ซอสพริกศรีราชาพานิช ชูโรงเรียนทำอาหาร 0 บาท เชื่อมโยงความยั่งยืนด้วยรสชาติ

ซอสพริกศรีราชาพานิช ชูโรงเรียนทำอาหาร 0 บาท เชื่อมโยงความยั่งยืนด้วยรสชาติ

แคมเปญ The Culinary School 0 Baht เกิดจากการร่วมมือกับร้านอาหารท้องถิ่น “ดีต่อหัวใจ” บนเกาะสีชัง เน้นใช้วัตถุดิบพริกชี้ฟ้าสด 100% จากเกษตรกรไทย เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากและสร้างความยั่งยืนทางสังคม ให้เยาวชนเห็นคุณค่าของวัตถุดิบท้องถิ่นและส่งเสริมให้รู้จักรักและรักษาบ้านเกิด

KEY

POINTS

  • แคมเปญ The Culinary School 0 Baht เกิดจากการร่วมมือกับร้านอาหารท้องถิ่น “ดีต่อหัวใจ” บนเกาะสีชัง
  • เปิดครัวเป็นห้องเรียนให้เด็กในชุมชนเรียนรู้การทำอาหารและคุณค่าวัตถุดิบท้องถิ่น
  • เน้นใช้วัตถุดิบพริกชี้ฟ้าสด 100% จากเกษตรกรไทยในหลายจังหวัด เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากและสร้างความยั่งยืนทางสังคม
  • ให้เยาวชนเห็นคุณค่าของวัตถุดิบท้องถิ่นและส่งเสริมให้รู้จักรักและรักษาบ้านเกิด

เมื่อพูดถึง “ซอสพริกศรีราชาพานิช” หลายคนคงคุ้นเคยกับรสเผ็ดกลมกล่อมที่อยู่คู่โต๊ะอาหารไทยมายาวนานกว่า 90 ปี แต่ครั้งนี้ บริษัท ไทยเทพรส จำกัด (มหาชน) ได้ใช้จุดแข็งของบริษัทที่ไม่ใช่แค่เรื่องรสชาติ แต่เป็นการส่งต่อแรงบันดาลใจ และสร้างทักษะที่สามารถเปลี่ยนชีวิตให้กับเยาวชน ผ่านแคมเปญชื่อว่า “The Culinary School 0 Baht” เพราะเชื่อว่า “อาหาร” สามารถเปลี่ยนชีวิตคนได้

“วรัญญา วิญญรัตน์” รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเทพรส จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์กับ ‘กรุงเทพธุรกิจ’ ว่า จุดเริ่มต้นของโครงการนี้มาจากแนวคิดที่บริษัทยึดถือ คือการดำเนินธุรกิจควบคู่กับการสร้างคุณค่าทางสังคมอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการนำความรู้ความชำนาญด้านอาหารไปถ่ายทอดให้กับเยาวชนไทยในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ทั้งในด้านการเรียนรู้พื้นฐานและการฝึกทักษะอาชีพในสายงานครัว ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการผ่านแบรนด์ “ภูเขาทอง” มาแล้วในหลายโรงเรียน

แต่ “The Culinary School 0 Baht” ถือเป็นอีกก้าว โดยจุดเริ่มต้นของโครงการครั้งนี้เกิดจากการได้พบกับ อริสา นาคเกิด (คุณป๋อม) ผู้ร่วมก่อตั้ง ร้านอาหาร “ดีต่อหัวใจ” บนเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี ร้านอาหารท้องถิ่นเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ติดรั้วโรงเรียนเกาะสีชัง และมีแนวคิดเปิดครัวของร้านให้กลายเป็นห้องเรียนให้เด็กๆ ในชุมชนได้เรียนรู้ทักษะการทำอาหาร รู้จักคุณค่าของวัตถุดิบท้องถิ่น และที่สำคัญที่สุดคือ ได้เรียนรู้ที่จะรักบ้านเกิดของตนเอง

