรษฐกิจหมุนเวียน

'PLA' พลาสติกแห่งอนาคต ทางออกของปัญหาขยะเพื่อเศรษฐกิจหมุนเวียน

PLA (Polylactic Acid) หรือพลาสติกชีวภาพจากพืช ไม่ได้เป็นเพียงแค่ทางเลือก แต่คือคำตอบที่ยั่งยืนในการแก้ปัญหามลพิษจากพลาสติก ด้วยคุณสมบัติที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ย่อยสลายได้ และเข้าได้กับหลายระบบการจัดการขยะ รวมถึงการนำมาทำปุ๋ยหมัก สร้างคุณค่าใหม่ให้แก่โลกและสิ่งแวดล้อม

KEY

POINTS

  • PLA (Polylactic Acid) เป็นพลาสติกชีวภาพที่ผลิตจากทรัพยากรหมุนเวียน 100% เช่น อ้อยและข้าวโพด ทำให้มีรอยเท้าคาร์บอนต่ำกว่าพลาสติกทั่วไป
  • จุดเด่นของ PLA คือสามารถจัดการหลังการใช้งานได้หลากหลายวิธี ทั้งการรีไซเคิลเชิงกลและเคมี หรือการย่อยสลายทางชีวภาพในโรงงานทำปุ๋ยหมัก
  • ประเทศไทยมีศักยภาพในการผลิตและใช้ PLA เนื่องจากเป็นแหล่งวัตถุดิบสำคัญอย่างอ้อยและมันสำปะหลัง และมีโรงงานปุ๋ยหมักรองรับการจัดการขยะเพื่อสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน

ในปัจจุบันการแก้ปัญหามลพิษจากพลาสติกเป็นหนึ่งในความท้าทายที่สำคัญที่สุดของโลก เนื่องจากพลาสติกผลิตขึ้นประมาณ 400 ล้านตันต่อปี แต่มีเพียง 9% เท่านั้นที่ถูกนำไปรีไซเคิล ที่เหลือถูกนำไปฝังกลบ เผา หรือทิ้งลงสู่สิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกและมลพิษทางอากาศ การเจรจาเพื่อจัดทำ สนธิสัญญาพลาสติกโลก (Global Plastics Treaty) ขององค์การสหประชาชาติอาจยังไม่บรรลุข้อตกลง แต่เรายังคงต้องการวัสดุ โครงสร้างพื้นฐาน และนโยบายที่ช่วยให้โลกก้าวไปสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนได้จริง

PLA ทางออกที่ตอบโจทย์เศรษฐกิจหมุนเวียน

กรดโพลิแลกติก (Polylactic Acid) หรือ PLA เป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับพลาสติกแบบเดิม PLA เป็นพอลิเมอร์ที่ผลิตจากทรัพยากรหมุนเวียน 100% เช่น อ้อยและข้าวโพด พืชเหล่านี้ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) จากชั้นบรรยากาศขณะเติบโต ทำให้ PLA มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่ำ

  • รอยเท้าคาร์บอนต่ำ: การประเมินวงจรชีวิต (Life Cycle Assessment) ล่าสุดพบว่า PLA บริสุทธิ์มีรอยเท้าคาร์บอนต่ำกว่าพลาสติกทั่วไปถึง 85% และหากมีส่วนผสมของวัสดุรีไซเคิล 30% จะทำให้ PLA มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality)
  • ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ: จุดแข็งที่สุดของ PLA คือการใช้งานที่หลากหลายหลังสิ้นสุดอายุการใช้งาน (multi-end-of-life) ไม่ว่าจะเป็นการรีไซเคิลเชิงกล การรีไซเคิลทางเคมี หรือการย่อยสลายทางชีวภาพในโรงงานทำปุ๋ยหมัก (Industrial Composting) ซึ่งทำให้ PLA สามารถนำไปใช้ได้ทั้งในระบบจัดการขยะที่ทันสมัยและระบบที่กำลังพัฒนา

