ไทยรายงานสถานะมรดกโลก 3 แห่ง ต่อ UNESCO ที่ปารีส การประชุมใหญ่ครั้งที่ 47

การประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ครั้งที่ 47 จัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ยูเนสโก กรุงปารีส ปัจจุบันมีแหล่งมรดกโลกมากกว่า 1,200 แห่ง ครอบคลุมเกือบ 4.8 ล้าน ตร.กม.
KEY
POINTS
- การประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ครั้งที่ 47 จัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ยูเนสโก กรุงปารีส
- ปัจจุบันมีแหล่งมรดกโลกมากกว่า 1,200 แห่ง ครอบคลุมเกือบ 4.8 ล้าน ตร.กม.
- อำนวยการใหญ่ยูเนสโก ออเดรย์ อาซูเลย์ กล่าวเปิดงาน ย้ำบทบาทอนุสัญญามรดกโลกที่มีอายุกว่า 50 ปี
- คณะผู้แทนไทยเข้าร่วมประชุม นำโดยกรมอุทยานฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมศิลปากร, กต., สผ., สกศ.
องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization : UNESCO) หรือ ยูเนสโก ได้เปิดการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 47 อย่างเป็นทางการ ณ สำนักงานใหญ่ในกรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยการประชุมจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6–16 กรกฎาคม 2025 ภายใต้การสนับสนุนจากรัฐบาลบัลแกเรีย ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานการประชุมในปีนี้
การประชุมครั้งนี้มีวาระสำคัญในการพิจารณาเสนอชื่อแหล่งมรดกโลกใหม่กว่า 30 แห่งจากทั่วโลก รวมถึงการติดตามสถานะการอนุรักษ์ของแหล่งมรดกโลกที่มีอยู่ โดยเฉพาะแหล่งที่อยู่ในบัญชีมรดกโลกที่ตกอยู่ในอันตราย นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมเสริม เช่น ฟอรัมผู้จัดการแหล่งมรดกโลก การประชุมเชิงปฏิบัติการด้านการสร้างขีดความสามารถ และการส่งเสริมบทบาทของชนพื้นเมืองในการอนุรักษ์มรดกโลก
คณะกรรมการประกอบด้วยผู้แทนจาก 21 ประเทศสมาชิกที่ได้รับเลือกจาก 195 ประเทศภาคีอนุสัญญา การประชุมครั้งนี้ถือเป็นเวทีสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการอนุรักษ์วัฒนธรรมและธรรมชาติ และเป็นการตอกย้ำบทบาทของยูเนสโกในการผลักดันการพัฒนาที่ยั่งยืนผ่านการอนุรักษ์มรดกของมนุษยชาติ
ผอ.ใหญ่ยูเนสโกชี้ “มรดกโลก” ถูกกระทบจากโลกร้อน
นางออเดรย์ อาซูเลย์ ผู้อำนวยการใหญ่ยูเนสโก กล่าวสุนทรพจน์เปิดงาน การประชุมมรดกโลกครั้งที่ 47 ณ สำนักงานใหญ่ของยูเนสโก กรุงปารีส โดยมีนายมาเรียน บาเชฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมบัลแกเรีย และศาสตราจารย์นิโคไล เนนอฟ ประธานคณะกรรมการมรดกโลก เข้าร่วมงานครั้งนี้ด้วย
โดยผู้อำนวยการใหญ่ยูเนสโกกล่าวว่า ปัจจุบันมีแหล่งมรดกโลกมากกว่า 1,200 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่เกือบ 4.8 ล้านตารางกิโลเมตร ซึ่งขยายตัวอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ 12 แหล่งแรกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนในปี 1978
การประชุมครั้งนี้มุ่งมั่นที่จะรักษาสัญญาของการเป็นพหุภาคีที่จับต้องได้และแน่วแน่ ซึ่งวัฒนธรรมมีบทบาทสำคัญในการรับมือกับความท้าทายในปัจจุบัน มีความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับ ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อแหล่งมรดกทางธรรมชาติถึงหนึ่งในสาม และแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมหนึ่งในห้า ยกตัวอย่างเช่น ในพื้นที่เมดิเตอร์เรเนียน เกือบสองในสามของเมืองที่เป็นมรดกโลกกำลังเผชิญกับสภาพอากาศสุดขั้ว นอกจากนี้ เกือบสามในสี่ของแหล่งมรดกโลกยังประสบกับความเสี่ยงด้านน้ำอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการขาดแคลนน้ำหรือน้ำท่วม
