บุรีรัมย์ก้าวไกล! Young ผการันดูล เพิ่มรายได้ 63% ลดคาร์บอน 76%

บุรีรัมย์ก้าวไกล! Young ผการันดูล เพิ่มรายได้ 63% ลดคาร์บอน 76%

“ผ้าไหมและงานจักสาน” เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดบุรีรัมย์ แสดงถึงวัฒนธรรมและภูมิปัญญาของท้องถิ่น

KEY

POINTS

  • โครงการสานศิลป์ ถิ่นภูมิปัญญา บุรีรัมย์ มีกลุ่มนักศึกษามรภ.บุรีรัมย์ ริเริ่ม โดยใช้โมเดล PKRDS และ BMC ร่วมกับการอบรมบัญชีครัวเรือน
  • สามารถช่วยเพิ่มรายได้ผู้ผลิต 63% สร้างงานกว่า 3,000 ราย เป็นการสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ และเกิดการเชื่อมโยงชุมชนท่องเที่ยว
  • มุมมองของคนส่วนใหญ่มักคิดว่า งานคราฟ หัถตกรรมของไทยไม่ทันสมัย ไม่น่าสนใจ ดังนั้น ควรส่งเสริมงานศิลปหัตถกรรมท้องถิ่นให้มากขึ้น ใช้การเล่าเรื่องให้เกิดประโยชน์ และสร้างเครือข่าย

ผ้าไหมและงานจักสาน” เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดบุรีรัมย์ แสดงถึงวัฒนธรรมและภูมิปัญญาของท้องถิ่น ซึ่งผ้าไหมบุรีรัมย์มีความหลากหลายลวดลายและสีสัน ส่วนงานจักสานนั้น มีทั้งของใช้ในชีวิตประจำวันและของประดับตกแต่งที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ

โครงการสานศิลป์ ถิ่นภูมิปัญญา บุรีรัมย์” จาก ทีม Young ผการันดูล มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ หนึ่งในโครงการของนักศึกษาที่ดำเนินการมาเข้าสู่ปีที่ 5 ด้วยการสานต่อจากรุ่นพี่สู่รุ่นน้อง เพื่อร่วมกันสืบสานงานหัตถกรรมพื้นถิ่น เช่น ผ้าไหมและจักสานไม้ไผ่ ด้วยนวัตกรรมและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมสมัย มุ่งสร้างรายได้และระบบเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน

5 ตัวแทนจากทีม Young ผการันดูล มรภ.บุรีรัมย์ ประกอบด้วย กัญญพัชร ดีชัยรัมย์ (หัวหน้าทีม) ชั้นปีที่ 3 คณะครุศาสตร์ พิราอร เขตต์สิงห์ ชั้นปีที่ 2 คณะครุศาสตร์ สุพรรษา ชมสีสม ชั้นปีที่ 3 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ณัฐฤดี กระแชรัมย์ ชั้นปีที่ 4 คณะครุศาสตร์ และสุมินตรา โกรศี ชั้นปีที่ 4 คณะครุศาสตร์ ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ซึ่งชุมชนของจ.บุรีรัมย์ มีการทอผ้าไหมและจักสานไม้ไผ่ในหลายหมู่บ้าน แต่ใช่ว่าผลิตภัณฑ์ผ้าไหมท้องถิ่นจะบูมเท่าที่ควร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ไทยลุย! มทร.ธัญบุรี ผนึกยุโรป จัดการน้ำเสียจากโรงพยาบาล

กระแสข่าวสิ่งแวดล้อมแรงไม่หยุด ปี 2025 ครองหัวข้อสนทนาทั่วโลก

จุดริเริ่ม “สานศิลป์ ถิ่นภูมิปัญญา บุรีรัมย์”

“ชุมชนบ้านกระเจา จ.บุรีรัมย์” เป็นจุดเริ่มต้นของโครงการสานศิลป์ ถิ่นภูมิปัญญา บุรีรัมย์ ที่มีกลุ่มนักศึกษามรภ.บุรีรัมย์ ริเริ่ม โดยใช้โมเดล PKRDS และ BMC ร่วมกับการอบรมบัญชีครัวเรือน ช่วยเพิ่มรายได้ผู้ผลิต 63% สร้างงานกว่า 3,000 ราย เป็นการสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ และเกิดการเชื่อมโยงชุมชนท่องเที่ยว

สองสาวรุ่นพี่ “สุมินตรา และ.ณัฐฤดี” ช่วยกันเล่าถึงการดำเนินการในช่วงแรกๆ ว่า ชุมชนบ้านกระเจา จ.บุรีรัมย์ เป็นชุมชนที่การทอผ้าไหมอยู่แล้ว และถือเป็นอาชีพ รายได้หลักของชาวบ้าน โดยส่วนใหญ่กลุ่มทอผ้าไหมจะเป็นผู้เฒ่าผู้แก่ หรืออายุเฉลี่ยประมาณ 40 ปีขึ้นไป และมีการทำการตลาดที่เติบโตได้เองอยู่แล้ว แต่รุ่นพี่ที่ดำเนินการก่อนหน้านี้มีการนำนวัตกรรมมาออกแบบลายผ้าด้วยโปรแกรม อย่าง

