ไทยเจ้าภาพ ABTC 2025 พร้อมเปิดตัว เครือข่ายความปลอดภัยแบตเตอรี่แห่งอาเซียน

ไทยเจ้าภาพ ABTC 2025 พร้อมเปิดตัว เครือข่ายความปลอดภัยแบตเตอรี่แห่งอาเซียน

ABTC 2025 เวทีขับเคลื่อนนวัตกรรม ความปลอดภัย และความร่วมมือระดับภูมิภาค จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 – 29 สิงหาคม 2568 ณ จ.ภูเก็ต ประเทศไทย โดยมีสมาคม TESTA เป็นเจ้าภาพหลัก ในงานจะมีการเปิดตัว “ASEAN Battery Safety Network (ABSN)” อย่างเป็นทางการ

KEY

POINTS

  • แบตเตอรี่มีบทบาทสำคัญในการรองรับพลังงานหมุนเวียน ยานยนต์ไฟฟ้า และระบบพลังงานที่ยั่งยืน
  • ABTC 2025 เวทีขับเคลื่อนนวัตกรรม ความปลอดภัย และความร่วมมือระดับภูมิภาค
  • จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 – 29 สิงหาคม 2568 ณ จ.ภูเก็ต ประเทศไทย โดยมีสมาคม TESTA เป็นเจ้าภาพหลัก
  • การประชุมได้รับการตอบรับจากนักวิทยาศาสตร์ระดับโลก เช่น ศ. สแตนลีย์ วิตติงแฮม (เจ้าของรางวัลโนเบล), ศ. เย็ท มิง เชียง และ ศ. เชอร์ลีย์ เหมง ที่จะมาแบ่งปันองค์ความรู้
  • ในงานจะมีการเปิดตัว “ASEAN Battery Safety Network (ABSN)” อย่างเป็นทางการ

เทคโนโลยีแบตเตอรี่ก้าวขึ้นมาเป็นหัวใจสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่อนาคตด้านพลังงานของอาเซียน โดยมีบทบาทสำคัญในการรองรับการเติบโตของพลังงานหมุนเวียน การขับเคลื่อนยานยนต์ไฟฟ้า และการสร้างระบบพลังงานที่มีเสถียรภาพ ยืดหยุ่น และยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ท่ามกลางความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมและความต้องการพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น เทคโนโลยีแบตเตอรี่จึงไม่ใช่เพียงแค่โซลูชันในการกักเก็บพลังงาน แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียวของภูมิภาค ทั้งในมิติของการพัฒนาอุตสาหกรรม การลงทุน เทคโนโลยี และความร่วมมือระดับภูมิภาค เพื่อผลักดันให้อาเซียนก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางของนวัตกรรมพลังงานแห่งอนาคตบนเวทีโลก

ในบริบทนี้ การประชุมเทคโนโลยีแบตเตอรี่ของอาเซียน (ASEAN Battery Technology Conference – ABTC) 2025 หรือ ABTC 2025 จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในฐานะเวทีระดับภูมิภาคที่ส่งเสริมนวัตกรรม ความปลอดภัย และความร่วมมือในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ โดยปีนี้ถือเป็นการประชุมครั้งที่ 3 ภายใต้การเป็นเจ้าภาพหลักของประเทศไทย นำโดย สมาคมเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานไทย (TESTA) และพันธมิตรระดับภูมิภาค ระหว่างวันที่ 27 – 29 สิงหาคม 2568 ณ โรงแรมทราย ลากูน่า จังหวัดภูเก็ต เป็นเวทีสำคัญในการรวมตัวของผู้เชี่ยวชาญระดับโลก นักวิจัย นักอุตสาหกรรม และผู้กำหนดนโยบายจากทั่วทั้งอาเซียนและประเทศพันธมิตร เพื่อร่วมถกเถียงแนวทางการพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ในทุกมิติ

เสียงสะท้อนผู้นำและนักวิจัยระดับโลก

การประชุมครั้งนี้ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้นำและนักวิทยาศาสตร์ระดับโลก ซึ่งจะเดินทางมาแบ่งปันความรู้และวิสัยทัศน์ อาทิ