ซอสพริกศรีราชาพานิช ชูโรงเรียนทำอาหาร 0 บาท เชื่อมโยงความยั่งยืนด้วยรสชาติ

แนวคิดของ “ดีต่อหัวใจ” สอดคล้องกับหัวใจของแบรนด์ซอสพริกศรีราชาพานิช ซึ่งเป็นซอสพริกที่ถือกำเนิดขึ้นจากครัวเล็กๆ ของ "คุณแม่ถนอม จักกะพาก" ชาวอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งรังสรรค์ซอสพริกสูตรพิเศษไว้รับประทานกับอาหารทะเลภายในครอบครัว ก่อนจะถูกถ่ายทอดมายังบริษัท ไทยเทพรส ในปี 2527 จนกลายเป็นแบรนด์ที่อยู่คู่ครัวไทยมายาวนาน

“เราต้องการให้เด็กๆ เห็นว่า เรื่องราวที่ยิ่งใหญ่หลายเรื่อง ล้วนมีจุดเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ เสมอ เช่นเดียวกับซอสพริกศรีราชาพานิช ที่ครั้งหนึ่งก็เริ่มจากเพียงขวดซอสบนโต๊ะอาหารในบ้าน ถ้าเด็ก 1 คน เลือกเดินต่อในสายอาชีพอาหาร จากการเริ่มต้นที่ห้องเรียนแห่งนี้ ผลลัพธ์ยิ่งคุ้มค่ากว่ารางวัลไหนๆ”

ซอสพริกศรีราชาพานิช ชูโรงเรียนทำอาหาร 0 บาท เชื่อมโยงความยั่งยืนด้วยรสชาติ

คลาสพิเศษสอนทำอาหารฟรี

โครงการนี้ได้เปิดคลาสพิเศษสอนทำอาหารฟรีแก่นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเกาะสีชัง โดยได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งผู้อำนวยการโรงเรียนและคณะครู ซึ่งมีความตั้งใจในการส่งเสริมการเรียนรู้นอกห้องเรียนให้กับนักเรียน

นอกจากนี้ยังได้รับแรงสนับสนุนสำคัญจาก “น้ำทิพย์ ภูศรี” หรือ เชฟจ๋า เชฟอาสาผู้ร่วมถ่ายทอดทักษะด้านอาหารในฐานะทางเลือกของอาชีพในอนาคต ทุกฝ่ายร่วมกันวางแผนและออกแบบตารางเรียน ตลอดจนหลักสูตรการสอนที่เหมาะสมกับช่วงวัยของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายของโรงเรียนเกาะสีชังอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เด็กๆ ได้รับทั้งความรู้และแรงบันดาลใจไปพร้อมกัน

ซอสพริกศรีราชาพานิช ชูโรงเรียนทำอาหาร 0 บาท เชื่อมโยงความยั่งยืนด้วยรสชาติ

ภูมิใจบ้านเกิด ใช้วัตถุดิบท้องถิ่น

“วรัญญา” กล่าวด้วยว่า ซอสพริกศรีราชาพานิชยึดมั่นในการใช้วัตถุดิบจากแหล่งผลิตในประเทศไทย บริษัทให้ความสำคัญกับการสนับสนุนเกษตรกรไทยมาโดยตลอด โดยเลือกใช้พริกชี้ฟ้าสด 100% จากเกษตรกรในหลายจังหวัดทั่วประเทศ อาทิ ลำปาง สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร อุตรดิตถ์ น่าน เชียงใหม่ เชียงราย นครราชสีมา และศรีสะเกษ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกพริกคุณภาพสูงที่มีรสชาติเข้มข้นตามแบบต้นตำรับดั้งเดิม

“ความตั้งใจนี้ไม่เพียงสะท้อนผ่านรสชาติของผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างยั่งยืน เรายังมุ่งหวังให้เยาวชนไทยได้ตระหนักถึงคุณค่าของวัตถุดิบพื้นถิ่น และเห็นว่าอาหารไทยไม่เพียงเป็นวัฒนธรรม แต่ยังสามารถเป็นพลังในการพัฒนาชุมชน ลดการพึ่งพาการนำเข้า และสร้างระบบเศรษฐกิจฐานราก (Local Economy) ที่แข็งแรง หมุนเวียนรายได้สู่ชุมชน ลดการพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ”

