กรุงศรี ครบรอบ 80 ปี จัด Krungsri-MUFG Business Forum มุ่งสู่การเติบโตที่ยั่งยืน

กรุงศรีครบรอบ 80 ปี จัดเวที Krungsri-MUFG Business Forum มุ่งสร้างการเติบโตยั่งยืนในอนาคตที่ท้าทาย
ในวาระครบรอบ 80 ปีของการดำเนินธุรกิจ "กรุงศรี" (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำบทบาทในฐานะสถาบันการเงินชั้นนำของประเทศไทย ที่ยืนหยัดเคียงข้างเศรษฐกิจไทย และภูมิภาคอาเซียนมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยวิสัยทัศน์การเป็น "ธนาคารแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืน" ล่าสุดกรุงศรีผนึกกำลังกับ "มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG)" หนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดงานสัมมนาธุรกิจระดับภูมิภาค Krungsri-MUFG Business Forum 2025 ภายใต้แนวคิด "Thriving to Sustainable Future" เพื่อเปิดเวทีแลกเปลี่ยนมุมมองจากผู้นำองค์กรชั้นนำหลากหลายอุตสาหกรรม ท่ามกลางบริบทของเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน และความท้าทายรอบด้าน ตอกย้ำความมุ่งมั่นของทั้งสององค์กรในการผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่กับการสร้างอนาคตที่มั่นคง และยั่งยืนให้กับประเทศไทย และภูมิภาคอย่างแท้จริง
นับเป็นเวทีสำคัญที่รวบรวมผู้นำเศรษฐกิจ การเงิน และธุรกิจทั้งไทย และระดับโลก มาร่วมแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
ยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
คาเนทสุกุ มิเกะ ประธานกรรมการ MUFG กล่าวเปิดงาน Krungsri-MUFG Business Forum 2025 โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศไทย และบทบาทที่แข็งแกร่งของกรุงศรีในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะในฐานะเสาหลักของกลยุทธ์การเติบโตของ MUFG ซึ่งหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญ คือ การขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พร้อมยกระดับความยืดหยุ่นของแพลตฟอร์มทางการเงินอย่างยั่งยืน
"ประเทศไทยเป็นตลาดยุทธศาสตร์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับ MUFG อิทธิพลของไทยในระดับภูมิภาคตอกย้ำบทบาทสำคัญนี้ ความร่วมมือระหว่าง MUFG และ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ที่เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2013 และแข็งแกร่งยิ่งขึ้นจากการควบรวมกิจการในปี 2015 ได้กลายเป็นพื้นฐานสำคัญในการเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจในระดับภูมิภาค ทั้งบริษัทไทย บริษัทญี่ปุ่น และบริษัทข้ามชาติ กรุงศรี สามารถต่อยอดจุดแข็งของ MUFG โดยเฉพาะในด้านธนาคารเพื่อธุรกิจ และได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งในธนาคารที่มีความสำคัญเชิงระบบต่อเศรษฐกิจไทย (D-SIB) ซึ่งสะท้อนถึงบทบาทที่สำคัญยิ่งต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ"
ประธาน MUFG ยังย้ำว่า องค์กรพร้อมเดินหน้าสนับสนุนการเติบโตของกรุงศรีอย่างต่อเนื่อง โดยมองว่าความร่วมมือระหว่าง MUFG และกรุงศรีไม่ใช่เพียงพันธมิตรเชิงธุรกิจ แต่เป็นครอบครัวเดียวกัน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจ และการเมืองโลกเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ความร่วมมือระหว่างทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น MUFG, กรุงศรี, ลูกค้า, พันธมิตร และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด จึงมีความจำเป็นยิ่ง เพื่อร่วมกันผลักดันการเติบโตของชุมชนท้องถิ่น เสริมสร้างเศรษฐกิจให้แข็งแกร่ง และก้าวไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนอย่างมั่นคง
กลยุทธ์รีบูตอุตสาหกรรมไทย
เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "Industrial Reform: Steering Thailand Economy under Structural Destructions" กล่าวว่า ประเทศไทยต้องเปลี่ยนจากการตั้งรับ สู่การบิน เพื่อคว้าโอกาสท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของโลกทั้งทางเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม
ความท้าทายทางโครงสร้างในปัจจุบัน คือ จุดเริ่มต้นของการยกระดับอุตสาหกรรมไทยให้ "กลับมายิ่งใหญ่" ผ่าน 6 มาตรการสำคัญ ได้แก่
- จัดระเบียบอุตสาหกรรมด้อยคุณภาพ - จัดการสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน และอุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ พร้อมปรับปรุง มอก. และคุมเข้มผู้ประกอบการไม่รับผิดชอบต่อสังคม
- ปฏิรูปกฎหมาย ควบคุมโรงงาน - ตรวจสอบใบอนุญาตโรงงานรีไซเคิลใน EEC และดันกฎหมายจัดการกากอุตสาหกรรมใหม่ ครอบคลุมถึงขยะอิเล็กทรอนิกส์ และส่งเสริม Circular Economy
