‘ปลาบึกแม่น้ำโขง’ ตัวเล็กลง จากการทำประมง-สร้างเขื่อน-โลกร้อน

‘ปลาบึกแม่น้ำโขง’ ตัวเล็กลง จากการทำประมง-สร้างเขื่อน-โลกร้อน

ปลาในแม่น้ำโขง มีขนาดเล็กลงอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากการทำประมงมากเกินไป เขื่อน และวิกฤติสภาพภูมิอากาศ

KEY

POINTS

  • งานวิจัยพบว่าปลาขนาดใหญ่ในแม่น้ำโขงมีขนาดเล็กลงอย่างรวดเร็ว โดยปลาบึกมีน้ำหนักเฉลี่ยลดลงถึง 55% ในช่วง 25 ปี
  • สาเหตุหลักเกิดจากการทำประมงเกินขีดจำกัด การสร้างเขื่อนที่ขวางกั้นเส้นทางอพยพวางไข่ และผลกระทบจากภาวะโลกร้อน
  • การที่ปลามีขนาดเล็กลงส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศโดยตรง เนื่องจากปลาตัวเล็กมีความสามารถในการสืบพันธุ์และวางไข่น้อยกว่า
  • ปรากฏการณ์นี้ไม่เพียงคุกคามความหลากหลายทางชีวภาพ แต่ยังกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและอาหารของคนในลุ่มน้ำโขง

แม่น้ำโขง” ลุ่มแม่น้ำโขงถือเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมากเป็นอันดับสามของโลก และเป็นแหล่งอาศัยของ “ปลาบึก” ปลาน้ำจืดที่ตัวใหญ่ที่สุดในโลก ขนาดเท่าหมี รวมถึง “กระเบนน้ำจืด” ตัวเท่าสระน้ำเป่าลม แต่ทุกอย่างกำลังจะกลายเป็นอดีตไป เนื่องจากการทำประมงเกินขีดจำกัดและการสร้างเขื่อนทำให้สัตว์น้ำจืดขนาดยักษ์เหล่านี้ลดขนาดลง

งานวิจัยใหม่ในวารสาร Biological Conservation พบว่า ปลาขนาดใหญ่ในแม่น้ำโขงมีขนาดลดลง 40% ในเวลาเพียง 7 ปี ส่วนปลาบึกแม่น้ำโขงที่เคยมีน้ำหนักเฉลี่ย 180 กก. แต่นักวิทยาศาสตร์พบว่าปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะมีน้ำหนักเพียง 80 กก. ลดลง 55% ในช่วงเวลา 25 ปี

ปลาชนิดอื่น ๆ ที่ขนาดเล็กลง ได้แก่ ปลาสะนากยักษ์ และปลากระโห้ ซึ่งเป็นปลาคาร์ปที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นปลาประจำชาติของกัมพูชา

 

ปลาขนาดใหญ่ในแม่น้ำโขงเหลือน้อยลง

นักวิจัยเชื่อกันว่าปลาขนาดใหญ่ในแม่น้ำโขงมีจำนวนลง เป็นผลมาจากการทำประมงเกินขีดจำกัด และจับปลาแบบไม่เลือกเป้าหมาย ปัญหานี้ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นอีกเมื่อมีการสร้างเขื่อนและรุกรานถิ่นที่อยู่อาศัย

ตามธรรมชาติแล้ว เมื่อสัตว์ขนาดใหญ่ถูกนักล่าจับ พวกมันมักจะวิวัฒนาการให้มีขนาดเล็กลง สิ่งนี้เคยเกิดขึ้นในปลาน้ำเค็ม เช่น ปลาค็อดในทะเลบอลติก ปลาแซลมอนในอะแลสกา และฉลามที่ต่างก็หดตัวลง รวมถึงงาช้างก็เล็กลงด้วยเช่นกัน

ดร. เซ็บ โฮแกน รองศาสตราจารย์วิจัยจากมหาวิทยาลัยเนวาดา หนึ่งในทีมวิจัย กล่าวว่า การลดลงอย่างรวดเร็วของปลาขนาดใหญ่ในแม่น้ำโขงเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจและน่าตกใจ ปรากฏการณ์นี้อาจทำลายสมดุลอันเปราะบางของระบบนิเวศ นักล่าอาจกลายเป็นเหยื่อ และบริการสำคัญของระบบนิเวศ เช่น การหมุนเวียนของสารอาหาร อาจถูกทำลาย

“เราได้เห็นรูปแบบนี้จากการประมงปลาค็อดในมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งการทำประมงแบบคัดเลือกขนาดมานานหลายทศวรรษได้กำจัดปลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและมีความอุดมสมบูรณ์ที่สุด ส่งผลให้เกิดการล่มสลายอย่างน่าตกใจ เมื่อขนาดตัวและความสามารถในการสืบพันธุ์ลดลง ปลาในแม่น้ำโขงเสี่ยงที่จะเข้าสู่ ‘วัฏจักรมรณะ’ ที่ประชากรปลายังคงอยู่แต่ไม่สามารถดำรงอยู่ได้อีกต่อไป” โฮแกนกล่าว

