รายชื่อประเทศยั่งยืน SDG Index 2025 ฟินแลนด์อันดับ 1 แต่ภาพรวมโลก 'ล้มเหลว'

รายชื่อประเทศยั่งยืน SDG Index 2025 ฟินแลนด์อันดับ 1 แต่ภาพรวมโลก 'ล้มเหลว'

รายงานการพัฒนาที่ยั่งยืนปี 2025 มีการประเมินความก้าวหน้าทั้ง 193 ประเทศสมาชิก UN แต่จัดอันดับเพียง 167 ประเทศ ที่มีข้อมูลเพียงพอ ไม่มีเป้าหมาย SDG ใดที่มีแนวโน้มบรรลุได้ภายในปี 2030 โดยเฉพาะ SDG 2, 11, 14, 15, 16 ที่หลุดเป้าอย่างชัดเจน

KEY

POINTS

  • เครือข่าย SDSN เปิดตัว รายงานการพัฒนาที่ยั่งยืนปี 2025 เน้นการ ปฏิรูประบบการเงินโลก เพื่อสนับสนุนการบรรลุ SDGs ภายในปี 2030
  • มีการประเมินความก้าวหน้าทั้ง 193 ประเทศสมาชิก UN แต่จัดอันดับเพียง 167 ประเทศ ที่มีข้อมูลเพียงพอ
  • 10 ประเทศที่มีคะแนน SDG สูงสุด ได้แก่ ฟินแลนด์, สวีเดน, เดนมาร์ก, เยอรมนี และฝรั่งเศส
  • ประเทศที่มีคะแนนต่ำสุด เช่น ซูดานใต้, แอฟริกากลาง, โซมาเลีย ได้รับผลกระทบจากสงคราม ความเปราะบางทางเศรษฐกิจและการเมือง
  • ไทยอันดับ 43 ของโลก จาก 167 ประเทศ ด้วยคะแนน 75.34 และอันดับ 1 ของอาเซียนติดต่อกันตั้งแต่ปี 2022
  • ไม่มีเป้าหมาย SDG ใดที่มีแนวโน้มบรรลุได้ภายในปี 2030 โดยเฉพาะ SDG 2, 11, 14, 15, 16 ที่หลุดเป้าอย่างชัดเจน

เครือข่ายโซลูชันการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ (Sustainable Development Solutions Network : SDSN) ได้เปิดตัว "รายงานการพัฒนาที่ยั่งยืนประจำปี 2025" (Sustainable Development Report: SDR) เมื่อวานนี้ (24 มิถุนายน 2025) ซึ่งปีนี้ให้ความสำคัญกับการ ปฏิรูปโครงสร้างการเงินโลก (Global Financial Architecture – GFA) เพื่อจัดระเบียบและเพิ่มประสิทธิภาพของกระแสเงินทุนระหว่างประเทศ รองรับการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ภายในปี 2030 'กรุงเทพธุรกิจ' ได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจ ดังนี้

รายงานฉบับนี้ประเมินความก้าวหน้าใน 193 ประเทศสมาชิก UN แต่มีเพียง 167 ประเทศที่ได้รับการจัดอันดับใน SDG Index เนื่องจากมีข้อมูลครบถ้วนเพียงพอ

สำหรับปี 2025 นี้ SDG Index ใช้ตัวชี้วัดทั้งสิ้น 126 รายการ ประกอบด้วย 102 ตัวชี้วัดระดับโลก และอีก 24 ตัวชี้วัดเฉพาะสำหรับประเทศสมาชิก OECD ซึ่งมีทั้งหมด 38 ประเทศ โดยประเทศไทยเพิ่งเข้าร่วมเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการในปี 2567

นอกจากนี้ รายงานยังเปิดตัว “SDG Index ฉบับย่อ (SDGi)” ที่ใช้เพียง 17 ตัวชี้วัดหลักเพื่อวัดความก้าวหน้าในแต่ละเป้าหมาย โดยมุ่งลดอคติจากชุดข้อมูลที่ไม่ต่อเนื่องในช่วงเวลา

เพื่อให้สอดคล้องกับการทบทวนตัวชี้วัดอย่างครอบคลุมในปี 2025 รายงานได้เพิ่มตัวชี้วัดใหม่ เช่น “ความหลากหลายขั้นต่ำของอาหารในเด็กอายุ 6–23 เดือน” ภายใต้ SDG 2 (ยุติความหิวโหย) พร้อมปรับปรุงวิธีการวิเคราะห์ ซึ่งอธิบายไว้ในภาคผนวก