ไทยย้ำ ร่วมมือแข็งแกร่งอนุรักษ์มรดกโลก
โดยคณะผู้แทนกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ของประเทศไทย ได้เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 47 (47th session of the World Heritage Committee) ณ สำนักงานใหญ่องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส
การเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ เน้นย้ำถึงความร่วมมืออันแข็งแกร่งของหน่วยงานไทยในการดูแลและอนุรักษ์แหล่งมรดกโลก ซึ่งรวมถึง กระทรวงการต่างประเทศ, สำนักเลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก), กรมศิลปากร, กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ตัวแทนไทยเยือนยูเนสโก ปารีส
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มอบหมายให้ นายนรินทร์ ประทวนชัย รองอธิบดี นำคณะผู้แทนกรมอุทยานฯ ที่เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ ประกอบด้วย นายนรินทร์ ประทวนชัย รองอธิบดี (หัวหน้าคณะผู้แทนกรมอุทยานฯ), นายสมบัติ พิมพ์ประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานกลาง และนางสุนีย์ ศักดิ์เสือ ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนั่นมีนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก นายศรัณย์ เจริญสุวรรณ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปารีส เป็นรองหัวหน้าคณะ รวมถึง นายจิรวัฒน์ ระติสุนทร รองเลขาธิการ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ร่วมคณะ
ประเด็นสำคัญในที่ประชุม
คณะผู้แทนกรมอุทยานฯ ในฐานะผู้สังเกตการณ์ ได้ติดตามและศึกษาประเด็นสำคัญที่ส่งผลต่อการอนุรักษ์มรดกโลกในระดับสากลอย่างใกล้ชิด อาทิ รายงานความคืบหน้าของศูนย์มรดกโลก ในการดำเนินกิจกรรมและการปฏิบัติตามมติคณะกรรมการมรดกโลก, รายงานจากองค์กรที่ปรึกษา ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับการกำหนดทิศทางในอนาคต, กลยุทธ์การพัฒนาในแอฟริกา และความก้าวหน้าเกี่ยวกับอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกและการพัฒนาอย่างยั่งยืน, นโยบายสำหรับรัฐภาคีที่กำลังพัฒนาและหมู่เกาะขนาดเล็ก รวมถึงกลยุทธ์การปฏิบัติการสำหรับหมู่เกาะขนาดเล็ก 2023-2029, การเสริมสร้างศักยภาพที่เกี่ยวข้องกับมรดกโลก และการติดตามกลยุทธ์เพื่อเสริมสร้างศักยภาพมรดกโลก
ไทย รายงานสถานะมรดกโลก 3 แห่งในประเทศ
วาระการประชุมที่สำคัญเกี่ยวข้องกับเเหล่งมรดกโลกของไทย ได้เเก่ การรายงานสถานภาพการอนุรักษ์แหล่งมรดกโลก จำนวน 3 แห่ง ได้แก่
- พื้นที่กลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ เป็นแหล่งมรดกโลกแหล่งที่ 5 ของประเทศไทย และเป็นมรดกทางธรรมชาติลำดับที่ 2 ของไทย
- พื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน เป็นแหล่งมรดกโลกแห่งที่ 6 ของประเทศไทย และเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ แห่งที่ 3 ของไทย
- เมืองโบราณศรีเทพ เป็นมรดกโลกแห่งที่ 7 ของประเทศไทย และเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมแหล่งที่ 4 ของไทย
รวมถึงการรับรองการบรรจุแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม พระปรางค์วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) ของศูนย์มรดกโลก
มรดกโลกในภาวะอันตราย
ทั้งนี้ ในการประชุมฯ คณะกรรมการมรดกโลกได้พิจารณารายงานสถานภาพการอนุรักษ์แหล่งมรดกโลกในภาวะอันตราย ที่ประชุมได้มีการอภิปรายเเหล่งมรดกโลกในภาวะอันตราย และมีมติให้ถอดแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ Rainforests of Atsinana (มาดากัสกา) Abu Mena (อียิปต์) และ Old Town of Ghadanes (ลิเบีย) จากแหล่งมรดกโลกในภาวะอันตราย