  • ศาสตราจารย์สแตนลีย์ วิตติงแฮม เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเคมี ปี 2562
  • ศาสตราจารย์ เย็ท มิง เชียง ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท 24M Technologies
  • ศาสตราจารย์เชอร์ลีย์ เหมง ผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุศาสตร์และพลังงานแห่ง UC San Diego

“ดร.พิมพา ลิ้มทองกุล” ผู้ร่วมก่อตั้งและนายกสมาคมเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานไทย (TESTA) ในฐานะเจ้าภาพหลักของงาน กล่าวว่า การประชุมเทคโนโลยีแบตเตอรี่อาเซียนในปีนี้ (ABTC 2025) ถือเป็นก้าวสำคัญของภูมิภาคอาเซียนในการขับเคลื่อนความร่วมมือด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่ระดับภูมิภาค โดยมุ่งเน้นทั้งเรื่องนวัตกรรม ความปลอดภัย และความยั่งยืน ซึ่งสะท้อนถึงเจตนารมณ์ของประเทศไทยในการวางรากฐานระบบเศรษฐกิจด้านการกักเก็บพลังงานที่มั่นคง และวิสัยทัศน์ร่วมของอาเซียนในการเดินหน้าสู่อนาคตพลังงานสะอาดที่แข็งแกร่ง

“การที่วิทยากรระดับโลกตอบรับเข้าร่วมงาน ABTC 2025 สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของภูมิภาคอาเซียนในอนาคตของพลังงานโลก และแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยสามารถเป็นศูนย์กลางของเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ปลอดภัย ยั่งยืน และล้ำสมัยได้”

ไทยเจ้าภาพ ABTC 2025 พร้อมเปิดตัว เครือข่ายความปลอดภัยแบตเตอรี่แห่งอาเซียน

เปิดตัว “เครือข่ายความปลอดภัยแบตเตอรี่อาเซียน”

หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของการประชุมในปีนี้ คือการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ ASEAN Battery Safety Network (ABSN) ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดย คณะกรรมการอาเซียนด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (ASEAN COSTI) โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของแบตเตอรี่ในภูมิภาค แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และวางรากฐานความร่วมมือระยะยาวเพื่อการใช้พลังงานที่ปลอดภัยและยั่งยืน

“ดร.ซิง ยาง เชียม” ผู้อำนวยการด้านเทคนิคจาก Singapore Battery Consortium และตัวแทนของ ABSN กล่าวว่า ABSN คือก้าวแรกที่สำคัญของอาเซียนในการจัดการความท้าทายด้านความปลอดภัยของแบตเตอรี่ โดยมุ่งหวังให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ การกำหนดแนวทางปฏิบัติ และยกระดับอาเซียนในห่วงโซ่มูลค่าแบตเตอรี่โลก”

เวทีแห่งการรวมพลังและนวัตกรรม

ABTC 2025 จะประกอบไปด้วยหัวข้อการอภิปรายเชิงลึกถึง 7 หัวข้อหลัก อาทิ
นโยบายด้านแบตเตอรี่และการลงทุน

  • การกักเก็บพลังงานระดับโครงข่ายไฟฟ้า
  • เศรษฐกิจหมุนเวียนและการรีไซเคิล
  • การสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ใน EV
  • การจัดหาเงินทุนเพื่อการพัฒนาโครงการ
  • นวัตกรรมแบตเตอรี่รุ่นใหม่
  • ความปลอดภัยของแบตเตอรี่ในระบบอุตสาหกรรม

ผู้เข้าร่วมงานจะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้เชี่ยวชาญจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์

จากภูเก็ตสู่ปีนัง – มุ่งสู่อนาคตของ ABTC

นอกจากการประชุมในปีนี้ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพหลักแล้ว ABTC ยังได้วางแผนจัดงาน ABTC 2026 ที่เมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย โดยมี NanoMalaysia (NMB) รับไม้ต่อในการจัดงานครั้งถัดไป ซึ่งคาดว่าจะต่อยอดความสำเร็จของปีนี้ด้วยการขยายการมีส่วนร่วมของภาคอุตสาหกรรมในระดับห่วงโซ่คุณค่าทั้งระบบ