ปุ๋ยหมักอุตสาหกรรม ตัวช่วยจัดการขยะอินทรีย์

กระบวนการทำปุ๋ยหมักในโรงงานเป็นการย่อยสลายขยะชีวภาพและพอลิเมอร์ที่ย่อยสลายได้ เช่น PLA ภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีการควบคุมอุณหภูมิ (50-60 องศา) ความชื้น และการระบายอากาศอย่างเหมาะสม การทำปุ๋ยหมักช่วยเปลี่ยนขยะอินทรีย์ให้เป็นปุ๋ยที่มีคุณค่าต่อดิน และยังช่วยลดการใช้พื้นที่ฝังกลบขยะ โดยประเทศอิตาลีมีโรงงานทำปุ๋ยหมักกว่า 300 แห่งที่ช่วยลดการฝังกลบและผลิตก๊าซชีวภาพหมุนเวียน

สถานการณ์ในประเทศไทย

สำหรับประเทศไทยซึ่งมีการผลิตขยะพลาสติกเฉลี่ยประมาณ 2 ล้านตันต่อปี และมีเพียงประมาณ 500,000 ตันเท่านั้นที่ถูกนำกลับมาใช้ประโยชน์ การทำปุ๋ยหมักสามารถเป็นทางเลือกที่เหมาะสมในการจัดการขยะจากครัวเรือน โดยเฉพาะขยะเศษอาหารและบรรจุภัณฑ์ที่ปนเปื้อนซึ่งยากต่อการรีไซเคิลทั่วไป ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษระบุว่าประเทศไทยมีโรงงานผลิตปุ๋ยหมักหลายแห่ง เช่น โรงงานกำจัดขยะมูลฝอยเพื่อผลิตปุ๋ยอินทรีย์และก๊าซชีวภาพ (Integrated Waste Management and Renewable Energy Plant) ในจังหวัดพิจิตร ซึ่งช่วยลดปริมาณขยะฝังกลบและสร้างรายได้จากการจำหน่ายปุ๋ยอินทรีย์

นอกจากนี้ การส่งเสริมการใช้ PLA ในไทยยังสามารถทำได้ เนื่องจากประเทศไทยเป็นผู้ผลิตอ้อยและมันสำปะหลังรายใหญ่ ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต PLA ทั้งยังมีการสนับสนุนจากภาครัฐและภาคเอกชนในการพัฒนา ไบโอพลาสติก (Bioplastics) มาอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น สถาบันพลาสติก (Plastic Institute of Thailand) ที่ได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมไบโอพลาสติกให้เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) ของประเทศ

อนาคต PLA ในเศรษฐกิจหมุนเวียน

มีการคาดการณ์ว่าตลาด PLA ทั่วโลกจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีการใช้งานอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม อุปกรณ์การแพทย์ และสิ่งทอ การเติบโตนี้สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการทั่วโลกเริ่มหันมาใช้ PLA เพื่อบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน

เพื่อสนับสนุนการนำ PLA มาใช้ให้มากขึ้น ควรมีการพัฒนา ระบบการติดฉลากที่ชัดเจน (Harmonized Labeling) เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถคัดแยกขยะได้อย่างถูกต้อง ลดการปนเปื้อนในกระบวนการรีไซเคิล และเพิ่มประสิทธิภาพในการนำทรัพยากรอินทรีย์กลับมาใช้ประโยชน์

PLA คือทางเลือกที่น่าเชื่อถือและพร้อมใช้งานเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียนในประเทศไทยและทั่วโลก การลงทุนใน PLA จะช่วยให้ประเทศต่าง ๆ ปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมได้เร็วขึ้น สร้างความยั่งยืน และมอบผลประโยชน์ที่แท้จริงต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นรูปธรรมในปัจจุบัน ไม่ใช่ในอีกหลายสิบปีข้างหน้า

ที่มา : TotalEnergies CorbionPlastic Institute of Thailand