ถอดรหัสระบบไฟฟ้าฟิลิปปินส์ โอกาสของเอกชนไทย

ถอดรหัสระบบไฟฟ้าฟิลิปปินส์ โอกาสของเอกชนไทย

ถอดรหัสระบบไฟฟ้าฟิลิปปินส์ โอกาสของเอกชนไทย เขียนโดย ดร.จิราพร ศิริคำ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group

ระบบไฟฟ้าและพลังงานของแต่ละประเทศมักจะมีคุณลักษณะที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐานของประเทศนั้นๆ จึงอยากชวนผู้อ่านไปรู้จักกับ ระบบไฟฟ้าของฟิลิปปินส์ ฟิลิปปินส์มีลักษณะทางภูมิศาสตร์เป็นเกาะน้อยใหญ่รวมกันกว่า 7,600 เกาะ มีจำนวนประชากรมากกว่า 110 ล้านคน และมีความต้องการไฟฟ้าเติบโตเฉลี่ย 5.2% ต่อปี ส่งผลให้มีความท้าทายด้าน ความมั่นคงทางพลังงาน และ ราคาพลังงาน

ปัจจุบัน ฟิลิปปินส์ มีกำลังผลิตไฟฟ้าทั้งหมดกว่า 30,000 เมกะวัตต์ และใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นหลักในการผลิตไฟฟ้า คิดเป็น 67% ของเชื้อเพลิงทั้งหมด ประกอบด้วยถ่านหิน 42% ก๊าซธรรมชาติ 15% และน้ำมัน 10% ซึ่งเชื้อเพลิงเหล่านี้สามารถผลิตไฟฟ้าฐานที่จ่ายไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง เพียงพอ และมีต้นทุนที่แข่งขันได้ ส่วนเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าที่เหลืออีก 33% มาจาก พลังงานหมุนเวียน ได้แก่ พลังน้ำ 10% พลังงานแสงอาทิตย์ 9% พลังงานความร้อนใต้พิภพ 6% และอื่นๆ 8%

การให้บริการและจำหน่ายไฟฟ้าในฟิลิปปินส์แบ่งออกเป็น 3 โซน ตามกลุ่มเกาะขนาดใหญ่ ได้แก่ เกาะลูซอน เกาะวิซายัส และเกาะมินดาเนา แต่ละโซนต่างมีสัดส่วนเชื้อเพลิง กำลังผลิต ความต้องการไฟฟ้า และราคาค่าไฟฟ้าที่แตกต่างกัน ในขณะที่มีระบบส่งไฟฟ้าที่เชื่อมโยงกัน เพื่อรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงของ ระบบไฟฟ้า ของประเทศ

ระบบไฟฟ้าของฟิลิปปินส์ มีชื่อเรียกตามโครงสร้างการซื้อขายไฟฟ้าว่า Wholesale Electricity Spot Market (WESM) ที่มีลักษณะกึ่งควบคุม กึ่งเสรี ซึ่งสามารถพัฒนาสู่ตลาดกลางซื้อขายไฟฟ้า (Power Pool) ในอนาคต โดย WESM มีการซื้อขายไฟฟ้าทั้งหมด 3 รูปแบบ ได้แก่ ตลาดขายส่ง (Wholesale Market) ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของหน่วยงานกำกับดูแลตลาดขายปลีก (Retail Market) ซึ่งไม่ถูกควบคุมจากหน่วยงานกำกับดูแล โรงไฟฟ้าและผู้จำหน่ายไฟฟ้าขายปลีกสามารถเจรจาสัญญากันโดยตรง และตลาดจร (Spot Market) โรงไฟฟ้าทุกแห่งสามารถประมูลขายกำลังผลิตที่ไม่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในตลาดจรได้ 

เป้าหมายในอนาคตของ ระบบไฟฟ้าฟิลิปปินส์ คือการเพิ่มสัดส่วนกำลังผลิตจาก พลังงานหมุนเวียน เป็น 35% ของกำลังผลิตทั้งหมดในปี 2573 และเป็น 50% ในปี 2583 เพื่อเพิ่ม ความมั่นคงทางพลังงาน จากการลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล พร้อมเพิ่มเสถียรภาพให้ระบบไฟฟ้า โดยกระจายการผลิตไฟฟ้าไปยังพื้นที่ต่างๆ 

สำหรับ EGCO Group เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ของไทยลำดับต้นๆ ที่เข้าไปลงทุนในฟิลิปปินส์ตั้งแต่ปี 2551 เริ่มจากโรงไฟฟ้าพลังความร้อน Quezon ตั้งอยู่ในเมืองเมาบัน จังหวัดเคซอน บนเกาะลูซอน ที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดในฟิลิปปินส์ ซึ่งเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ปี 2543 ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว 25 ปี กับ Meralco และมีบทบาทช่วยสร้างความมั่นคงทางพลังงานอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน 

ถอดรหัสระบบไฟฟ้าฟิลิปปินส์ โอกาสของเอกชนไทย

ล่าสุด โรงไฟฟ้า Quezon ได้ทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Power Supply Agreement - PSA) ฉบับใหม่ กำลังผลิต  400 เมกะวัตต์ ระยะเวลา 15 ปี กับผู้จำหน่ายไฟฟ้าขายปลีกรายใหญ่ใน ฟิลิปปินส์ ซึ่งจะทำให้โรงไฟฟ้าสามารถขายไฟฟ้าให้กับผู้รับซื้อไฟฟ้ารายใหม่ได้ต่อเนื่อง หลังจากหมดสัญญากับผู้รับซื้อไฟฟ้ารายเดิมแล้ว การได้รับสัญญา PSA นี้สะท้อนถึงบทบาทของโรงไฟฟ้า Quezon ที่มีเสถียรภาพสูงและจ่ายไฟฟ้าให้กับระบบไฟฟ้าของเกาะลูซอนมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนความสามารถในการสร้างรายได้ที่มั่นคงและสม่ำเสมอให้ EGCO Group             

นอกจากนี้ EGCO Group ยังได้ลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังความร้อน San Buenaventura กำลังผลิต 500 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่บนพื้นที่ติดกับโรงไฟฟ้า Quezon ซึ่งเดินเครื่องเชิงพาณิชย์และจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในปี 2562 ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว 20 ปี กับ Meralco ด้วย

ทั้งนี้ ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในตลาดไฟฟ้าฟิลิปปินส์มากว่า 16 ปี EGCO Group ยังเห็นโอกาสที่จะเติบโตไปพร้อมกับตลาดไฟฟ้าของฟิลิปปินส์ ด้วยการลงทุนในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติเพื่อรักษาเสถียรภาพทางพลังงานควบคู่กับการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน โดย EGCO Group ได้เตรียมการเข้าร่วมประมูลและลงทุนในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติและพลังงานลมในฟิลิปปินส์อีกด้วย ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวไม่เพียงตอบโจทย์ ความมั่นคงทางพลังงาน ของ ฟิลิปปินส์ แต่ยังสอดคล้องกับทิศทางโลกและอุตสาหกรรมพลังงานที่ต้องการมุ่งสู่ สังคมคาร์บอนต่ำ อย่างยั่งยืน