ดัชนีสันติภาพโลก 2025 'ไทยร่วง' อันดับ 86 โลก ตีคู่กัมพูชา รัสเซียรั้งท้ายสุด

ดัชนีสันติภาพโลก 2025 'ไทยร่วง' อันดับ 86 โลก ตีคู่กัมพูชา รัสเซียรั้งท้ายสุด

ดัชนีสันติภาพโลก (GPI) ปี 2025 พบว่า ระดับสันติภาพทั่วโลกลดลงเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน ประเทศที่สงบสุขมากกว่า มักมีศักยภาพในการพัฒนาอย่างยั่งยืนสูงกว่า ไทยอันดับ 86 ของโลก และอันดับ 6 อาเซียน ขณะที่กัมพูชา อันดับ 87 ของโลก

KEY

POINTS

  • ดัชนีสันติภาพโลก (GPI) ปี 2025 พบว่า ระดับสันติภาพทั่วโลกลดลงเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน
  • ปีนี้เป็นการจัดอันดับ ครั้งที่ 19 ครอบคลุม 163 ประเทศ คิดเป็น 99.7% ของประชากรโลก
  • ประเทศที่สงบสุขมากกว่า มักมีศักยภาพในการพัฒนาอย่างยั่งยืนสูงกว่า
  • เกณฑ์การประเมิน GPI แบ่งเป็น 3 ด้านหลัก ใช้ตัวชี้วัดรวม 23 ตัว ทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ
  • ไอซ์แลนด์ อันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 17 อันดับสุดท้าย รัสเซีย (163)
  • ไทยอันดับ 86 ของโลก และอันดับ 6 อาเซียน ขณะที่กัมพูชา อันดับ 87 ของโลก
  • 'เสรีภาพของสื่อ' และ 'คุณภาพข้อมูล' ลดลงมากที่สุด

สถาบันเศรษฐศาสตร์และสันติภาพ (Institute for Economics & Peace - IEP) ได้เผยแพร่รายงานดัชนีสันติภาพโลก (Global Peace Index - GPI) ประจำปี 2025 ซึ่งเป็นฉบับที่ 19 รายงานนี้ครอบคลุมการประเมิน 163 ประเทศและเขตปกครอง ซึ่งคิดเป็น 99.7% ของประชากรโลก "กรุงเทพธุรกิจ" ได้รวบรวมประเด็นสำคัญจากรายงานฉบับนี้ ดังต่อไปนี้

ผลการศึกษาพบว่าระดับสันติภาพทั่วโลกยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้เป็นปีที่ 6 ติดต่อกันที่สันติภาพโลกเสื่อมถอยลง และเป็นปีที่ 13 ในรอบ 17 ปีที่ค่าเฉลี่ยดัชนีลดลง

ดัชนีสันติภาพโลก (GPI) ไม่ได้สะท้อนแค่ระดับความสงบเรียบร้อยของแต่ละประเทศเท่านั้น หากยังมีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับ 'แนวคิดเรื่องความยั่งยืน' ในภาพรวมของสังคมอีกด้วย ความสงบภายในประเทศส่งผลโดยตรงต่อความสามารถในการพัฒนาอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ การส่งเสริมการศึกษาที่เท่าเทียม หรือการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่มั่นคง

เมื่อประเทศมีความสงบและปลอดภัยมากขึ้น โอกาสในการดำเนินนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมจึงขยายตัวอย่างมีประสิทธิผล ทำให้ GPI กลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่สะท้อนศักยภาพการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศในระยะยาวอย่างแท้จริง

ระเบียบวิธีและเกณฑ์การวัด

ดัชนีสันติภาพโลกถือเป็นการวัดสันติภาพที่ครอบคลุมมากที่สุดในโลก โดยใช้ตัวชี้วัดทั้งเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณรวม 23 ตัว เพื่อประเมินสถานะของสันติภาพในสามมิติหลัก ได้แก่

