PIPATCHARA พลิกขยะอวนประมง สู่โลกแฟชั่น Aqua-R-Us สมดุลความงาม-ความยั่งยืน

แบรนด์ PIPATCHARA เปิดตัวคอลเลกชัน AQUA-R-US ใช้ขยะทะเลเป็นวัสดุหลักครั้งแรก ร่วมลดปัญหาสิ่งแวดล้อม เพราะอวนประมงถูกทิ้งทะเลมากถึง 640,000 ตันต่อปี และใช้เวลาย่อยสลายถึง 600 ปี สนับสนุนแนวทาง เศรษฐกิจหมุนเวียน
KEY
POINTS
- แบรนด์ PIPATCHARA เปิดตัวคอลเลกชั่น AQUA-R-US ใช้ขยะทะเลเป็นวัสดุหลักครั้งแรก
- ร่วมลดปัญหาสิ่งแวดล้อม เพราะอวนประมงถูกทิ้งทะเลมากถึง 640,000 ตันต่อปี และใช้เวลาย่อยสลายถึง 600 ปี
- แฟชั่นสามารถเป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อสิ่งแวดล้อม
- สนับสนุนแนวทาง เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) โดยเปลี่ยนขยะให้เป็นทรัพยากรใหม่
- การออกแบบได้แรงบันดาลใจจาก “หมากเก็บ” ที่สื่อถึง การเชื่อมโยง ความยืดหยุ่น และความร่วมมือ
- แสดงถึงศักยภาพของแบรนด์ไทยในการส่งออกแนวคิดด้าน ความยั่งยืนผ่านแฟชั่นสู่เวทีโลก
ในยุคที่โลกกำลังเผชิญกับวิกฤติสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง หนึ่งในปัญหาหลักคือ “ขยะทะเล” โดยเฉพาะ “อวนประมง” ที่กลายเป็นมลพิษใต้ผืนน้ำอย่างน่าวิตก ปัจจุบันมีอวนประมงถูกทิ้งลงสู่ท้องทะเลมากถึง 640,000 ตันต่อปี ซึ่งอวนเหล่านี้สามารถลอยอยู่ในทะเลได้นานถึง 600 ปี ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสัตว์น้ำและแนวปะการังทั่วโลก
แต่ท่ามกลางวิกฤติ ได้มีแบรนด์แฟชั่นไทยที่ลุกขึ้นมาสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างสร้างสรรค์ นั่นคือ PIPATCHARA ที่มีจุดยืนชัดเจนเรื่องความยั่งยืน ได้เปิดตัวคอลเลกชั่นล่าสุดภายใต้ชื่อ “PIPATCHARA AQUA-R-US” ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงคอลเลกชั่นเสื้อผ้า แต่คือบทสนทนากับท้องทะเล เป็นการส่งเสียงให้โลกตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล
จากขยะอวนประมง สู่เครื่องแต่งกาย
แนวคิดของคอลเลกชั่นนี้เริ่มต้นจากการเก็บขยะอวนประมงในรัศมี 5 กิโลเมตรรอบโรงงานที่จังหวัดระยอง โดยชาวชุมชนมีบทบาทสำคัญในการรวบรวมอวนที่ถูกทิ้ง และส่งต่อให้ PIPATCHARA นำมารีไซเคิลเป็นเส้นใยไนลอนคุณภาพสูง รังสรรค์เป็นเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่งดงาม มีเอกลักษณ์ และเปี่ยมไปด้วยคุณค่า
โปรเจกต์นี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือกับ บริษัท อูเบะ เคมิคอลส์ (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการผลิตไนลอนของประเทศ และพันธมิตรอีกหลายภาคส่วน เช่น SEA LIFE Bangkok ที่ร่วมขับเคลื่อนความยั่งยืน โดยจะเป็นจุดรับขวดพลาสติก เพื่อร่วมกันเปลี่ยนขยะให้เป็นทรัพยากรใหม่ พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) อย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งมีนิทรรศการ “PIPATCHARA AQUA-R-US” ซึ่งจัดแสดงถึงวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 ณ SEA LIFE Bangkok ชั้น B1 – B2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน
ครั้งแรกที่แบรนด์ใช้ขยะจากทะเล
“ภิพัชรา แก้วจินดา” หรือ “เพชร” ผู้ก่อตั้งและดีไซเนอร์ของแบรนด์ เปิดเผยว่า คอลเลกชั่น “PIPATCHARA AQUA-R-US” เป็นครั้งแรกที่แบรนด์ใช้ขยะทะเลมาเป็นวัสดุหลัก แต่ก่อนหน้านี้ใช้ขยะบนบก เช่น ขวดพลาสติก หรือช้อนส้อมพลาสติกที่ใช้แล้วทิ้ง
คอลเลกชั่นนี้มีทั้ง เสื้อผ้า เครื่องประดับ และกระเป๋า ผลิตจากแหอวนที่ถูกทิ้งในทะเล 100% ถูกขึ้นรูปจากพลาสติกรีไซเคิลด้วยเทคนิคขั้นสูง โดยแหล่งที่มาของแหอวนเหล่านี้คือ การรวบรวมจากชาวประมงท้องถิ่น ซึ่งเป็นขยะจำนวนมาก เพราะชาวประมงมักเปลี่ยนแหใหม่ทุก 2-3 เดือน การนำแหอวนเหล่านี้กลับมาใช้ใหม่จึงเป็นการสร้างประโยชน์อย่างมหาศาลและลดปริมาณขยะใต้ทะเล
