'ภัยแล้ง' ภัยคุกคามเงียบที่กำลังคืบคลานเข้าสู่ประเทศไทยและทั่วโลก

ภัยแล้งกำลังเป็นมากกว่าแค่ภาพความแห้งแล้งที่เราเห็นจนชินตา ภัยคุกคามที่ไร้เสียงนี้กำลังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อปากท้อง สุขภาพ และระบบเศรษฐกิจทั่วโลก และประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
KEY
POINTS
- สถานการณ์ภัยแล้งทั่วโลกทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่วิกฤตอย่างแอฟริกา ยุโรป และเอเชีย ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตผู้คนและผลผลิตทางการเกษตรอย่างหนัก
- ประเทศไทยได้รับผลกระทบโดยตรงในหลายภาคส่วน โดยเฉพาะภาคเกษตรกรรมที่ผลผลิตเสียหาย ปริมาณน้ำในเขื่อนหลักลดลง และเกิดปัญหาด้านสุขภาพและสังคม
- ภัยแล้งส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อเศรษฐกิจโลก ทำให้การผลิตไฟฟ้าพลังน้ำลดลง กระทบการค้าระหว่างประเทศ และสร้างความเสียหายมูลค่ามหาศาลต่อปี
รายงานจากองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ระบุว่าพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะความแห้งแล้งทั่วโลกเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวตั้งแต่ พ.ศ. 2443 และผลกระทบที่ชัดเจนที่สุดเกิดขึ้นในทวีปแอฟริกา ที่ซึ่งภัยแล้งรุนแรงทำให้ประชาชน 23 ล้านคนต้องเผชิญกับภาวะอดอยากอย่างรุนแรงเมื่อ พ.ศ. 2566
ดร. มาร์ค สโวโบดา ผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาภัยแล้งแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าวว่า "ภัยแล้งไม่ใช่ภัยคุกคามที่ห่างไกลอีกต่อไป แต่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น และต้องการความร่วมมือระดับโลกอย่างเร่งด่วน"
สถานการณ์ภัยแล้งทั่วโลกที่น่ากังวล
ในช่วง พ.ศ. 2566-2568 ทั่วโลกต้องเผชิญกับภัยแล้งที่รุนแรงและสร้างความเสียหายมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ รายงานจากอนุสัญญาแห่งสหประชาชาติเพื่อการต่อต้านการแปรสภาพเป็นทะเลทราย (UNCCD) ระบุว่ามี "พื้นที่วิกฤตภัยแล้ง" (drought hotspots) หลายแห่งทั่วโลก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การจัดการที่ดินที่ผิดพลาด และการใช้น้ำเกินความจำเป็น ได้สร้างวงจรที่ทำให้น้ำยิ่งขาดแคลน
- ฮอร์นออฟแอฟริกา: ภาวะฝนแล้งต่อเนื่อง 5 ปีในเอธิโอเปีย โซมาเลีย และเคนยา ทำให้เกิดภัยแล้งที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 70 ปีเมื่อ พ.ศ. 2566 โดยในโซมาเลียมีผู้เสียชีวิตจากภัยแล้งกว่า 43,000 คนใน พ.ศ. 2565 และอีกกว่า 1 ล้านคนต้องพลัดถิ่น
- สเปน: ภัยแล้งและคลื่นความร้อนตลอด 2 ปีใน พ.ศ. 2566 ทำให้ผลผลิตมะกอกลดลงถึง 50%
- เอเชียตะวันออกเฉียงใต้: ภัยแล้งส่งผลกระทบต่อการผลิตและห่วงโซ่อุปทานของพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ข้าว กาแฟ และน้ำตาล
ผลกระทบของภัยแล้งในประเทศไทย
แม้ประเทศไทยจะอยู่ในเขตร้อนชื้น แต่ก็ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2568 หลายพื้นที่ของประเทศต้องประสบกับความแห้งแล้งอย่างหนัก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางที่ต้องพึ่งพาน้ำจากเขื่อนและแม่น้ำสายหลัก
- ภาคเกษตรกรรม: เป็นภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ภัยแล้งทำให้ผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะ ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง และข้าวโพด ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้ของเกษตรกรและกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารของประเทศ
- อ่างเก็บน้ำและเขื่อน: หลายเขื่อนในประเทศไทยมีปริมาณน้ำลดลงจนน่าเป็นห่วง เช่น เขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำหลักสำหรับการอุปโภคบริโภคและการเกษตรในภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง หากสถานการณ์ยังคงยืดเยื้ออาจต้องมีการบริหารจัดการน้ำอย่างเข้มงวด
- สุขภาพและสุขอนามัย: การขาดแคลนน้ำสะอาดทำให้ประชาชนต้องใช้น้ำที่ไม่ปลอดภัยในการอุปโภคบริโภค ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องร่วง องค์การอนามัยโลก (WHO) ประมาณการว่ามีผู้เสียชีวิตจากโรคท้องร่วงที่เกิดจากน้ำไม่สะอาดกว่า 1 ล้านคนต่อปีทั่วโลก
- ผลกระทบทางสังคม: การแย่งชิงทรัพยากรน้ำอาจนำไปสู่ความขัดแย้งในชุมชน เกษตรกรต้องแบกรับภาระทางจิตใจจากความเครียดและความวิตกกังวลจากการสูญเสียรายได้และอาชีพ
ผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโลก
ภัยแล้งไม่เพียงส่งผลกระทบต่อภาคเกษตรกรรม แต่ยังคุกคามระบบโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของสังคมสมัยใหม่
- ระบบไฟฟ้าพลังน้ำ: อุตสาหกรรมไฟฟ้าพลังน้ำทั่วโลกสูญเสียรายได้กว่า 28,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง พ.ศ. 2546-2563 จากการผลิตไฟฟ้าที่ลดลงเนื่องจากภัยแล้ง ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2567 แม่น้ำแซมเบซีในแอฟริกาที่เคยมีระดับน้ำปกติลดลงเหลือเพียง 20% ทำให้เขื่อนคาริบาซึ่งเป็นเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำที่ใหญ่ที่สุดของประเทศแซมเบียสามารถผลิตไฟฟ้าได้เพียง 7% ของกำลังการผลิตทั้งหมด ส่งผลให้เกิดไฟฟ้าดับยาวนานถึง 21 ชั่วโมงต่อวัน
- การค้าระหว่างประเทศ: คลองและแม่น้ำสำคัญสำหรับการค้าโลก อย่างเช่น คลองปานามาและแม่น้ำไรน์ ก็ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ทำให้เรือขนส่งสินค้าไม่สามารถสัญจรได้ตามปกติ ก่อให้เกิดความล่าช้าและส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก
เมื่อรวมผลกระทบทั้งหมดเข้าด้วยกัน ค่าเสียหายจากภัยแล้งทั่วโลกโดยรวมอยู่ที่ประมาณ 307,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี ซึ่งตอกย้ำให้เห็นว่านี่ไม่ใช่แค่ปัญหาของเกษตรกรเท่านั้น แต่เป็นปัญหาของทุกภาคส่วนในสังคม
ภัยแล้งเป็นภัยเงียบที่ไม่ได้มาพร้อมกับพายุหรือน้ำท่วม แต่คุกคามอย่างช้าๆ และกัดกร่อนทุกสิ่งในเส้นทางของมัน การเตรียมพร้อมและรับมือกับภัยแล้งอย่างจริงจังจึงเป็นสิ่งสำคัญเร่งด่วนสำหรับทั้งประเทศไทยและประชาคมโลก
ที่มา : Forum Stories