"ดร.เรซัล ไครี บิน อาหมัด" ซีอีโอนาโนมาเลเซีย (NMB) กล่าวว่า NMB ภูมิใจที่ได้เห็นการเติบโตของงาน ABTC ในฐานะงานประชุมที่เป็นแรงขับเคลื่อนระดับภูมิภาค สำหรับนวัตกรรมและความร่วมมือในเทคโนโลยีแบตเตอรี่และยานยนต์ไฟฟ้า
"เราเชื่อมั่นว่างาน ABTC 2026 ที่จะจัดขึ้นที่ปีนัง ประเทศมาเลเซีย จะสานต่อความสำเร็จนี้โดยการรวบรวมผู้นำในอุตสาหกรรมจากห่วงโซ่อุปทานและห่วงโซ่มูลค่าทั้งหมดของแบตเตอรี่และยานยนต์ไฟฟ้าไว้ด้วยกัน"

เบื้องหลังความสำเร็จ

ABTC 2025 เกิดขึ้นจากความร่วมมืออันแน่นแฟ้นระหว่าง สมาคมเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานไทย (TESTA) ซึ่งเป็นเจ้าภาพหลัก ร่วมกับพันธมิตรชั้นนำด้านแบตเตอรี่และยานยนต์ไฟฟ้าจากทั่วอาเซียน ได้แก่ กลุ่มความร่วมมือด้านแบตเตอรี่แห่งสิงคโปร์ (SBC: Singapore Battery Consortium), องค์การนาโนมาเลเซีย (NMB: NanoMalaysia), สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าแห่งฟิลิปปินส์ (eVAP: Electric Vehicle Association of the Philippines),

สถาบันวิจัยแบตเตอรี่แห่งชาติของอินโดนีเซีย (NBRI: National Battery Research Institute) และ ศูนย์เทคโนโลยีด้านการขนส่งอย่างยั่งยืนแห่งชาติของอินโดนีเซีย (NCSTT: National Center for Sustainable Transport Technology) ความร่วมมือนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงเจตจำนงร่วมในการพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ของภูมิภาค แต่ยังแสดงให้เห็นถึงพลังของการรวมตัวเพื่อวางรากฐานให้กับอนาคตด้านพลังงานอย่างเป็นระบบ

นอกจากนั้น งานในปีนี้ยังได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งจากพันธมิตรภาครัฐ เอกชน และองค์กรระหว่างประเทศ อาทิ

  • Siemens – พันธมิตรด้าน AI และดิจิทัลแบตเตอรี่
  • UL Standards & Engagement – พันธมิตรด้านความปลอดภัยและมาตรฐาน
  • Hioki – ผู้สนับสนุนกิจกรรมสร้างเครือข่าย
  • การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT) และ บริษัท แอมฟีนอล จำกัด (Amphenol) – ผู้สนับสนุนระดับ Platinum
  • บริษัท กรีน เทอนา จำกัด (Green Tenaga) และ บริษัท หัวเว่ย ดิจิทัล พาวเวอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (Huawei Digital Power) – ผู้สนับสนุนระดับ Gold
  • บริษัท พีอีซี เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด, C&D Technologies, Inc., Trojan, บริษัท Fuzhou Fuguang Electronics จำกัด, บริษัท SK tes จำกัด, UNIGRID Battery, บริษัท 24M Technologies (ประเทศไทย) จำกัด, INV corporation - ผู้สนับสนุนระดับ Silver
  • Sponsor อื่นๆ ได้แก่ บริษัท เอวีแอล เอสอีเอ แอนด์ ออสเตรเลีย จำกัด, บริษัท อีเอ็ม มอเตอร์ จำกัด, บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัท นูออโว พลัส จำกัด
  • พันธมิตรภาครัฐ ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB), สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) และ ศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC)