‘ออสเตรเลีย’ แจกส่วนลด 30% ซื้อ ‘แบตเตอรี่’ ใช้ในบ้าน สำรองไฟ ‘โซลาร์เซลล์’

“ออสเตรเลีย” แจกส่วนลด 30% ซื้อ “แบตเตอรี่” ใช้ในบ้านสำหรับสำรองไฟจาก ”โซลาร์เซลล์” ช่วยลดค่าไฟฟ้าหลายพันดอลลาร์
KEY
POINTS
- “ออสเตรเลีย” เปิดตัวโครงการแบตเตอรี่สำรองไฟสำหรับบ้านราคาถูก (Cheaper Home Batteries Program) ในงบประมาณมูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์
- ครัวเรือนในออสเตรเลียติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์บนหลังคาไปแล้วกว่า 4 ล้านระบบทั่วประเทศ แต่มีครัวเรือนเพียง 2.5% เท่านั้นที่มีระบบกักเก็บพลังงาน เนื่องจากต้นทุนเบื้องต้นที่สูง
- มีการประเมินเบื้องต้นว่า โครงการนี้จะช่วยลดค่าไฟฟ้าได้ถึง 2,300 ดอลลาร์ต่อปีสำหรับครอบครัวทั่วไป
“ออสเตรเลีย” เปิดตัวโครงการแบตเตอรี่สำรองไฟสำหรับบ้านราคาถูก (Cheaper Home Batteries Program) ในงบประมาณมูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์ เพื่อส่งเสริมให้ครัวเรือนซื้อแบตเตอรี่สำหรับกักเก็บพลังงานนหมุนเวียนส่วนเกินและควบคุมราคาพลังงานในตลาดพลังงานที่ขึ้นชื่อว่ามีความผันผวนมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ออสเตรเลียเป็นผู้นำระดับโลกด้านพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา โดยติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์บนหลังคาไปแล้วกว่า 4 ล้านระบบทั่วประเทศ แต่มีครัวเรือนเพียง 2.5% เท่านั้นที่มีระบบกักเก็บพลังงาน เนื่องจากต้นทุนเบื้องต้นที่สูง ปัจจุบันมีแบตเตอรี่สำหรับใช้ในบ้านให้เลือกประมาณ 80 แบบในออสเตรเลีย ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 4,000 ดอลลาร์สำหรับแบตเตอรี่ขนาดเล็ก 5 กิโลวัตต์ชั่วโมง ส่วนบ้านทั่วไปในออสเตรเลีย แบตเตอรี่มีราคาอยู่ระหว่าง 10,000-13,000 ดอลลาร์
ภายใต้โครงการนี้ ครัวเรือนและธุรกิจอาจมีสิทธิ์ได้รับส่วนลดประมาณ 30% สำหรับค่าใช้จ่ายในการติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดเล็กที่เชื่อมต่อกับแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาใหม่หรือที่มีอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับขนาดของแบตเตอรี่ที่ติดตั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าผู้คนสามารถเลือกแบตเตอรี่ราคาไม่แพงที่เหมาะกับความต้องการของตนได้
หน่วยงานกำกับดูแลพลังงานสะอาด (CER) กำลังดำเนินการโครงการดังกล่าวต่อเนื่องโครงการพลังงานหมุนเวียนขนาดเล็ก (SRES) ที่มอบส่วนลดพลังงานแสงอาทิตย์อย่างปลอดภัยและประสบความสำเร็จมาตั้งแต่ปี 2011 โดยขณะนี้กำลังดำเนินการร่วมกับหน่วยงานด้านความปลอดภัยทางไฟฟ้าและการค้าของรัฐ ร่วมกับเขตพื้นที่ เพื่อให้แน่ใจว่ามีการซื้อและติดตั้งแบตเตอรี่อย่างปลอดภัย
มีการประเมินเบื้องต้นว่า โครงการนี้จะช่วยลดค่าไฟฟ้าได้ถึง 2,300 ดอลลาร์ต่อปีสำหรับครอบครัวทั่วไป เมื่อเทียบกับ 1,500 ดอลลาร์หากใช้ระบบโซลาร์เพียงอย่างเดียว ขณะที่ข้อมูลจากกลุ่มสนับสนุนการใช้ไฟฟ้า Rewiring Australia กล่าวว่าการเพิ่มแบตเตอรี่ให้กับบ้านทั่วไปจะช่วยให้ประหยัดเงินได้ประมาณ 1,000 ดอลลาร์ต่อปีเมื่อใช้ร่วมกับแผงโซลาร์บนหลังคาและเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมด
“ต้นทุนเบื้องต้นของแบตเตอรี่เป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับผู้คน แต่จากการวิจัยของเราเอง เราทราบดีว่าผู้คนมีความต้องการติดตั้งแบตเตอรี่สูง นโยบายนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการช่วยให้ผู้คนเข้าถึงเทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายนี้ได้” ดร.ซอล กริฟฟิธ ผู้ก่อตั้งและหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ Rewiring Australia กล่าว
