ผอ.ใหญ่ 'ยูเนสโก' เตือน ท่องเที่ยวเกินพอดี+โลกร้อน เร่งหายนะมรดกโลก

ผอ.ใหญ่ 'ยูเนสโก' เตือน ท่องเที่ยวเกินพอดี+โลกร้อน เร่งหายนะมรดกโลก

ออเดรย์ อาซูเลย์ ผู้อำนวยการใหญ่ยูเนสโก เปิดประชุมมรดกโลกสมัยที่ 47 ที่ปารีส 1 ใน 3 ของมรดกทางธรรมชาติ และ 1 ใน 5 ของมรดกทางวัฒนธรรม เสี่ยงได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

KEY

POINTS

  • ออเดรย์ อาซูเลย์ ผู้อำนวยการใหญ่ยูเนสโก เปิดประชุมมรดกโลกสมัยที่ 47 ที่ปารีส
  • 1 ใน 3 ของมรดกทางธรรมชาติ และ 1 ใน 5 ของมรดกทางวัฒนธรรม เสี่ยงได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
  • เมืองมรดกโลกในเมดิเตอร์เรเนียนกว่า 2 ใน 3 เผชิญสภาพอากาศสุดขั้ว
  • เกือบ 75% ของแหล่งมรดกโลกเจอปัญหาน้ำ ทั้งน้ำท่วมและขาดแคลนน้ำ
  • ภัยจากการท่องเที่ยวมากเกิน กลายเป็นปัญหาใหญ่ในหลายประเทศ
  • ยูเนสโกใช้กลยุทธ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เช่น การพัฒนาเส้นทางวัฒนธรรมใหม่ และการจัดการจำนวนนักท่องเที่ยว
  • มีการเสนอชื่อแหล่งมรดกใหม่ 30 แห่ง และพิจารณาถอดถอน 3 แห่งออกจากบัญชี “มรดกโลกที่ตกอยู่ในอันตราย”
     

องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization : UNESCO) หรือ ยูเนสโก ได้เปิดการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ (UNESCO’s World Heritage Committee) ครั้งที่ 47 อย่างเป็นทางการ ณ สำนักงานใหญ่ยูเนสโก กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยการประชุมจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6–16 กรกฎาคม 2025 ภายใต้การสนับสนุนจากรัฐบาลบัลแกเรีย ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานการประชุมในปีนี้

โดยเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2025 นางออเดรย์ อาซูเลย์ ผู้อำนวยการใหญ่ยูเนสโก ได้กล่าวสุนทรพจน์เปิดการประชุม โดยมีนายมาเรียน บาเชฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมบัลแกเรีย และศาสตราจารย์นิโคไล เนนอฟ ประธานคณะกรรมการ เข้าร่วมด้วย สุนทรพจน์ได้เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของอนุสัญญาว่าด้วยมรดกโลก ซึ่งมีอายุมากกว่า 50 ปี ในการส่งเสริมสันติภาพผ่านการปกป้อง ส่งต่อ และยกคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ

มรดกโลกปัจจุบัน 1,200 แห่ง

ผู้อำนวยการใหญ่ยูเนสโก กล่าวว่า "การยอมรับและถ่ายทอดความหลากหลายของผู้คนคือหัวใจของอุดมการณ์พื้นฐาน ที่สมควรได้รับการปลูกฝังและผลักดันอย่างยั่งยืน" ซึ่งเป็นถ้อยคำของเอเลียส คาเน็ตติ นักเขียนรางวัลโนเบลชาวบัลแกเรีย ที่สะท้อนถึงเจตนารมณ์ของอนุสัญญาว่าด้วยมรดกโลก

อนุสัญญานี้มีรัฐภาคีถึง 196 รัฐ ทำให้เป็นหนึ่งในอนุสัญญาที่มีการให้สัตยาบันอย่างเป็นสากลมากที่สุดในโลก ปัจจุบันมีแหล่งมรดกโลกมากกว่า 1,200 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่เกือบ 4.8 ล้านตารางกิโลเมตร ซึ่งขยายตัวอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ 12 แหล่งแรกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนในปี 1978

