สถานการณ์พลาสติกกระทบโลก ย้อนกลับสู่มนุษย์

สถานการณ์พลาสติกกระทบโลก ย้อนกลับสู่มนุษย์

การใช้พลาสติกเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ในการเลือกใช้ประโยชน์เพื่อความสะดวกของมนุษย์ แต่ในขณะเดียวกันกลับเป็นการสร้างปัญหาที่จะส่งผลกระทบย้อนกลับสู่มนุษย์ได้อีกครั้ง

โดยปัญหาขยะพลาสติกสะสมในระบบนิเวศทั้งทางบกและทางทะเล ที่เกิดจากการจัดการที่ไม่เหมาะสมอาจนำสู่หายนะได้ หากไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงการสร้างระบบการจัดการพลาสติกอย่างครอบคลุมและยั่งยืนนับตั้งแต่วันนี้ เพื่อสร้างอนาคตสิ่งแวดล้อมที่ดี 

พลาสติกชิ้นใหญ่ที่มนุษย์มองว่าเป็นประโยชน์ในการใช้งาน หลังจากนั้นกลายเป็นขยะ และอยู่ในแหล่งน้ำใช้เวลาย่อยสลายนานเป็นขนาดเล็กอย่าง "ไมโครพลาสติก" นับเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ร้ายแรงถึงขั้นแทรกซึมมาสู่ห่วงโซ่อาหาร กระทบทั้งสัตว์น้ำและมนุษย์

จากข้อมูลตรวจพบปลาทูไทย จากอ่าวไทย 1 ตัว อาจมีไมโครพลาสติกมากกว่า 200 ชิ้น เมื่อมนุษย์เกิดการบริโภค ไมโครพลาสติกที่เกิดจากการใช้พลาสติกของมนุษย์กลับมาสู่ร่างกาย หากได้มีการตรวจเลือดหรือเนื้อเยื่ออาจจะพบว่ามีไมโครพลาสติกอยู่ในกระแสเลือดและในเนื้อเยื่อด้วยเช่นกัน 

 

สถานการณ์พลาสติกกระทบโลก ย้อนกลับสู่มนุษย์

 

ภัยเงียบที่อันตรายหากมนุษย์ไม่ตระหนักถึงผลกระทบเชิงลึกของพลาสติก การผลิตและการใช้งานพลาสติกที่สะสม ความมหาศาลของขยะพลาสติกที่มนุษย์สร้าง หากนำมาคลุมโลกจะได้มากถึง 25 รอบเลยทีเดียว และได้มีการคาดการณ์ว่าในปี 2050 หรืออีก 25 ปี ขยะพลาสติกจะมากกว่าสัตว์น้ำในทะเล 

การติดอันดับ TOP 10 ของโลก สำหรับประเทศไทยในการทิ้งขยะลงทะเล ภาพลักษณ์ที่เกิดความเสียหายไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ โดยสะท้อนถึงปัญหากลไกด้านการจัดการขยะพลาสติก ตัวเลขที่มีจำนวนสูงยิ่งเป็นสิ่งที่ชี้วัดถึงความล้มเหลวในด้านโครงสร้างพื้นฐานการจัดการขยะ

ข้อมูลจำนวนขยะในไทยประมาน 27-28 ล้านตันต่อปี พบว่า 12% ของขยะในไทย หรือ 2.3 ล้านตัน เป็นขยะพลาสติก ซึ่งสามารถนำมารีไซเคิลได้ไม่ถึง 25% ในขณะที่ประเทศพัฒนาแล้ว เช่น เยอรมัน ญี่ปุ่น สามารถนำขยะพลาสติกกลับมารีไซเคิลได้ถึง 60-70% จึงเป็นสิ่งที่ทำให้ไทยต้องหันกลับมาตระหนักถึงเรื่องระบบการจัดการขยะและขยะพลาสติกที่มีประสิทธิภาพ 

 

สถานการณ์พลาสติกกระทบโลก ย้อนกลับสู่มนุษย์

 