การเข้าถึงแบตเตอรี่ขนาดเล็กได้มากขึ้นจะช่วยให้ครัวเรือนใช้พลังงานแสงอาทิตย์ราคาถูกและสะอาดได้อย่างเต็มที่โดยจัดเก็บไว้ใช้เมื่อจำเป็นที่สุด อีกทั้งยังลดการใช้ไฟฟ้าในระบบไฟฟ้าในช่วงที่มีความต้องการสูงสุด ซึ่งหมายความว่าระบบไฟฟ้าจะเสถียรยิ่งขึ้น
ฟรานซิส วิเออร์บูม ซีอีโอของ Rewiring Australia กล่าวว่า “หากบ้านในออสเตรเลียเพียง 2 ใน 10 หลังติดตั้งแบตเตอรี่ ผลผลิตไฟฟ้าที่ลดลงตามความต้องการโดยรวมอาจสูงกว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศถึง 3 เท่า หรือเกือบสองเท่าของโครงการ Snowy Hydro 2.0”
“นี่เป็นก้าวสำคัญในการช่วยให้ชาวออสเตรเลียทุกคนใช้ประโยชน์จากพลังงานที่ผลิตได้ด้วยตัวเอง โดยสามารถจัดเก็บพลังงานเหล่านี้ไว้ได้เอง ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยเหลือผู้ที่มีบ้านที่ใช้ไฟฟ้าทั้งหมดเท่านั้น แต่ยังช่วยระบบไฟฟ้าโดยรวมอีกด้วย” วิเออร์บูมกล่าว
การวิเคราะห์ของ Climate Council แสดงให้เห็นว่านโยบายนี้ ช่วยให้ครัวเรือนและธุรกิจมีแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นได้ถึง 2 ล้านก้อนภายในปี 2030 หากเป็นไปตามตัวเลขนี้ จะทำให้ชาวออสเตรเลียประหยัดค่าไฟฟ้าได้มากกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี
เมื่อราคาลดลง เวลาที่แบตเตอรี่จะคืนทุนได้เองจากการประหยัดค่าไฟก็ลดลงเช่นกัน แม้ว่าระยะเวลาคืนทุนจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่ในปี 2024 ระยะเวลาคืนทุนโดยเฉลี่ยของแบตเตอรี่สำหรับใช้ในบ้านในออสเตรเลียอยู่ที่ประมาณ 8.3 ปี ซึ่งลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับ 10 ปีในปี 2022 และ 19 ปีในปี 2016
นอกจากนี้ ยังช่วยแก้ปัญหาราคาพลังงานเปลี่ยนแปลงย่างรุนแรง จนทำให้ตลาดไฟฟ้าของออสเตรเลียเป็นหนึ่งในตลาดที่มีความผันผวนมากที่สุด โดยอัตราค่าไฟฟ้าขายส่งมักจะลดลงต่ำกว่าศูนย์ เมื่อการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ถึงจุดสูงสุดในช่วงเที่ยงวัน ก่อนที่จะเพิ่มขึ้นสูงสุดหลังพระอาทิตย์ตก
“การใช้แบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้นในประเทศ จะช่วยให้ตลาดพลังงานที่ผันผวนมากขึ้นของออสเตรเลียราบรื่นขึ้น และช่วยให้บูรณาการพลังงานหมุนเวียนได้มากขึ้น แต่การติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดเล็กคงตามการติดตั้งโซลาร์บนหลังคาไม่ทัน เนื่องจากต้องแบกรับต้นทุนล่วงหน้าที่สูงอย่างไม่ลดละและขาดการสนับสนุนนโยบาย” ลีโอนาร์ด ควอง หัวหน้าฝ่ายวิจัยออสเตรเลียของ BloombergNEF
ควองกล่าวว่า แรงจูงใจเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะช่วยให้ยอดขายพุ่งสูงขึ้นในระยะใกล้ เนื่องจากลูกค้าต้องการใช้ประโยชน์ให้เต็มที่ก่อนที่แรงจูงใจจะหมดลง นั่นจะเป็นข่าวดีสำหรับผู้ผลิตแบตเตอรี่ เช่น Tesla Inc. ที่จะมียอดขายเพิ่มมากขึ้น โดยออสเตรเลียเป็นประเทศแรกและประเทศเดียวที่ยอดขายแบตเตอรี่ในครัวเรือน Powerwall สูงกว่าของ Tesla
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นผลดีต่อครัวเรือน อาจทำให้ผู้ค้าปลีกไฟฟ้าหลายรายจำเป็นต้องเสนอไฟฟ้าฟรีให้กับลูกค้าในช่วงเที่ยงวัน หรืออาจจ่ายเงินให้ลูกค้าใช้ไฟฟ้าก็ได้
อนิตา สแตดเลอร์ หัวหน้าฝ่ายการลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียนของบริษัทที่ปรึกษา ERM Energetics กล่าวว่า แม้ว่าแรงจูงใจดังกล่าวจะช่วยให้ครัวเรือนมีแบตเตอรี่มากขึ้น แต่ก็ไม่ช่วยเพิ่มความสามารถในการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานจำนวนมาก ซึ่งพยายามจัดการความเสี่ยงในการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานหมุนเวียน เช่น ออสเตรเลียยังคงใช้โรงไฟฟ้าถ่านหินผลิตไฟฟ้าเป็นส่วนใหญ่ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลน
ทั้งนี้ รัฐบาลได้กำหนดเป้าหมายอันทะเยอทะยาน โดยหวังว่าจะผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเป็น 82% ภายในปี 2030 ซึ่งเพิ่มสูงจากปี 2024 ประมาณ 40%