ลายผ้าปูนา ปลาช่อน และเพิ่มความสวยงามมากขึ้น รวมทั้งมีการนำความเข้าใจกับชาวบ้าน ให้เขาได้เห็นลายจริง ทำให้ชาวบ้านอยากสักทอดู และเริ่มมีการทำการตลาด ขายได้เพิ่มรายได้ให้แก่ชาวบ้านมากขึ้น

“หลังจากที่ชาวบ้านทอผ้าไหมลายปูนา ปลาช่อน ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น และมีออเดอร์มากขึ้น ทางทีม Young ผการันดูล มรภ.บุรีรัมย์ จึงได้มีการขยายไปยังหมู่บ้านชุมชนข้างๆ ซึ่งมีการทอผ้าไหมเช่นเดียวกัน เพื่อเป็นการกระจายรายได้ และยกระดับหัตถกรรมท้องถิ่น ในปัจจุบันสามารถขยายไปได้ 20 หมู่บ้าน 23 อำเภอ ในจ.บุรีรัมย์ รวมถึงมีการพัฒนาจักสานไม้ไผ่ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้ได้ง่ายขึ้นในชีวิตประจำวัน เป็นรูปแบบใหม่ๆ ผสมผสานกับการท่องเที่ยวเชิงภูมิปัญญาท้องถิ่น มีการทำที่พักโฮมสเตย์ เพิ่มคุณภาพชีวิต สร้างรายได้ สร้างอาชีพให้แก่คนในชุมชนท้องถิ่น”

บุรีรัมย์ก้าวไกล! Young ผการันดูล เพิ่มรายได้ 63% ลดคาร์บอน 76%

บุรีรัมย์ก้าวไกล! Young ผการันดูล เพิ่มรายได้ 63% ลดคาร์บอน 76%

ลงพื้นที่ แลกเปลี่ยน ยกระดับงานคราฟ

ตอนลงไปแลกเปลี่ยนความรู้ นำนวัตกรรมการทอผ้าไหม และกระบวนการจักสานไม้ไผ่ทำงานร่วมกับชาวบ้าน พร้อมทั้งมีการทำการตลาดรูปแบบใหม่ ทำให้ลูกค้าเข้าใจมากขึ้น ว่าทำไม ผ้าไหม หรือหัตถกรรมจักสาน ถึงมีราคาแพง เพราะกว่าจะได้ผ้ามาแต่ละผืน กว่าจะได้ผลิตภัณฑ์จักสานในแต่ละชิ้น เป็นงานคราฟท์ที่ทำด้วยมือ อาศัยทักษะ ความคิดสร้างสรรค์ และต้องใช้เวลา

พิราอร และสุพรรษา เล่าเสริมว่าทุกหมู่บ้านในจ.บุรีรัมย์ จะมีการปลูกหม่อน เลี้ยงไหม การลงพื้นที่เข้าไปทำงานร่วมกับชาวบ้าน นอกจากเป็นการเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่น และคุณภาพชีวิตชาวบ้านแล้ว ยังมีการเชื่อมกับการทำงานกับท้องถิ่น หน่วยงานราชการ และเอกชน เพื่อมาร่วมอบรมให้ความรู้ทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ กระบวนการทอผ้าไหม กระบวนการจักสานไม้ไผ่ และช่องทางการตลาด

“เวลาคนซื้อผ้าไหม มักจะต่อราคา เพราะมองว่าผ้าไหมราคาแพง ทั้งที่จริงๆ การทอผ้าไหมใช้เวลานาน เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งเมื่อจัดทำโครงการดังกล่าวสามารถช่วยชาวบ้านทั้งด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และความยั่งยืน โดยทางด้านเศรษฐกิจสามารถเพิ่มรายได้ 63% และมีการนำเยาวชนเข้าสู่ระบบธุรกิจ ขณะที่สิ่งแวดล้อม ช่วยลดคาร์บอนได้ 76.76% ลดพลาสติก 80% และปลูกป่า 50 ไร่ ที่สำคัญ ทำให้เกิดระบบนิเวศ ทั้งการตั้งศูนย์เรียนรู้สานศิลป์ ชมรมในโรงเรียนชั้นประถม ถึงมัธยม มีแผนในอบต.-เทศบาล และมีระบบบัญชี ที่ชุมชนดูแลต่อได้เอง”

บุรีรัมย์ก้าวไกล! Young ผการันดูล เพิ่มรายได้ 63% ลดคาร์บอน 76%

ส่งต่อคนรุ่นใหม่ สานงานคราฟท์

ตอนนี้ได้มีการขยายไปสู่ตลาดนานาชาติมากขึ้น เพราะในทีม มีการนำภาษาอังกฤษเข้ามาใช้ในการสื่อสารทางการตลาด เพื่อให้ชาวต่างชาติที่สนใจผ้าไหม หรือจักสานไม้ไผ่ ได้นำผลิตภัณฑ์ของชุมชน ไปใช้ หรือ ไปจัดจำหน่าย