แฟชั่นอาจเป็นแค่จุดเล็กๆ แต่แรงบันดาลใจจริงๆ มาจากคนรอบตัว อย่างพี่สาวของเพชรเอง คุณจิตริณี แก้วจินดา (ทับทิม) เป็นผู้ร่วมก่อตั้งและ Sustainable Director ของแบรนด์ PIPATCHARA และคุณฌอห์ณ จินดาโชติ (สามี) ที่มักจะพูดเสมอว่า ควรทำอะไรที่เป็นประโยชน์ ไม่ใช่แค่เรื่องแฟชั่นเท่านั้น
สร้างประโยชน์ เติบโตอย่างมั่นคง
“ภิพัชรา" เล่าว่า ได้คุยกับคุณฌอห์ณที่ทำงานด้านถ่ายทำวิดีโออยู่แล้ว ว่าอยากให้ลองถ่ายใต้น้ำ ให้ความรู้แก่สาธารณชนเกี่ยวกับอันตรายของแหอวนว่าส่งผลต่อสัตว์ทะเลยังไงบ้าง และแสดงให้เห็นว่าแหอวนเหล่านี้สามารถนำมาสร้างประโยชน์ต่อได้ (ลิงค์วิดีโอ)
"แรงบันดาลใจจริงๆ คือ เราอยากสร้างประโยชน์ ไม่มากก็น้อย โปรเจกต์นี้เราวางแผนมาเกือบ 2 ปี หลายคนอาจรู้สึกว่ามันเป็นโปรเจกต์ใหญ่ แต่เราไม่ได้ตั้งเป้าให้มันต้องใหญ่ เรามองว่ามันคือจุดเริ่มต้น และเป็นอีกก้าวหนึ่งที่เราสามารถต่อยอดได้ ทีละขั้น ทีละสเต็ป เพื่อให้มันเติบโตไปอย่างมั่นคง”
กำลังใจจากภาครัฐ
งานเปิดตัวคอลเลกชั่น AQUA-R-US เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ยังได้รับเกียรติจาก ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เข้าร่วมงาน พร้อมแสดงความเห็นว่า คอลเลกชันนี้เป็นตัวอย่างของการเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส ด้วยการมีส่วนร่วมของชุมชนและภาคเอกชน เป็นการสร้างรายได้ ลดขยะทะเล และปกป้องทะเลไทยอย่างยั่งยืน
INFINITUDE รวม “ความรับผิดชอบ” ในดีไซน์
ในคอลเลกชั่น AQUA-R-US ถูกดีไซน์ภายธีม INFINITUDE REDEFINITION ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก “หมากเก็บ” ซึ่งสื่อถึงความยืดหยุ่น การเชื่อมโยง และความร่วมมือ
โทนสีของคอลเลกชั่นย่อยนี้ ได้แก่ เขียว น้ำตาล เทา และแดงหม่น อิงจากสีของอวนทะเลจริง พร้อมเนื้อสัมผัสเบาและนุ่มสบายกว่าคอลเลกชันก่อนๆ สะท้อนความเรียบง่ายจากธรรมชาติ สร้างสไตล์ที่โดดเด่น และกลมกลืนกับทุกลุค
วัสดุประกอบด้วยผ้ายืดคุณภาพสูง และพลาสติกรีไซเคิลที่ถูกขึ้นรูปเป็นกระเป๋าและเครื่องประดับด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง
INFINITUDE ไม่ใช่เพียงแฟชั่น แต่คือแนวคิดที่รวม “ความรับผิดชอบ” เข้าไว้ในดีไซน์ — สมดุลระหว่างความงาม ความสวมใส่สบาย และความยั่งยืน
เสื้อผ้าผู้ชายครั้งแรก ความเท่าเทียมในแฟชั่น
อีกหนึ่งความน่าสนใจคือ คอลเลกชั่นนี้เป็นครั้งแรกที่ PIPATCHARA ได้เปิดตัวเสื้อผ้าสำหรับผู้ชายอย่างจริงจัง เพื่อลบภาพจำว่าแฟชั่นต้องจำกัดอยู่แค่เพศใดเพศหนึ่ง
โดย “ภิพัชรา” ย้ำว่า เป็นครั้งแรกที่เราออกแบบสำหรับผู้ชายอย่างจริงจัง เพราะที่ผ่านมาเราทำของผู้หญิงเป็นหลัก แต่เราก็อยากให้ทุกคนรู้สึกว่า แฟชั่นไม่จำเป็นต้องจำกัดเพศ ใครรู้สึก comfortable กับมัน ก็สามารถใส่ได้เลย
จากเวทีไทยสู่เวทีโลก
ความสำเร็จของแบรนด์ไม่ได้หยุดแค่ในประเทศ ปัจจุบัน PIPATCHARA เริ่มเป็นที่รู้จักในระดับสากล ศิลปินและคนดังระดับโลกหลายคนเริ่มสวมใส่แบรนด์นี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของแบรนด์ไทยที่แสดงศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ในเวทีโลก
“รู้สึกภูมิใจมาก เพราะสิ่งนี้ไม่ใช่แค่ผลงานของเพชรคนเดียว แต่มันคือความร่วมมือของทั้งทีม และมันสะท้อนว่า ถ้าเราร่วมมือกัน เราสามารถสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้จริงๆ” ภิพัชรา กล่าว
'PIPATCHARA AQUA-R-US' จึงไม่ใช่แค่แฟชั่น แต่คือเครื่องพิสูจน์ว่า แฟชั่นสามารถเป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อสิ่งแวดล้อม เป็นบทสนทนาใหม่ระหว่างผู้คนกับทะเล และเป็นการประกาศจุดยืนของแบรนด์ไทยที่มุ่งมั่นทำให้โลกนี้ดีขึ้น — ทีละเส้นด้าย ทีละก้าว อย่างมีความหมาย