  • ระดับความปลอดภัยและความมั่นคงทางสังคม (Societal Safety and Security)
  • ขอบเขตของความขัดแย้งภายในประเทศและระหว่างประเทศที่กำลังดำเนินอยู่ (Ongoing Domestic and International Conflict)
  • ระดับการเสริมกำลังทางทหาร (Militarisation)

ทั้งนี้ ในบริบทของ GPI “คะแนนมากขึ้น” หมายถึง สถานการณ์แย่ลง เพราะ GPI ใช้ระบบคะแนนที่ ยิ่งน้อยยิ่งดี โดยคะแนนต่ำแปลว่าประเทศนั้นมีความสงบสุขสูง ส่วนคะแนนสูงหมายถึงมีความขัดแย้ง ความไม่มั่นคง หรือการเสริมกำลังทางทหารมากขึ้น

10 ประเทศแรก ที่สงบสุขที่สุดในโลก

  • อันดับที่ 1 🇮🇸 ไอซ์แลนด์ – คะแนน 1.095 – คงที่จากปีก่อน
  • อันดับที่ 2 🇮🇪 ไอร์แลนด์ – คะแนน 1.260 – คงที่จากปีก่อน
  • อันดับที่ 3 🇳🇿 นิวซีแลนด์ – คะแนน 1.282 – เพิ่มขึ้น 2 อันดับจากปีก่อน
  • อันดับที่ 4 🇦🇹 ออสเตรีย – คะแนน 1.294 – ลดลง 1 อันดับจากปีก่อน
  • อันดับที่ 5 🇨🇭 สวิตเซอร์แลนด์ – คะแนน 1.294 – ลดลง 1 อันดับจากปีก่อน
  • อันดับที่ 6 🇸🇬 สิงคโปร์ – คะแนน 1.357 – คงที่จากปีก่อน
  • อันดับที่ 7 🇵🇹 โปรตุเกส – คะแนน 1.371 – เพิ่มขึ้น 1 อันดับจากปีก่อน
  • อันดับที่ 8 🇩🇰 เดนมาร์ก – คะแนน 1.393 – ลดลง 1 อันดับจากปีก่อน
  • อันดับที่ 9 🇸🇮 สโลวีเนีย – คะแนน 1.409 – คงที่จากปีก่อน
  • อันดับที่ 10 🇫🇮 ฟินแลนด์ – คะแนน 1.420 – เพิ่มขึ้น 1 อันดับจากปีก่อน

ดัชนีสันติภาพโลก 2025 'ไทยร่วง' อันดับ 86 โลก ตีคู่กัมพูชา รัสเซียรั้งท้ายสุด

10 ประเทศ ที่มีความสงบสุขต่ำสุดในโลก

  • อันดับที่ 154 🇲🇱 มาลี – คะแนน 3.061 – ลดลง 1 อันดับจากปีก่อน
  • อันดับที่ 155 🇮🇱 อิสราเอล – คะแนน 3.108 – คงที่จากปีก่อน
  • อันดับที่ 156 🇸🇸 ซูดานใต้ – คะแนน 3.117 – เพิ่มขึ้น 2 อันดับจากปีก่อน
  • อันดับที่ 157 🇸🇾 ซีเรีย – คะแนน 3.184 – ลดลง 1 อันดับจากปีก่อน
  • อันดับที่ 158 🇦🇫 อัฟกานิสถาน – คะแนน 3.229 – ลดลง 2 อันดับจากปีก่อน
  • อันดับที่ 159 🇾🇪 เยเมน – คะแนน 3.262 – เพิ่มขึ้น 3 อันดับจากปีก่อน
  • อันดับที่ 160 🇨🇩 คองโก – คะแนน 3.292 – ลดลง 3 อันดับจากปีก่อน
  • อันดับที่ 161 🇸🇩 ซูดาน – คะแนน 3.323 – เพิ่มขึ้น 2 อันดับจากปีก่อน
  • อันดับที่ 162 🇺🇦 ยูเครน – คะแนน 3.434 – ลดลง 3 อันดับจากปีก่อน
  • อันดับที่ 163 🇷🇺 รัสเซีย –คะแนน 3.441 – ลดลง 2 อันดับจากปีก่อน

