แนวปฏิบัติร่วมตามพรบ.แร่ พ.ศ. 2560 ประสิทธิภาพ-สิ่งแวดล้อม-ชุมชน

แนวปฏิบัติร่วมตามพรบ.แร่ พ.ศ. 2560    ประสิทธิภาพ-สิ่งแวดล้อม-ชุมชน

คาดการณ์ดุลยภาพระหว่างอุปทานและอุปสงค์อุตสาหกรรมเหมืองแร่จากปัจจุบันจนถึงปี 2035 พบว่ากำลังปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา

แต่ยังคงพบความกังวลสำคัญด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับทองแดง การประกาศโครงการเหมืองแร่และ

การกลั่นที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องที่บ่งชี้ว่าปริมาณการผลิตในอนาคตจะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สำหรับนิกเกิล โคบอลต์ กราไฟต์ และแร่ธาตุหายาก 

โดบปริมาณอุปทานที่คาดการณ์ไว้กำลังไล่ตามการเติบโตของอุปสงค์ที่คาดการณ์ไว้ภายใต้แผนการลงทุนปัจจุบัน หากโครงการที่วางแผนไว้ดำเนินการตามกำหนดเวลา อย่างไรก็ตาม ทองแดงและลิเธียมเป็นข้อยกเว้นที่สำคัญ แม้ว่าความต้องการทองแดงจะแข็งแกร่งจากการผลิตไฟฟ้า แต่โครงการเหมืองในปัจจุบันชี้ให้เห็นถึงการขาดแคลนอุปทานที่อาจเกิดขึ้นถึง 30% ภายในปี 2035 เนื่องจากคุณภาพแร่ที่ลดลง ต้นทุนเงินทุนที่สูงขึ้น การค้นพบทรัพยากรที่จำกัด และระยะเวลารอคอยที่ยาวนาน สำหรับลิเธียม 

ดังนั้นตลาดในระยะสั้นดูเหมือนจะมีอุปทานเพียงพอ แต่ความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วคาดว่าจะผลักดันให้ตลาดเข้าสู่ภาวะขาดแคลนภายในทศวรรษ 2030 อย่างไรก็ตาม โอกาสในการพัฒนาโครงการลิเธียมใหม่ๆ นั้นดีกว่าทองแดงมาก  ข้อมูลบางส่วนจากรายงาน Global Critical Minerals Outlook 2025  โดย สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ ( IEA ) ระบุถึงอุตสาหกรรมเหมืองแร่ที่เป็นปัจจัยสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจแห่งอนาคต แต่บทบาทของเหมืองแร่ไม่ได้มีแค่ด้านเศรษฐกิจเท่านั้น กติกาการทำเหมืองแร่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนโดยรวมเป็นเรื่องจำเป็น 

เมื่อเร็วๆนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมจัดสัมมนา แนวทางการประสานการปฏิบัติงานระหว่างกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2560 ภายใต้โครงการ “เหมืองแร่ดีคู่ชุมชน” และโครงการการสัมมนาการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “MIND Forward เสริมพลังเจ้าหน้าที่ส่งเสริมอย่างเข้าใจและเข้าถึง” ภายใต้โครงการค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพของอุตสาหกรรมในภูมิภาค ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

ศุภกิจ บุญศิริ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า การสัมมนาจัดขึ้นเพื่อตอบสนองต่อปัญหาการประสานงานระหว่างสำนักงานอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่เขต กับอุตสาหกรรมจังหวัดในฐานะเจ้าพนักงานอุตสาหกรรมแร่ประจำท้องที่ ในการออกอาชญาบัตรสำรวจแร่ ประทานบัตรประเภทที่ 1 และการกำกับดูแลผู้ประกอบการเหมืองแร่และอุตสาหกรรมต่อเนื่องให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยแร่ หลังพบว่ากฎระเบียบและแนวปฏิบัติที่ยังไม่ชัดเจน ทำให้เกิดความล่าช้า ซ้ำซ้อน และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน       

