3 ก.ค. วันปลอดถุงพลาสติก คนใช้ถุง 1 ล้านใบต่อนาที แต่ย่อยสลายนาน 10–1,000 ปี

วันปลอดถุงพลาสติกสากล (3 กรกฎาคม) จัดขึ้นทั่วโลกเพื่อรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว ประเทศไทยลดการใช้ถุงพลาสติกปี 2020–2022 ได้ 43% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า เป้าหมายปี 2023–2027 ลดขยะถุงพลาสติกฝังกลบให้เป็นศูนย์ ปรับแนวทางให้สอดคล้องกับโมเดลเศรษฐกิจ BCG เพื่อความยั่งยืน
KEY
POINTS
- วันปลอดถุงพลาสติกสากล (3 กรกฎาคม) จัดขึ้นทั่วโลกเพื่อรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว
- ประมาณ 10% ของถุงพลาสติกจบลงในมหาสมุทร
- ปี 2020–2022 ประเทศไทยลดการใช้ถุงพลาสติกได้ 148,699 ตัน (ลดลง 43% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า)
- เป้าหมายของแผนระยะที่ 2 (ปี 2023–2027) ลดขยะถุงพลาสติกฝังกลบให้เป็นศูนย์ โดยปรับแนวทางให้สอดคล้องกับโมเดลเศรษฐกิจ BCG เพื่อความยั่งยืน
วันที่ 3 กรกฎาคม ของทุกปีเป็น “วันปลอดถุงพลาสติกสากล” (International Plastic Bag Free Day) เพื่อรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว และผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสู่ทางเลือกที่ยั่งยืน โดยปีนี้แนวคิดหลักคือ “ยุติมลพิษพลาสติก” (Ending Plastic Pollution) ทั้งนี้ วันปลอดถุงพลาสติกสากลริเริ่มโดยองค์กร Bag Free World ตั้งแต่ปี 2008 โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความตระหนักถึงผลกระทบของถุงพลาสติกต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งในด้านการปนเปื้อนในมหาสมุทร การทำลายระบบนิเวศ และการสะสมของไมโครพลาสติกในห่วงโซ่อาหาร
สถิติขยะถุงพลาสติกที่น่าตกใจ
มีการใช้ถุงพลาสติกทั่วโลกระหว่าง 500,000 ล้านถึง 1 ล้านล้านใบต่อปี หรือใช้ถุงพลาสติกมากกว่า 1 ล้านใบต่อนาที แต่ระยะเวลาใช้งานเฉลี่ยต่อถุงพลาสติกหนึ่งใบเพียง 15 นาที เท่ากับว่าคนใช้ถุงพลาสติกเพื่อประโยชน์ชั่วคราว แต่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมหาศาล ขณะที่ระยะเวลาการย่อยสลายถุงพลาสติกคือ 10 ถึง 1,000 ปี
ทั้งนี้ อัตราการรีไซเคิลถุงพลาสติกมีน้อยกว่า 1 ใน 7 ใบ และประมาณ 10% ของถุงพลาสติก ลงไปสู่ทะเล ทำให้มีสัตว์ทะเลเสียชีวิตจากถุงพลาสติกมากกว่า 100,000 ตัวต่อปี (ตามข้อมูลจาก Condor Ferries)
สถานการณ์ในประเทศไทย
- คนไทยใช้ ถุงพลาสติกประมาณ 45,000 ล้านใบต่อปี หรือราว 80 ล้านใบต่อวัน
- เฉลี่ยแล้วคนไทยใช้ถุงพลาสติกถึง 3,000 ใบต่อคนต่อปี ซึ่งสร้างขยะพลาสติกประมาณ 518,000 ตันต่อปี
- ประเทศไทยสร้างขยะพลาสติกปีละ 2.88 – 3.03 ล้านตัน ในช่วงปี 2565–2567 โดยรีไซเคิลได้เพียง 19‑25% เท่านั้น
- ขยะพลาสติกเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 12% ต่อปี และครึ่งหนึ่งของขยะถุงพลาสติกมาจากตลาดสดและร้านค้าปลีกรวมกัน
จัดการไทยเดินหน้าลดขยะพลาสติก
ประเทศไทยเดินหน้าจริงจังในการลดขยะพลาสติก สู่เป้าหมายการจัดการอย่างยั่งยืน โดยในช่วงปี 2563–2565 ประเทศไทยได้ดำเนินการตามแผนจัดการขยะพลาสติกระยะที่ 1 อย่างต่อเนื่อง โดยสามารถลดการใช้ถุงพลาสติกทั่วประเทศได้มากกว่า 148,699 ตัน ภายในเวลาเพียง 3 ปี ซึ่งคิดเป็น ลดลงถึง 43% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า
ขณะนี้ รัฐบาลกำหนดแผนแม่บทการจัดการขยะพลาสติก (พ.ศ. 2561–2573) เพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมที่ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ การยกเลิกการใช้พลาสติกเป้าหมาย และการนำพลาสติกกลับมาใช้ซ้ำให้ได้ 100% ภายในปี 2570 ผ่านการสนับสนุนวัสดุทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ในช่วงที่ผ่านมา กรมควบคุมมลพิษ ร่วมกับกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวผ่านกิจกรรมรณรงค์และโครงการความร่วมมือกับภาคเอกชน ส่งผลให้สามารถลดการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วและภาชนะโฟมในพื้นที่ตลาดสด ห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศได้กว่า 3,414 ล้านใบ หรือคิดเป็นน้ำหนักประมาณ 9,824 ตัน
Everyday Say No To Plastic Bags
หนึ่งในความเคลื่อนไหวที่สำคัญของประเทศไทยคือ โครงการ “Everyday Say No To Plastic Bags” ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 จนถึงสิ้นปี 2565 โดยความร่วมมือจากร้านค้าและผู้บริโภคทั่วประเทศ ทำให้สามารถลดการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วแบบใช้ครั้งเดียวได้ถึง 14,349.6 ล้านใบ หรือประมาณ 81,531 ตัน โดยมีประชาชนสนับสนุนแนวทางนี้มากกว่า 90%
โมเดลเศรษฐกิจ BCG
สำหรับแผนการในระยะต่อไป (พ.ศ. 2566–2570) ประเทศไทยยังคงเดินหน้าสู่การจัดการขยะพลาสติกอย่างยั่งยืน ได้แก่
- ลดขยะถุงพลาสติกที่เข้าสู่ระบบฝังกลบให้เป็นศูนย์
- รีไซเคิลถุงพลาสติกให้ได้ 100%
- ลดขยะพลาสติกที่อาจหลุดรอดลงทะเลให้ได้ 50%
โดยจะเน้นการพัฒนาเชิงระบบมากขึ้น เช่น การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ การคัดเลือกบรรจุภัณฑ์ที่เอื้อต่อการรีไซเคิล และการนำทรัพยากรจากของเสียกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งในรูปแบบของวัสดุรีไซเคิลและพลังงาน ซึ่งแนวทางนี้สอดคล้องกับโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) ที่เน้นการพัฒนาอย่างสมดุลและยั่งยืน
แม้ประเทศไทยจะมีความพยายามในการลดการใช้ถุงพลาสติก แต่ยังคงเผชิญกับความท้าทายด้านการจัดการขยะ โดยเฉพาะในพื้นที่ชุมชนและชายฝั่งทะเล
อ้างอิง : Decomposition Time, Plastic Oceans, BCG







