MIT เยือนไทย สาธิตเทคโนโลยี AI ตัวช่วยฝ่าวิกฤติพายุ-น้ำท่วม ยุคโลกรวน

MIT เยือนไทย สาธิตเทคโนโลยี AI ตัวช่วยฝ่าวิกฤติพายุ-น้ำท่วม ยุคโลกรวน

ภัยพิบัติจากภูมิอากาศกำลังรุนแรงขึ้นอย่างชัดเจน แม้อุณหภูมิโลกจะเพิ่มขึ้นเพียง 1–2 °C แต่ผลกระทบต่อพายุ น้ำท่วม และเหตุการณ์สุดขีดกลับมีนัยสำคัญ AI เข้ามาแก้โจทย์ที่ซับซ้อนได้

KEY

POINTS

  • ภัยพิบัติจากภูมิอากาศกำลังรุนแรงขึ้นอย่างชัดเจน
  • แม้อุณหภูมิโลกจะเพิ่มขึ้นเพียง 1–2 °C แต่ผลกระทบต่อพายุ น้ำท่วม และเหตุการณ์สุดขีดกลับมีนัยสำคัญ
  • ความท้าทายในการประเมินความเสี่ยง เช่น ขาดข้อมูลในอดีต โดยเฉพาะพายุหายาก แบบจำลองสภาพอากาศยังไม่ละเอียดพอ
  • AI เข้ามาแก้โจทย์ที่ซับซ้อนเหล่านี้ได้

การประชุมด้านการบริหารจัดการภัยพิบัติ: เทคโนโลยี นวัตกรรม และการวิจัย เพื่อการรับมือและป้องกันภัยพิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ (Disaster Management Conference: Technology, Innovation, and Research for Effective Disaster Response and Prevention) เป็นเวทีสำคัญสำหรับการประชุมด้านการจัดการภัยพิบัติระดับภูมิภาค ที่จัดขึ้น ณ “วัน แบงค็อก ฟอรัม” (One Bangkok Forum) โดยความร่วมมือระหว่าง สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย, โครงการ MIT ASEAN Initiative (หรือที่รู้จักเป็นทางการว่า MIT Sloan ASEAN Initiative) และ หอการค้าอเมริกันในประเทศไทย (AmCham)

การประชุมครั้งนี้มุ่งเน้นการแลกเปลี่ยนเชิงนโยบายที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับแนวทางรับมือกับภัยพิบัติในมิติต่างๆ พร้อมชูบทบาทของสหรัฐอเมริกาในฐานะผู้นำด้านการวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อเสริมสร้างระบบการตอบสนองและป้องกันภัยพิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเปิดพื้นที่สำหรับการสร้างเครือข่ายระหว่างภาคนโยบาย นักวิจัย ภาคประชาสังคม และผู้เชี่ยวชาญจากทั้งไทยและกลุ่มประเทศอาเซียน

หนึ่งช่วงบรรยายที่น่าสนใจ "ดร. ไซ ราเวลา" จากภาควิชา Earth, Atmospheric, and Planetary Sciences (EAPS) จาก MIT ได้นำเสนอหัวข้อ "Emerging MIT Tech Frontiers of Risk-based Resilience to Extremes in a Changing Climate"

“ดร. ราเวลา” บรรยายถึงพรมแดนใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นในการลดความเสี่ยงภัยพิบัติที่เกิดจากสภาพภูมิอากาศ โดยเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการรับมือกับเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขีดที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นทั่วโลก

“แม้การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกเพียง 1-2 องศาเซลเซียสจะฟังดูไม่มากนัก แต่ผลกระทบต่อเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขีดนั้นมหาศาล และเหตุการณ์เหล่านี้เองที่ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง โดยสภาพภูมิอากาศกำลังขยายความรุนแรงของเหตุการณ์สุดขีดเหล่านี้ให้มากขึ้น”