สำหรับ GPI ประจำปี 2025 สหรัฐอเมริกา อยู่อันดับที่ 128 มีคะแนน 2.443 โดยสถานะไม่เปลี่ยนแปลงจากปีที่แล้ว

แม้จะเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี แต่สหรัฐอเมริกายังคงอยู่ในกลุ่มล่างของการจัดอันดับความสงบสุขโลก สะท้อนความท้าทายด้านความขัดแย้งภายใน การลงทุนทางทหารระดับสูง และความเปราะบางทางสังคมที่ยังคงมีนัยสำคัญต่อภาพรวมของประเทศ

จัดอันดับดัชนีสันติภาพประเทศในอาเซียน

จากข้อมูลดัชนีสันติภาพโลก (GPI) ปี 2025 "กรุงเทพธุรกิจ" ได้กรองข้อมูลเฉพาะภูมิภาคอาเซียน พบว่า ยังคงมีความหลากหลายด้านระดับสันติภาพระหว่างประเทศสมาชิก โดยมีการเปลี่ยนแปลงอันดับในหลายประเทศ ซึ่งสะท้อนถึงสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคง ความขัดแย้ง และสภาพเศรษฐกิจในแต่ละพื้นที่ (หมายเหตุ: บรูไนดารุสซาลามไม่ได้ปรากฏในดัชนีสันติภาพโลก ประจำปี 2025)

  • อันดับ 6 โลก อันดับ 1 อาเซียน 🇸🇬 สิงคโปร์ – คะแนน 1.357 คงที่จากปีก่อน
  • อันดับ 13 โลก อันดับ 2 อาเซียน  🇲🇾 มาเลเซีย – คะแนน 1.469 ลดลง 1 อันดับ
  • อันดับร่วม 38 โลก อันดับ 3 อาเซียน 🇻🇳 เวียดนาม – คะแนน 1.721 เพิ่มขึ้น 1 อันดับ
  • อันดับ 47 โลก อันดับ 4 อาเซียน 🇱🇦 ลาว – คะแนน 1.783 ลดลง 3 อันดับ
  • อันดับที่ 49 โลก อันดับ 5 อาเซียน 🇮🇩 อินโดนีเซีย – คะแนน 1.786 เพิ่มขึ้น 3 อันดับ
  • อันดับที่ 86 โลก อันดับ 6 อาเซียน 🇹🇭 ไทย – คะแนน 2.017 ลดลง 5 อันดับ
  • อันดับร่วม 87 อันดับ 7 อาเซียน 🇰🇭 กัมพูชา – คะแนน 2.019 ลดลง 12 อันดับ
  • อันดับที่ 105 โลก อันดับ 8 อาเซียน 🇵🇭 ฟิลิปปินส์ – คะแนน 2.148 เพิ่มขึ้น 6 อันดับ
  • อันดับที่ 153 โลก อันดับ 9 อาเซียน 🇲🇲 เมียนมา – คะแนน 3.045 ลดลง 2 อันดับ

ดัชนีสันติภาพโลก 2025 'ไทยร่วง' อันดับ 86 โลก ตีคู่กัมพูชา รัสเซียรั้งท้ายสุด

ไอซ์แลนด์ครองแชมป์ 17 สมัย

ผลการจัดอันดับปี 2025 พบว่า ไอซ์แลนด์ ยังคงเป็นประเทศที่สงบสุขที่สุดในโลก ซึ่งรักษาสถานะนี้มาตั้งแต่ปี 2008 โดยมีประเทศที่ติดอันดับต้นๆ ร่วมด้วยได้แก่ ไอร์แลนด์ ออสเตรีย นิวซีแลนด์ และสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งประเทศเหล่านี้ส่วนใหญ่ (ยกเว้นสวิตเซอร์แลนด์) ก็เคยติดอันดับ 10 ประเทศที่สงบสุขที่สุดในรายงานฉบับแรกด้วย