กัญญาพัชร เล่าด้วยว่าข้อจำกัดของชุมชนที่ทำงานศิลปหัตถกรรม หรืองานคราฟนั้น คือ ระยะเวลาการผลิต ยิ่งมีออเดอร์มากขึ้นจะทำให้ผลิตไม่ทัน การสร้างเครือข่ายในการผลิตหัตถกรรมตามออเดอร์ได้ตามความต้องการของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งงานคราฟท์ในปัจจุบันได้รับความสนใจจากลูกค้าทั้งในไทยและต่างประเทศจำนวนมาก เพราะเป็นงานสร้างสรรค์ที่ทำด้วยมือ มีเอกลักษณ์เฉพาะ แต่ละชิ้นก็จะมีความสวยงามที่แตกต่างกัน

“งานคราฟท์ งานพื้นบ้าน งานศิลปหัตถกรรมในชุมชนท้องถิ่น อาจจะม่ได้รับความสนใจจากคนรุ่นใหม่ เพราะต้องยอมรับว่า ไม่มีการประชาสัมพันธ์มากพอ หรือช่องทางการจัดจำหน่าย การตลาดที่จะเข้าถึงได้ หรือหากเข้าถึง มุมมองของคนส่วนใหญ่มักจะคิดว่า ไม่ทันสมัย ไม่น่าสนใจ ดังนั้น ควรจะมีการส่งเสริมงานศิลปหัตถกรรมท้องถิ่นให้มากขึ้น ควรใช้การเล่าเรื่องให้เกิดประโยชน์ และสร้างเครือข่าย งานคราฟท์ในแต่ละท้องถิ่นมีเรื่องเล่าแตกต่างกัน อยากให้หน่วยงานไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ หรือภาคเอกชน ช่วยผลักดันผลิตภัณฑ์ฝีมือคนไทย งานคราฟท์ให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มรายได้ สร้างอาชีพให้แก่คนในชุมชน”

นอกจากนั้น ต้องมีการสนับสนุนให้เยาวชนคนรุ่นใหม่เห็นคุณค่าของงานคราฟท์พื้นบ้าน อย่าให้หายไปกับผู้สูงอายุ ถ้ากลุ่มผู้สูงอายุไม่อยู่แล้ว เยาวชนจะเป็นพลังสำคัญ และอยากให้คนรุ่นใหม่เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาต่อยอดด้วยการนำนวัตกรรมใหม่ๆ ผสมผสานกับภูมิปัญญา เพื่อสานต่อศิลปหัตถกรรมของไทยให้ยั่งยืนคงอยู่ต่อไป

ทั้งนี้ โครงการ “สานศิลป์ ถิ่นภูมิปัญญา บุรีรัมย์" จาก ทีม Young ผการันดูล มรภ.บุรีรัมย์ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2  ในการแข่งขัน Rakkaew – Enactus Thailand National Exposition จัดขึ้นทุกปี โดย มูลนิธิรากแก้ว ร่วมกับ Enactus ประเทศไทย และผู้สนับสนุนโครงการจากภาคเอกชน และองค์กรไม่แสวงหากำไร ถือเป็นเวทีสำคัญในการขับเคลื่อนพลังของเยาวชนรุ่นใหม่ทั่วประเทศ

ซึ่ง โครงการ “สานศิลป์ ถิ่นภูมิปัญญา บุรีรัมย์" เป็นโครงการที่ปลุกพลังภูมิปัญญาท้องถิ่นให้มีชีวิตใหม่ โดยเชื่อมโยงงานผ้าไหมและจักสานไม้ไผ่กับนวัตกรรม สร้างผลิตภัณฑ์ร่วมสมัย ขยายช่องทางการตลาด และส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในชุมชน

บุรีรัมย์ก้าวไกล! Young ผการันดูล เพิ่มรายได้ 63% ลดคาร์บอน 76%

บุรีรัมย์ก้าวไกล! Young ผการันดูล เพิ่มรายได้ 63% ลดคาร์บอน 76%

บุรีรัมย์ก้าวไกล! Young ผการันดูล เพิ่มรายได้ 63% ลดคาร์บอน 76%

บุรีรัมย์ก้าวไกล! Young ผการันดูล เพิ่มรายได้ 63% ลดคาร์บอน 76%

บุรีรัมย์ก้าวไกล! Young ผการันดูล เพิ่มรายได้ 63% ลดคาร์บอน 76%

บุรีรัมย์ก้าวไกล! Young ผการันดูล เพิ่มรายได้ 63% ลดคาร์บอน 76%

บุรีรัมย์ก้าวไกล! Young ผการันดูล เพิ่มรายได้ 63% ลดคาร์บอน 76%