- หนุนสินค้าผลิตในไทย - ผลักดันนโยบาย "Thai Gift Policy" สนับสนุนสินค้า Made in Thailand จากทุกสัญชาติที่ผลิตในประเทศ
- ดึงดูดลงทุนในอุตสาหกรรมอนาคต - มุ่งเน้น Smart Electronics, BCG และ EV พร้อมสิทธิประโยชน์ใหม่ที่สอดรับ Global Minimum Tax
- ปรับแผนพลังงานเพื่อความยั่งยืน - ลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงนำเข้า ใช้ทรัพยากรในประเทศ เช่น ใบอ้อย ผลิตไฟฟ้า พัฒนาพลังงานสีเขียว
- ยกระดับระบบราชการ - ปรับให้รวดเร็ว โปร่งใส ใช้ดิจิทัล และ AI เพิ่มประสิทธิภาพ รองรับอุตสาหกรรมยุคใหม่
เติบโตแข็งแกร่ง ท่ามกลางความท้าทาย
เคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวในหัวข้อ Krungsri Vision: Thriving to Sustainable Future ว่า ตลอดระยะเวลา 8 ทศวรรษที่ผ่านมา กรุงศรีเริ่มต้นจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเติบโตเคียงข้างประเทศไทย ผ่านช่วงเวลาสำคัญของประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นฟูหลังสงครามโลก วิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง วิกฤติการเงินโลก ไปจนถึงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งล้วนเป็นบทพิสูจน์ถึงความยืดหยุ่น และการพัฒนาอย่างต่อเนื่องขององค์กร
ปัจจุบัน กรุงศรีเป็นหนึ่งในธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ และได้รับการจัดให้เป็นธนาคารที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) พร้อมขยายการให้บริการครอบคลุมทั่วภูมิภาคอาเซียน ด้วยฐานลูกค้ามากกว่า 19 ล้านราย สะท้อนวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการเป็นธนาคารชั้นนำระดับภูมิภาคที่ขับเคลื่อนด้วยความยั่งยืน
ยามาโตะ ยังชี้ให้เห็นถึงความท้าทายสำคัญที่โลก และประเทศไทยกำลังเผชิญ อาทิ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลต่อเสถียรภาพของการค้าโลก ข้อกำหนดด้าน ESG ที่เข้มงวดมากขึ้น รวมถึงโครงสร้างประชากรไทยที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัย ท่ามกลางอัตราการเกิดที่ลดลง
"เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับอนาคตที่ไม่แน่นอน กรุงศรีเร่งขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งนวัตกรรม และดำเนินธุรกิจบนแนวทางแห่งความยั่งยืน โดยตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Krungsri Net Zero Vision) ภายในปี 2030 ผ่านกลยุทธ์สำคัญ เช่น การยกระดับความเป็นผู้นำในธุรกิจลูกค้ารายย่อยในไทย และขยายสู่ภูมิภาค การปรับโฉมธุรกิจธนาคารพาณิชย์ให้ตอบโจทย์ลูกค้ายุคใหม่ การลงทุนในเทคโนโลยี และศักยภาพด้านดิจิทัลเพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้า และการเสริมสร้างบุคลากรด้วยวัฒนธรรมการเรียนรู้ และนวัตกรรม"
กรุงศรี ผนึก MUFG ยกระดับศักยภาพ
เมื่อถูกถามถึงความหมายของ "ความยั่งยืน" ในมุมมองของกรุงศรี "ยามาโตะ" ให้คำจำกัดความไว้อย่างน่าสนใจว่า ความยั่งยืนไม่ใช่เพียงการปฏิบัติตามหลัก ESG แต่คือ "ความยืดหยุ่นขององค์กร" ที่สามารถปรับตัว อยู่รอด และเติบโตได้ แม้ต้องเผชิญกับวิกฤติหรือความผันผวนทางเศรษฐกิจ
นอกจากนั้น กรุงศรี มีค่านิยมหลักที่หล่อหลอมให้ยืนหยัดอย่างแข็งแกร่ง 3 ประการ ได้แก่ ความยืดหยุ่น และความรอบคอบ มุมมองระดับโลก และความเชื่อมั่นในบุคลากร ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญที่นำพาองค์กรผ่านวิกฤติต่างๆ ได้อย่างมั่นคง
อีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยเสริมศักยภาพกรุงศรี คือ ความร่วมมืออย่างแน่นแฟ้นกับ MUFG ซึ่งเป็นกลุ่มการเงินชั้นนำของญี่ปุ่น โดยความร่วมมือนี้เปิดโอกาสให้กรุงศรีสามารถเชื่อมโยงลูกค้ากับเครือข่ายระดับโลก สนับสนุนการขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และประเทศในเอเชีย พร้อมรับถ่ายทอดความเชี่ยวชาญจาก MUFG ในด้าน Project Finance และ Sustainable Finance ซึ่งช่วยยกระดับศักยภาพการให้บริการแก่ลูกค้า และภาครัฐไทย ขณะเดียวกัน ธนาคารฯ ยังได้รับการสนับสนุนด้านการบริหารความเสี่ยง และธรรมาภิบาล โดยเฉพาะในกลุ่ม Corporate Finance อย่างมีประสิทธิภาพ
ยามาโตะ กล่าวสรุปว่า ในโลกที่ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลา ความร่วมมือระหว่างกรุงศรี และ MUFG จะเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญในการสนับสนุนประเทศไทยให้พัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ซึ่งไม่เพียงช่วยยกระดับขีดความสามารถของประเทศเท่านั้น แต่ยังวางรากฐานให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







