ค่าสมมติทองคำ : สร้างมาเฟีย-ความเสียหายร้ายแรง | ไสว บุญมา

ค่าสมมติทองคำ : สร้างมาเฟีย-ความเสียหายร้ายแรง | ไสว บุญมา

คอลัมน์นี้ประจำวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมาชี้ให้เห็นว่า ราคาของทองคำที่เราซื้อขายกันเป็นเงินเกิน 5 หมื่นบาทต่อทองคำหนัก 1 บาท มิได้สะท้อนค่าของทอง

เนื่องจากราว 10% ของทองกว่า 2 แสนตัน ที่มนุษย์เราเอาออกมาจากธรรมชาติเท่านั้นที่เราใช้ในการทำประโยชน์ ส่วนที่เหลือใช้ทำสิ่งไร้ประโยชน์รวมทั้งทำทองแท่งเก็บไว้พร้อมกับใช้ทำเครื่องประดับ ราคาดังกล่าวจึงเป็นเพียง “ค่าที่ตกลงกัน” หรือ “สมมติ”

ย้อนเวลาไป 50 ปี เราซื้อขายทองกันในราคา 400 บาทต่อทองหนัก 1 บาท การที่ในปัจจุบันเราซื้อขายกันในราคาที่เพิ่มขึ้นกว่า 125 เท่ากระตุ้นให้เราขุดค้นหาทองในธรรมชาติเข้มข้นขึ้นมาก รวมทั้งจากแหล่งที่แสนยากลำบากและไม่เคยทำกำไรได้มาก่อน ยิ่งกว่านั้น มันเป็นแรงจูงใจให้กลุ่มอั้งยี่ หรือมาเฟียเข้าร่วมกระบวนการขุดค้นหาและซื้อขายทองทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงหลายด้าน รวมทั้งการทำลายสิ่งแวดล้อมและกระบวนการบริหารประเทศ ขอยกตัวอย่างจากใกล้ไปไกล

อินโดนีเซีย รายงานอ้างถึงการทำเหมืองทอง 2 แห่งด้วยกัน แห่งแรกเป็นพื้นที่ซึ่งเคยมีชาวบ้านค้นหาทองโดยกระบวนการง่าย ๆ ที่ใช้กันมาแต่เก่าก่อน เช่น การร่อนทองและแยกทองโดยใช้การเผาสารปรอท กระบวนการนี้สร้างความเสียหายจากการใช้ปรอทซึ่งอาจตกหล่นอยู่ในดินและสายน้ำทำให้มันเป็นพิษและเข้าไปในห่วงโซ่อาหาร ควันจากการเผาปรอททำลายปอดและมันสมองของผู้สูดเข้าไปโดยเฉพาะผู้เผาเอง 

ในปัจจุบันนี้ มีชาวจีนเข้าไปทำเหมืองขนาดใหญ่โดยใช้เครื่องจักรกลและแยกทองด้วยการใช้ไซยาไนด์ หลังจากชาวจีนเข้าไปใช้ใบอนุญาตเก่าของเหมืองร้างซ่อนการทำเหมืองขนาดใหญ่ โดยใช้แรงงานจีนเกือบทั้งหมดและใช้ไซยาไนด์แยกทองเช่นกัน เครื่องจักรขนาดใหญ่และไซยาไนด์ทำลายป่า ดิน สายน้ำลำธารอีกทั้งเข้าไปในห่วงโซ่อาหารของมนุษย์ด้วย

การทำเหมืองและการส่งทองออกนอกประเทศมักใช้วิธีผิดกฎหมาย แต่ทำได้อย่างต่อเนื่องเพราะผู้กำอำนาจรัฐมีส่วนรู้เห็นเป็นใจเนื่องจากมีรายได้จากกระบวนการ

แอฟริกา มีรายงานทั้งจากเอธิโอเปียและจากแอฟริกาใต้ ในเอธิโอเปียเป็นรายงานเกี่ยวกับการขุดค้นหาทองทางตอนเหนือของประเทศซึ่งส่วนใหญ่เป็นกิจการขนาดเล็กเนื่องจากความแตกแยกภายในร้ายแรงถึงขั้นเป็นสงครามกลางเมือง

กระบวนการใช้ทั้งปรอทและไซยาไนด์แยกทองซึ่งสร้างปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมเช่นกัน ยิ่งกว่านั้น ทองที่ได้มักถูกขายและลักลอบส่งออกไปนอกประเทศยังผลให้รัฐบาลเก็บภาษีไม่ได้ แต่ผู้กำอำนาจรัฐบางคนได้ประโยชน์

ส่วนรายงานในแอฟริกาใต้ไม่ได้ครอบคลุมกระบวนการทำเหมือง หากมุ่งเน้นกระบวนการลักลอบนำทองออกนอกประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการค้าทองของโลกโดยทั่วไป การทำทองที่ได้จากการขุดค้นแบบผิดกฎหมายให้เป็นทองถูกกฎหมาย และการฟอกเงิน กระบวนการนี้มักมีทั้งผู้กำอำนาจรัฐและมาเฟียข้ามชาติร่วมด้วย

อเมริกาใต้ มีรายงานทั้งในเอกวาดอร์และในโคลอมเบียซึ่งส่วนหนึ่งเป็นรายงานของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งองค์การสหประชาชาติ ในประเทศเหล่านั้นมีการขุดค้นหาทองอย่างกว้างขวางโดยวิธีง่าย ๆ ของคนในพื้นที่ แต่มันมีผลเสียหายร้ายแรงมาก รวมทั้งในเขตอุทยานแห่งชาติของประเทศเหล่านั้นจากการตัดต้นไม้ การขุดดินตามชายฝั่งลำธารและการใช้สารปรอทและไซยาไนด์แยกทอง

ร้ายยิ่งกว่านั้น ได้แก่ การขุดค้นหาทองมักเกิดขึ้นในพื้นที่ทับซ้อนกับการปลูกโคคา ซึ่งใบเป็นปัจจัยพื้นฐานของการผลิตยาเสพติดโคเคน ด้วยเหตุนี้ กระบวนการขุดค้นหาและซื้อขายทองจึงมีมาเฟียกลุ่มใหญ่ๆ ในประเทศเหล่านั้นเข้าไปมีบทบาทสำคัญด้วย มาเฟียเหล่านั้นมักมีกิจการหลายอย่างรวมทั้งการค้ายาเสพติด ค้ามนุษย์ และการฟอกเงิน กิจการเหล่านั้นมักมีผู้กำอำนาจรัฐมีรายได้จากการรู้เห็นเป็นใจ หรือเข้าไปร่วมด้วย

ความเลวร้ายและความเสียหายดังกล่าวคงเกิดขึ้นไม่มาก หากเรายุติการซื้อขายทองหนัก 1 บาทในราคากว่า 5 หมื่นบาท อันเป็นค่าสมมติของทองที่เราตั้งขึ้นมาโดยไม่ตระหนักว่า มันกำลังทำร้ายทั้งตัวเราและโลก