จุดเริ่มต้นในการลดการใช้โดยเฉพาะพลาสติกครั้งเดียวทิ้ง (Single -Use Plastic)  คัดแยกขยะในแต่ละบ้านและท้องถิ่น หน่วยงานที่ดูแลต้องมีการจัดการที่ถูกต้อง ที่รองรับขยะอย่างครอบคลุมและทั่วถึง โดยปัจจุบันองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ อปท. ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 7,000 แห่ง แต่มีระบบจัดการขยะ 2,000 กว่าแห่ง และในจำนวนนี้มีการจัดการขยะที่ถูกต้องเพียง 18% เท่านั้น

ทั้งนี้ คนไทยต้องเกิดความรู้ ความเข้าใจในเรื่องปัญหาและการจัดการขยะพลาสติกด้วยเช่นกัน โดยพลาสติกชีวภาพเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถนำมาใช้สำหรับเก็บเศษอาหารและนำไปฝังกลบได้ หรือการนำมาใช้เป็นถุงเพาะกล้า ในขณะเดียวกันผู้ผลิตได้มีการผลิตพลาสติกหลายประเภท โดยพลาสติกที่ใช้งานในปัจจุบัน มีหลายประเภทที่ทำให้การรีไซเคิลยาก ทั้งสี หรือการเติมสารเคมีที่มีผลกระทบให้เกิดการย่อยเป็นไมโครพลาสติกที่ไวมากขึ้นแต่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมากมาย

เมื่อปฏิเสธการใช้พลาสติกไม่ได้ แต่เราสามารถเลือกใช้พลาสติกอย่างฉลาดได้ ด้วยการนำกลับมาใช้ซ้ำหรือรีไซเคิลตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ลดพลาสติกที่จะเกิดเป็นขยะและนำพลาสติกกลับมาใช้ซ้ำ หรือนำไปรีไซเคิล ซึ่งเป็นทางออกเพื่อลดการใช้ทรัพยากรขยะพลาสติก แม้ถุงผ้าจะเป็นการลดพลาสติกในอีกทางหนึ่ง แต่กระบวนการในการผลิตนั้นใช้ทรัพยากรค่อนข้างเยอะ

โดยถุงผ้า 1 ใบ ควรใช้ไม่น้อยกว่า 4,000 ครั้ง เพื่อให้การเลือกใช้ถุงผ้าเป็นการช่วยโลก หรือพฤติกรรมการรักษ์โลกไม่ใช่การลดพลาสติกเพียงเปลือกนอก แต่ต้องปรับพฤติกรรมให้เป็นนิสัย ใช้ถุงผ้าใบเดิมซ้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด การเปลี่ยนเพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม สามารถเริ่มได้ง่าย ๆ จากตัวเอง และต้องร่วมแรง ร่วมใจทุกภาคส่วน

 

สถานการณ์พลาสติกกระทบโลก ย้อนกลับสู่มนุษย์

 

ปัญหาขยะพลาสติกเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำครั้งแล้ว ครั้งเล่า และยังคงอยู่กับมนุษย์ หากไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง พลาสติกจะกลับมาทำร้ายมนุษย์เอง ที่ควรตระหนักคือ ไมโครพลาสติกแทรกซึมได้ในเนื้อเยื่อมนุษย์ ในกระแสโลหิต และประเทศไทยต้องมีการจัดการปัญหาอย่างยั่งยืน ต้องอาศัยแนวทางที่ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่การผลิตและการบริโภค

ประเทศไทยมี Road Map และแผนปฏิบัติการจัดการขยะพลาสติกมาสองระยะแล้ว แต่เมื่อไม่มีกฎหมายทำให้ไม่สามารถดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายได้ จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ไม่เกิดการกระตุ้น การตระหนักรู้ และการเปลี่ยนแปลงในเรื่องการใช้พลาสติก จึงเป็นความหวังในอนาคตที่จะเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของประเทศที่เกิดการทำงานอย่างเป็นระบบ และเป็นการเตรียมพร้อมในการรองรับอนุสัญญาพลาสติกโลก (Global Plastic Treaty ) ซึ่งจะมีสภาพบังคับใช้ในต้นปี 2569