ผอ.ใหญ่ 'ยูเนสโก' เตือน ท่องเที่ยวเกินพอดี+โลกร้อน เร่งหายนะมรดกโลก

ผลกระทบจากโลกร้อน

"อาซูเลย์" กล่าวด้วยว่า การประชุมครั้งนี้มุ่งมั่นที่จะรักษาสัญญาของการเป็นพหุภาคีที่จับต้องได้และแน่วแน่ ซึ่งวัฒนธรรมมีบทบาทสำคัญในการรับมือกับความท้าทายในปัจจุบัน มีความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับ ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อแหล่งมรดกทางธรรมชาติถึงหนึ่งในสาม และแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมหนึ่งในห้า ยกตัวอย่างเช่น ในพื้นที่เมดิเตอร์เรเนียน เกือบสองในสามของเมืองที่เป็นมรดกโลกกำลังเผชิญกับสภาพอากาศสุดขั้ว นอกจากนี้ เกือบสามในสี่ของแหล่งมรดกโลกยังประสบกับความเสี่ยงด้านน้ำอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการขาดแคลนน้ำหรือน้ำท่วม

การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

"อาซูเลย์" กล่าวต่อว่า อีกหนึ่งภัยคุกคามที่สำคัญคือการท่องเที่ยวที่มากเกินไป (overtourism) ซึ่งการวิพากษ์วิจารณ์กำลังเพิ่มขึ้นทั่วโลก เพื่อแก้ไขปัญหานี้ ยูเนสโกจึงได้นำกลยุทธ์ 'การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน' มาใช้ตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยเสนอแนวทางการบริหารจัดการนักท่องเที่ยวที่ปรับให้เหมาะสมกับแต่ละแหล่ง การสร้างศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่เป็นนวัตกรรมใหม่ และการพัฒนาเส้นทางวัฒนธรรมที่หลากหลายขึ้น เพื่อลดความกดดันในบางพื้นที่

มรดกโลกตกอยู่ในอันตราย

นอกจากนี้ ความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นยังเป็นภัยคุกคามต่อมรดกโลก ครึ่งหนึ่งของ 56 แหล่งที่อยู่ใน 'บัญชีรายชื่อมรดกโลกที่ตกอยู่ในอันตราย' เป็นผลโดยตรงจากความขัดแย้ง โดยเฉพาะในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งมีสัดส่วนเพียง 8% ของแหล่งมรดกโลกทั้งหมด แต่กลับมีแหล่งที่ตกอยู่ในอันตรายมากกว่า 40%

ยูเนสโกกำลังได้รับการร้องขอเพิ่มขึ้นในการสนับสนุนแหล่งมรดกที่เสียหายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและจากความขัดแย้ง

แพลตฟอร์มออนไลน์ ระบุแหล่งมรดกโลก

องค์กรได้ส่งภารกิจประเมินความเสียหาย เช่น ในอาร์เจนตินาหลังน้ำท่วม และได้เปิดตัว 'แพลตฟอร์มออนไลน์' ในสัปดาห์นี้ เพื่อระบุตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของแหล่งมรดกโลก อุทยานธรณี และเขตสงวนชีวมณฑลของยูเนสโก ซึ่งจะช่วยในการวิเคราะห์ความเสี่ยงแบบเรียลไทม์ เช่น น้ำท่วมหรือไฟไหม้ และปรับปรุงแผนการป้องกัน

นอกจากนี้ยังมีแพลตฟอร์ม 'Dive into Heritage' ที่ได้รับการสนับสนุนจากราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับมรดกในแง่มุมต่างๆ

โครงการฟื้นฟูมูลค่า 115 ล้านดอลลาร์

ในด้านการฟื้นฟูและปกป้องมรดกในพื้นที่ความขัดแย้ง "อาซูเลย์" บอกว่า ยูเนสโกได้ดำเนินการโครงการฟื้นฟูมูลค่า 115 ล้านดอลลาร์ในเมืองโมซูล ซึ่งแล้วเสร็จในปีนี้ และกำลังจะเริ่มดำเนินการในซีเรีย เพื่อปกป้องพิพิธภัณฑ์แห่งชาติในกรุงดามัสกัส ซึ่งอยู่ในบัญชีมรดกโลกที่ตกอยู่ในอันตราย และจะดำเนินโครงการในเมืองอะเลปโปเพื่ออนุรักษ์อนุสาวรีย์สำคัญและฟื้นฟูพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ

ยูเนสโกยังคงติดตามความเสียหายต่อแหล่งวัฒนธรรมในฉนวนกาซาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 โดยใช้ภาพถ่ายดาวเทียม และสนับสนุนการดำเนินการฉุกเฉินในยูเครน โดยมีแหล่งวัฒนธรรมกว่า 500 แห่งได้รับผลกระทบตั้งแต่ปี 2022 เช่นในโอเดสซาและลวีฟ

นอกจากนี้ยังมีการดำเนินการในซูดานเพื่อปกป้องแหล่งมรดกโลกและคอลเล็กชันพิพิธภัณฑ์ และในอุทยานแห่งชาติคาฮูซี-บีกา ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก เพื่อปิดพื้นที่เหมืองแร่ผิดกฎหมายและฝึกอบรมเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า

ดันแอฟริกาเสนอชื่อมรดกโลก

การสนับสนุนมรดกแอฟริกาเป็นอีกหนึ่งความสำคัญ โดยยูเนสโกได้พัฒนามาตรการเฉพาะตั้งแต่ปี 2021 เพื่อสนับสนุนรัฐในแอฟริกาในการเสนอชื่อแหล่งมรดกเป็นครั้งแรก ความพยายามเหล่านี้รวมถึงการเสริมสร้างความเชี่ยวชาญในหมู่ผู้เชี่ยวชาญรุ่นใหม่ชาวแอฟริกัน และการร่วมมือกับ 5 มหาวิทยาลัยในแคเมอรูน โมร็อกโก เซเนกัล แอฟริกาใต้ และแทนซาเนีย เพื่อสนับสนุนการศึกษาระดับอุดมศึกษาด้านมรดก

นับตั้งแต่ปี 2018 มีแหล่งใหม่ 15 แห่งจาก 8 ประเทศในอนุภูมิภาคซับซาฮาราของแอฟริกา ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และในการประชุมครั้งนี้มีการเสนอชื่อแหล่งจากแอฟริกา 4 แห่ง รวมถึงการเสนอชื่อครั้งแรกจากสองประเทศ

พิจารณามรดกโลกใหม่ 30 แห่ง ถอดถอน 3 แห่ง

สำหรับการประชุมในครั้งนี้ จะมีการพิจารณาเสนอชื่อแหล่งใหม่ 30 แห่ง และการขยายพื้นที่ข้ามพรมแดนอีก 2 แห่ง นอกจากนี้ยังมีการรายงานสถานะการอนุรักษ์สำหรับเกือบ 250 แหล่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากปีที่แล้ว รายงานเหล่านี้แสดงภาพรวมของมรดกโลกและความท้าทายที่ต้องเผชิญ

คณะกรรมการยังจะพิจารณาข้อเสนอถอดถอน 3 แห่งออกจากบัญชีรายชื่อมรดกโลกที่ตกอยู่ในอันตราย ได้แก่ ป่าฝน Atsinanana ในมาดากัสการ์, แหล่ง Abou Mena ในอียิปต์ และเมืองเก่า Ghadamès ในลิเบีย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบัญชีรายชื่อนี้เป็นเสมือนการเรียกร้องให้ร่วมกันดำเนินการมากกว่าการลงโทษ

ผู้อำนวยการใหญ่เน้นย้ำถึงความสำคัญของการ รักษารายชื่อมรดกโลกให้พ้นจากความพยายามทางการเมือง เพื่อรักษาสมดุลของการเจรจาและความน่าเชื่อถือของกลไกนี้

บัลแกเรียไม่สามารถเป็นเจ้าภาพได้

การประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นได้ด้วยความช่วยเหลือจากทางการบัลแกเรีย ซึ่งแม้ไม่สามารถเป็นเจ้าภาพได้ แต่ก็ได้พยายามทุกวิถีทางเพื่อให้การประชุมดำเนินไปอย่างราบรื่นในกรุงปารีส ในการเปิดการประชุม นางอาซูเลย์ได้อ้างคำกล่าวของจูเลีย คริสเตวา นักคิดชาวบัลแกเรียอีกท่านหนึ่งว่า

"เราแต่ละคนมีความเป็นเอกลักษณ์ และในความจริงที่เป็นเอกลักษณ์นี้เองคือแก่นแท้ของความเป็นมนุษย์" ซึ่งสะท้อนถึงการรวมตัวกันเพื่อมรดกโลกอันเป็นเอกลักษณ์ และเป็นแก่นแท้ของอนุสัญญาฉบับนี้