ในทางกลับกัน 'รัสเซีย' ได้กลายเป็นประเทศที่ไร้สันติสุขที่สุดในโลกเป็นครั้งแรกในดัชนีสันติภาพโลกปี 2025 ตามมาด้วยยูเครน ซูดาน สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก และเยเมน

สำหรับภูมิภาค ยุโรปตะวันตกและยุโรปกลาง ยังคงเป็นภูมิภาคที่สงบสุขที่สุดในโลก โดยเป็นที่ตั้งของ 8 ใน 10 ประเทศที่สงบสุขที่สุด อย่างไรก็ตาม ระดับสันติภาพในภูมิภาคนี้ได้ลดลงในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่ภูมิภาค ตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ (MENA) ยังคงเป็นภูมิภาคที่ไร้สันติสุขที่สุดในโลก

ภูมิภาค เอเชียใต้ เป็นภูมิภาคที่ไร้สันติสุขเป็นอันดับ 2 ของโลก และประสบกับการลดลงของสันติภาพมากที่สุดในปีที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการปราบปรามในบังกลาเทศภายใต้รัฐบาลฮาซินา และความไม่สงบภายในที่เพิ่มขึ้น รวมถึงความตึงเครียดภายในและข้ามพรมแดนที่รุนแรงขึ้นในปากีสถาน ภูมิภาคเดียวที่บันทึกการปรับปรุงสันติภาพในปีที่แล้วคือ อเมริกาใต้ โดย 7 ใน 11 ประเทศในภูมิภาคนี้มีการปรับปรุงที่ดีขึ้น ซึ่งเปรูและอาร์เจนตินามีการปรับปรุงที่ใหญ่ที่สุด

ความสงบสุขลดลง ความขัดแย้งเพิ่มขึ้น

ระดับสันติภาพทั่วโลกโดยเฉลี่ยลดลง 0.36% ในปีที่ผ่านมา โดย 74 ประเทศมีการปรับปรุงที่ดีขึ้น แต่ 87 ประเทศกลับแย่ลง ปัจจุบันมี 97 ประเทศที่สงบสุขน้อยลงกว่าเมื่อเริ่มมีการจัดทำดัชนีในปี 2008

ขณะที่จำนวนความขัดแย้งระหว่างรัฐที่กำลังดำเนินอยู่มีถึง 59 แห่ง ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 นอกจากนี้ 17 ประเทศบันทึกจำนวนผู้เสียชีวิตจากความขัดแย้งเกิน 1,000 คนในปีที่แล้ว อัตราการแก้ไขความขัดแย้งได้สำเร็จลดลงต่ำสุดในรอบ 50 ปี

นอกจากนั้น ความขัดแย้งยังมีความเป็นสากลมากขึ้น โดยมี 78 ประเทศที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งนอกพรมแดนของตน ความขัดแย้งระหว่างรัฐที่ถูกทำให้เป็นสากล (internationalised intrastate conflicts) เพิ่มขึ้น 175% ตั้งแต่ปี 2010

การเสริมกำลังทางทหารพลิกกลับ

แนวโน้มการลดการเสริมกำลังทางทหาร ที่ดำเนินมาเกือบสองทศวรรษได้พลิกกลับ โดย 106 ประเทศมีค่าดัชนีด้านการเสริมกำลังทางทหารที่แย่ลงในช่วงสองปีที่ผ่านมา การใช้จ่ายทางทหาร (คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของ GDP) มีการลดลงที่มากเป็นอันดับสองนับตั้งแต่เริ่มมีการจัดทำ GPI