ปลาขนาดเล็กยังวางไข่น้อยกว่าปลาขนาดใหญ่ ยกตัวอย่างเช่น ปลาบึกน้ำหนัก 300 กก. สามารถออกลูกได้มากกว่าปลาน้ำหนัก 50 กก. ถึง 20 เท่า ดังนั้น นักวิทยาศาสตร์จึงกังวลว่าในแม่น้ำโขงจะมีลูกปลาน้อยลงเพื่อทดแทนประชากรปลาที่ลดลงอยู่แล้ว

งานวิจัยซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Biological Conservation ได้วิเคราะห์ข้อมูลการติดตามผลเจ็ดปีจาก 23 พื้นที่ในลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่าง และครอบคลุมปลา 257 ชนิด รายงานฉบับเต็มมีข้อมูลตั้งแต่ปี 2007-2014 โฮแกนกล่าวว่าแนวโน้มการหดตัวของปลาน่าจะยังคงดำเนินต่อไป

นอกจากการทำประมงเกินขนาดแล้ว ปลาขนาดใหญ่ในแม่น้ำโขงยังต้องเผชิญกับปัญหาเขื่อนกั้นน้ำ ที่ขัดขวางการอพยพของพวกมันไปยังแหล่งวางไข่ ขณะที่วิกฤติสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบต่ออุณหภูมิและปริมาณน้ำฝนตามฤดูกาล และการทำลายป่าที่ถูกน้ำท่วมตามฤดูกาลเพื่อการเกษตร ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่สำคัญ

นักวิจัยติดแท็กบนตัวปลากระเบนและติดตามการเดินทางของมันเป็นเวลาสองปี โดยมันใช้เวลาอยู่ในพื้นที่คุ้มครองริมแม่น้ำยาว 5 กม. โดยโฮแกนกล่าวว่า การเชื่อมต่อแม่น้ำและแหล่งที่อยู่อาศัยที่ได้รับการคุ้มครอง คือสิ่งที่สำคัญมาก เพราะเป็นพื้นที่ที่จะทำให้ปลาเหล่านี้สามารถอยู่รอดได้

“ปลากระเบนน้ำหนัก 300 กก. ตัวนั้นแสดงให้เราเห็นว่ายังไม่สายเกินไป แต่มันจะมีความหมายเพียงเล็กน้อย หากเราไม่ลงมือทำตอนนี้เพื่อปกป้องสายพันธุ์เหล่านี้และระบบแม่น้ำที่พวกมันเรียกว่าบ้าน อนาคตของปลาขนาดใหญ่ในแม่น้ำโขงกำลังตกอยู่ในความเสี่ยง” โฮแกนกล่าว

งอร์ เป็ง บุน จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์หลวงกัมพูชา นักวิจัยกล่าวว่า “แม่น้ำโขงบางช่วงยังคงเป็นแหล่งความหลากหลายทางชีวภาพแห่งสุดท้ายของโลก เป็นที่อยู่อาศัยของปลาจำนวนมากที่ถูกคุกคาม และการลดลงของจำนวนปลาขนาดใหญ่ยิ่งทำให้สถานะของพวกมันไม่สู้ดีมากนัก จำเป็นต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อการจัดการและอนุรักษ์ประมงอย่างมีประสิทธิภาพ”

นอกจากจะมีความสำคัญทางนิเวศวิทยาแล้ว ปลาบึกยักษ์ยังมีความสำคัญในการสนับสนุนความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคมวัฒนธรรม และความมั่นคงทางอาหารของประชาชนที่อาศัยอยู่ในลุ่มน้ำโขง โดยปลาบึกยักษ์ปรากฏอยู่ในศิลปะหินและนิทานพื้นบ้านโบราณ และได้รับการยกย่องให้เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นสัญลักษณ์ของความสมบูรณ์ของแม่น้ำ ซึ่งขณะนี้กำลังได้รับผลกระทบจากการแทรกแซงของมนุษย์

การจับปลาขนาดใหญ่ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายอยู่แล้วในบางประเทศที่แม่น้ำโขงไหลผ่าน แต่การบังคับใช้กฎหมายยังคงไม่เข้มงวด ดังนั้นชาวประมงท้องถิ่นจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรวบรวมข้อมูลของนักวิจัย และยังเป็นตัวช่วยในการอนุรักษ์ พร้อมหาทางออกไปด้วยกันกับนักวิจัย


ที่มา: BBC WildlifeThe Guardian