   นอกจากนี้ ภารกิจด้านการส่งเสริมอุตสาหกรรมยังมุ่งเน้นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเป็นหลัก ขณะที่การยกระดับโรงงานขนาดเล็กให้มีผลิตภาพสูงขึ้นยังมีช่องว่างในการส่งเสริมสนับสนุน จึงจำเป็นต้องพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้พร้อมรับมือภารกิจที่หลากหลาย อีกทั้งยังเป็นโอกาสในการกำหนดแนวปฏิบัติร่วมตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2560 ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ถ่ายทอดความรู้และให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการได้ถูกต้องตามกฎหมาย ควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างยั่งยืน 

โดยเน้นบทบาทการใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อควบคุม กำกับ แก้ไข หรือสั่งการในกรณีโรงงานไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย รวมถึงการสั่งปิดโรงงานชั่วคราวได้ตามความจำเป็นอีกด้วย

“อุตสาหกรรมเหมืองแร่และอุตสาหกรรมพื้นฐานเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจประเทศ เพราะเป็นแหล่งวัตถุดิบหลักของภาคการผลิตและก่อสร้าง แต่ในปัจจุบันภารกิจด้านการอนุญาต กำกับดูแล ตรวจสอบ และส่งเสริมสิ่งแวดล้อมกำลังเผชิญความคาดหวังสูงขึ้นจากสังคม และต้องรับมือกับการร้องเรียนหรือการคัดค้านจากหลายฝ่าย การขับเคลื่อนงานให้มีประสิทธิภาพจึงต้องอาศัยการประสานงานแบบบูรณาการระหว่างทุกหน่วยงาน”

 โดยอุตสาหกรรมจังหวัดในฐานะตัวแทนกระทรวงในภูมิภาคต้องขยายบทบาทจากการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน ไปสู่การพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็กและกลางให้มีขีดความสามารถแข่งขันสูงขึ้น พร้อมปรับบทบาทเจ้าหน้าที่จากเพียง “ผู้ให้คำแนะนำ” สู่ “นักวิเคราะห์” ที่เข้าใจการผลิต การจัดการโรงงาน และเทคโนโลยี เพื่อยกระดับศักยภาพอย่างเป็นระบบ รวมถึงได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนยึดหลัก “3E” เป็นแนวทางการทำงาน ได้แก่ 

1. Engineering – ใช้ความรู้วิศวกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น i-Auditor และ i-Industry เพิ่มประสิทธิภาพการตรวจโรงงาน 2. Enforcement – บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โปร่งใส และเป็นธรรม เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและสิ่งแวดล้อม และ 3. Education – ให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ ชุมชน และเจ้าหน้าที่ เพื่อร่วมกันดูแลโรงงานอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ขั้นตอนการขออนุญาตประกอบกิจการโรงงาน 

ในส่วนร่างพระราชบัญญัติกากของเสียอุตสาหกรรม ซึ่งจะเป็นกฎหมายใหม่เพื่อยกระดับการจัดการของเสียจากภาคอุตสาหกรรมทั้งระบบ พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่นต่อสาธารณชนว่าการดำเนินงานภาคอุตสาหกรรมไทยจะเดินหน้าอย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบต่อสังคม

รายงาน EIA ระบุอีกว่า สำหรับความต้องการแร่ธาตุพลังงานหลักยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี พ.ศ. 2567 ความต้องการลิเธียมเพิ่มขึ้นเกือบ 30% ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตต่อปี 10% ในช่วงทศวรรษ 2553 อย่างมีนัยสำคัญ ความต้องการนิกเกิล โคบอลต์ กราไฟต์ และแร่ธาตุหายากเพิ่มขึ้น 6-8% ในปี พ.ศ. 2567 การเติบโตนี้ส่วนใหญ่มาจากการใช้งานด้านพลังงาน เช่น รถยนต์ไฟฟ้า ระบบกักเก็บพลังงานแบตเตอรี่ พลังงานหมุนเวียน และโครงข่ายไฟฟ้า ในกรณีของทองแดง การขยายตัวอย่างรวดเร็วของการลงทุนในโครงข่ายไฟฟ้าในประเทศจีนเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ส่งผลให้ความต้องการเติบโตในช่วงสองปีที่ผ่านมา สำหรับโลหะสำหรับแบตเตอรี่ เช่น ลิเธียม นิกเกิล โคบอลต์ และกราไฟต์ ภาคพลังงานคิดเป็น 85% ของการเติบโตของความต้องการทั้งหมดในช่วงเวลาเดียวกัน