MIT เยือนไทย สาธิตเทคโนโลยี AI ตัวช่วยฝ่าวิกฤติพายุ-น้ำท่วม ยุคโลกรวน

ความท้าทายรับมือเสี่ยงภัยพิบัติ

"ดร.ราเวลา” สรุปความท้าทายในการประเมินความเสี่ยง การประเมินความเสี่ยงภัยพิบัติทำได้ยากมาก เนื่องจากปัจจัยต่างๆ ว่ามีดังนี้

  • ขาดข้อมูลในอดีต: โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของพายุหมุนเขตร้อนที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักในบางพื้นที่ ทำให้การระบุ 'รอบระยะเวลาคืนทุน' (return period) หรือโอกาสเกิดพายุทำได้ไม่แม่นยำ
  • ข้อจำกัดของแบบจำลอง: แบบจำลองสภาพภูมิอากาศที่มีอยู่ในปัจจุบันยังขาดความละเอียดที่จำเป็นในการจำลองเหตุการณ์สุดขีดได้อย่างแม่นยำ ทำให้ไม่สามารถเห็นรายละเอียด เช่น การเกิดพายุไซโคลน หรือปริมาณฝนที่ตกหนักมากพอ
  • ความซับซ้อนของความเสี่ยง: ความเสี่ยงเกิดจากการประเมินร่วมกันของสามองค์ประกอบ ได้แก่ การเปิดรับ (exposure) ของพื้นที่, ความน่าจะเป็น (likelihood) ที่จะได้รับผลกระทบ และความเปราะบาง (vulnerability) ของโครงสร้างพื้นฐาน การประเมินแต่ละองค์ประกอบนี้ทำได้ยาก และทุกขั้นตอนในการวางแผนรับมือภัยพิบัติล้วนเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน

เกมช่วยชุมชนวางกลยุทธ์ลงทุนยั่งยืน

"ดร.ราเวลา" ชี้ให้เห็นว่า AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนเหล่านี้ โดยยกตัวอย่างผลงานที่ทีมงานของ ดร.ราเวลา ได้พัฒนาเกมที่ให้ชุมชนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการวางกลยุทธ์การลงทุนที่ยั่งยืน เพื่อรับมือกับภัยพิบัติที่จำลองขึ้นมา

ซึ่งการเล่นเกมที่ผสมผสานระหว่างคนกับคอมพิวเตอร์ (AI) นี้ช่วยให้ผู้คนเปลี่ยนจากความคิดเชิงกำหนดไปสู่การคิดบนพื้นฐานความเสี่ยง (risk-based thinking) และช่วยให้ AI เสนอทางเลือกที่เป็นไปได้ให้แก่ผู้เล่นมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การค้นพบกลยุทธ์ที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น

แบบจำลองพายุหมุนหลายหมื่นลูก

อีกตัวอย่าง คือ แบบจำลองที่สามารถสร้างพายุหมุนเขตร้อนสังเคราะห์ได้หลายหมื่นลูกภายในเวลาเพียงหนึ่งวัน ซึ่งนับว่ามากกว่าการจำลองแบบดั้งเดิมอย่างมหาศาล แบบจำลองนี้ใช้หลักการทางฟิสิกส์อย่างง่าย โดยเปรียบพายุเหมือน “ตู้เย็น” ที่มีการถ่ายเทพลังงานตามหลัก Carno principle ช่วยให้สามารถจำลองพายุได้แม่นยำโดยไม่ต้องอิงข้อมูลในอดีต และสามารถประเมินความเสี่ยงภายใต้สภาพภูมิอากาศใดก็ได้ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต

ทีมของ "ดร. ราเวลา" จึงเป็นกลุ่มแรกและกลุ่มเดียวที่สามารถสร้างแผนที่ภัยพิบัติจากลมและน้ำท่วมในระดับประเทศตามสถานการณ์สภาพภูมิอากาศที่กำหนดโดย IPCC ผลการจำลองยังชี้ให้เห็นว่าพายุที่เคยเกิดขึ้นทุก 100 ปี อาจเกิดถี่ขึ้นทุก 10 ปีในอนาคต ซึ่งสร้างความตื่นตระหนกในหลายพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น บังกลาเทศ