ตัวชี้วัดแย่ลง

ตัวชี้วัดที่แย่ลงมากที่สุดในปีที่ผ่านมาคือ 'ความขัดแย้งภายนอกที่เกิดขึ้น' (external conflicts fought) ในขณะที่ตัวชี้วัดที่ปรับปรุงดีขึ้นมากที่สุดคือ 'การรับรู้ถึงอาชญากรรม' (perceptions of criminality)

ผลกระทบทางเศรษฐกิจ 19.97 ล้านล้านดอลลาร์

ในปี 2024 ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากความรุนแรงทั่วโลกอยู่ที่ 19.97 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ในแง่ของกำลังซื้อ) ซึ่งเทียบเท่ากับ 11.6% ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลก หรือประมาณ 2,446 ถึง 2,455 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อคน รายจ่ายทางทหารและความมั่นคงภายในคิดเป็นมากกว่า 73% ของผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งหมด

หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

หนี้สาธารณะทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยแตะระดับ 97 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2023 ประเทศกำลังพัฒนาใช้จ่ายเฉลี่ย 42% ของรายได้รัฐบาลไปกับการชำระหนี้ โดยจีนเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุด

การฟื้นฟูสันติภาพ

การใช้จ่ายเพื่อการสร้างสันติภาพและการรักษาสันติภาพในปี 2024 อยู่ที่เพียง 0.52% ของการใช้จ่ายทางทหารทั้งหมด ซึ่งลดลงจาก 0.83% เมื่อสิบปีก่อน

การเปลี่ยนแปลงอำนาจโลก

การแตกขั้วทางภูมิรัฐศาสตร์เพิ่มขึ้นอย่างมาก และขณะนี้เกินระดับที่เคยเห็นในช่วงสงครามเย็นแล้ว

ทั้งนี้ โลกกำลังเข้าสู่ยุคของ 'การแตกขั้วอำนาจโลก' (global power fragmentation) โดยปัจจุบันมี 34 ประเทศที่มีอิทธิพลอย่างมากในประเทศอื่น ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 6 ประเทศในทศวรรษ 1970 อำนาจกำลังเปลี่ยนไปสู่เศรษฐกิจระดับกลางที่กำลังเติบโต

สันติภาพเชิงบวก

Positive Peace เป็นทัศนคติ สถาบัน และโครงสร้างที่สร้างและรักษาสังคมที่สงบสุข แม้ระดับของสันติภาพเชิงบวกจะดีขึ้นกว่าทศวรรษจนถึงปี 2019 แต่ก็ลดลงตั้งแต่นั้นมา รวมถึงในอเมริกาเหนือและยุโรป

การไหลเวียนของข้อมูลและสื่อ

"การไหลเวียนของข้อมูลอย่างเสรี" เป็นรากฐานของสันติภาพ อย่างไรก็ตาม แม้การเข้าถึงโทรคมนาคมจะดีขึ้น แต่ 'เสรีภาพสื่อ' และคุณภาพข้อมูลกลับลดลงมากที่สุด การรายงานข่าวความขัดแย้งยังคงไม่สมดุล โดยการเสียชีวิตของพลเรือนในประเทศรายได้สูงได้รับการรายงานข่าวมากกว่าการเสียชีวิตในประเทศรายได้ต่ำถึง 100 เท่า

โดยสรุป รายงานดัชนีสันติภาพโลก 2025 ชี้ให้เห็นว่าระเบียบโลกกำลังเข้าใกล้จุดเปลี่ยน โดยมีการแตกขั้วทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น การเสริมกำลังทางทหารที่เร่งตัว และการแข่งขันทางอิทธิพลที่หลากหลาย ซึ่งกำลังสร้างเงื่อนไขสำหรับความขัดแย้งขนาดใหญ่ที่จะเกิดขึ้น IEP เน้นย้ำว่าหากไม่มีการลงทุนที่เพียงพอ สันติภาพทั่วโลกก็มีแนวโน้มที่จะเสื่อมถอยต่อไป