ซอสพริกศรีราชาพานิชเชื่อมโยงชีวิตผู้คนมากมาย ตั้งแต่ "ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ" เริ่มต้นจากวัตถุดิบพริกจากเกษตรกรไทย 100% ลำเลียงขนส่งด้วยระบบโลจิสติกส์สู่กระบวนการผลิตในโรงงานขนาดใหญ่ที่มีพนักงานหลายพันชีวิต ตลอดจนคู่ค้าทุกราย

ซอสพริกศรีราชาพานิช ชูโรงเรียนทำอาหาร 0 บาท เชื่อมโยงความยั่งยืนด้วยรสชาติ

เชื่อมคนรุ่นใหม่ด้วยประสบการณ์ 24/7

เมื่อถามถึงการรักษาความเชื่อมโยงกับผู้บริโภครุ่นใหม่อย่างไร ขณะที่ยังรักษาเอกลักษณ์ของแบรนด์ในยุคดิจิทัล “วรัญญา” บอกว่า ในยุคที่ตลาดซอสพริกไม่ได้แข่งกันแค่เรื่องรสชาติ แต่เป็นการแข่งขันให้ได้ "พื้นที่ในใจผู้บริโภค"

แนวคิดสำคัญอย่าง “กลยุทธ์ 24/7” จึงถูกวางเป็นแกนกลางของการสื่อสาร โดยไม่ได้หมายถึงการตลาดตลอดเวลา แต่คือการสร้างประสบการณ์ให้ซอสพริกหนึ่งขวดเข้าไปอยู่ในทุกช่วงเวลาของชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นมื้อเช้าก่อนออกจากบ้าน มื้อกลางวันใกล้ที่ทำงาน หรือแม้แต่มื้อดึกหลังปาร์ตี้กับเพื่อน

หนึ่งในกลยุทธ์ที่โดดเด่น คือ Collaboration Marketing ที่เน้นความร่วมมือกับแบรนด์อื่นๆ เพื่อสร้างสิ่งใหม่ๆ และแบ่งปันประสบการณ์ ไม่ใช่เพียงยอดขาย

"อย่างช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา เราคอลแลปกับแบรนด์ After You เปิดตัวเมนู “คากิโกริแมงโก้นาดาซอสศรีราชา” เมนูที่ใครก็ไม่คิดว่า ซอสพริกจะอยู่ในของหวาน ทดลองสูตรกันหลายรอบ และทุกครั้งที่ลอง มันคือบทสนทนาระหว่างสองแบรนด์ที่มีเป้าหมายเดียวกัน คือ อยากสร้างรอยยิ้มให้ลูกค้า"

แม้ในอดีตแบรนด์จะเน้นการเติบโตแบบ organic ไม่ใช้เม็ดเงินโฆษณามากนัก แต่ในยุคที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ศรีราชาพานิชเลือกปรับตัวอย่างมีจุดยืน ด้วยการจัดกิจกรรมทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เช่น โรดโชว์ทั่วประเทศ คลาสเรียนทำอาหาร กิจกรรมสนุกๆ บนเพจเฟซบุ๊กของภูเขาทองและศรีราชาพานิช ไปจนถึงการทำ CSR เพื่อคืนกำไรสู่สังคม

ทั้งหมดนี้คือความพยายามของแบรนด์ไทยดั้งเดิม ที่ไม่ได้เพียงรักษาความคลาสสิก แต่ยังกล้าเปลี่ยนแปลงเพื่อเข้าถึงหัวใจของผู้บริโภคยุคใหม่ และเติบโตเคียงข้างคนไทยต่อไปในทุกช่วงชีวิต

ซอสพริกศรีราชาพานิช ชูโรงเรียนทำอาหาร 0 บาท เชื่อมโยงความยั่งยืนด้วยรสชาติ