แม้ทุกประเทศสมาชิกจะมีโปรไฟล์ในรายงาน แต่เฉพาะประเทศที่มีข้อมูลสมบูรณ์ (ข้อมูลขาดไม่เกิน 20%) เท่านั้นจึงจะได้รับคะแนนและการจัดอันดับ เพื่อให้ผลการเปรียบเทียบมีความแม่นยำและเป็นธรรมมากที่สุด

รายชื่อประเทศยั่งยืน SDG Index 2025 ฟินแลนด์อันดับ 1 แต่ภาพรวมโลก 'ล้มเหลว'

10 ประเทศคะแนน SDG Index สูงสุด

ประเทศที่มีคะแนนการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Index) สูงสุด 10 อันดับแรก ปี 2025 คือ

  • อันดับ 1 ฟินแลนด์ – 87.02 คะแนน
  • อันดับ 2 สวีเดน – 85.74 คะแนน
  • อันดับ 3 เดนมาร์ก – 85.26 คะแนน
  • อันดับ 4 เยอรมนี – 83.67 คะแนน
  • อันดับ 5 ฝรั่งเศส – 83.14 คะแนน
  • อันดับ 6 ออสเตรีย – 83.01 คะแนน
  • อันดับ 7 นอร์เวย์ – 82.72 คะแนน
  • อันดับ 8 โครเอเชีย – 82.39 คะแนน
  • อันดับ 9 โปแลนด์ – 82.08 คะแนน
  • อันดับ 10 เช็กเกีย – 81.94 คะแนน

10 ประเทศ รั้งท้ายดัชนี

ในขณะที่ประเทศที่อยู่ลำดับท้ายของ SDG Index ปีนี้  ซึ่งล้วนได้รับผลกระทบจากสงคราม ความไม่มั่นคง และความเปราะบางทางสังคมอย่างหนัก ได้แก่

  • อันดับ 158 มาดากัสการ์ – 51.05 คะแนน
  • อันดับ 159 ไนเจอร์ – 50.33 คะแนน
  • อันดับ 160 อัฟกานิสถาน – 49.10 คะแนน
  • อันดับ 151 ซูดาน – 49.06 คะแนน
  • อันดับ 162 คองโก (สาธารณรัฐประชาธิปไตย) – 48.24 คะแนน
  • อันดับ 163 เยเมน – 47.74 คะแนน
  • อันดับ 164 โซมาเลีย – 46.08 คะแนน
  • อันดับ 165 ชาด – 46.04 คะแนน
  • อันดับ 166 สาธารณรัฐแอฟริกากลาง – 45.21 คะแนน
  • อันดับ 167 ซูดานใต้ – 41.55 คะแนน

ไทยอันดับ 43 โลก และแชมป์ที่ 1 อาเซียน

ในปี 2025 ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับที่ 43 จากทั้งหมด 167 ประเทศในดัชนีเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมีคะแนนรวมอยู่ที่ 75.34 คะแนน และมีคะแนนด้านสร้างอิมแพ็คระหว่างประเทศ (Spillover Score) ที่ 89.73 คะแนน ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของประเทศในการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้งในระดับชาติและระดับโลก

ที่สำคัญเมื่อดูในระดับภูมิภาค 'เอเชียตะวันออก และเอเชียใต้' ไทยครอง "อันดับ 1" นำจีน ซึ่งอยู่ที่อันดับ 49 คะแนนรวม 74.39 และหากเปรียบเทียบกับประเทศใน 'อาเซียน' ไทยยังคงครองอันดับ 1 เป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน (ตั้งแต่ปี 2022–2025) ตามด้วย

  • อันดับ 61 เวียดนาม – 73.35 คะแนน
  • อันดับ 69 สิงคโปร์ – 71.54 คะแนน
  • อันดับ 77 อินโดนีเซีย – 70.22 คะแนน
  • อันดับ 84 มาเลเซีย – 69.52 คะแนน
  • อันดับ 87 ฟิลิปปินส์ – 68.34 คะแนน
  • อันดับ 92 บรูไนดารุซซาลาม – 67.97 คะแนน
  • อันดับ 101 กัมพูชา – 66.38 คะแนน
  • อันดับ 116 เมียนมา – 63.56 คะแนน
  • อันดับ 121 ลาว – 62.55 คะแนน

แม้ว่าโดยรวมประเทศไทยจะมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องในหลายด้าน แต่ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่ามีเพียง 2 เป้าหมายเท่านั้นที่บรรลุผลสำเร็จหรือสามารถรักษาระดับได้ดี ได้แก่ SDG 1 ขจัดความยากจน และ SDG 4 การศึกษาที่มีคุณภาพ

รายชื่อประเทศยั่งยืน SDG Index 2025 ฟินแลนด์อันดับ 1 แต่ภาพรวมโลก 'ล้มเหลว'

SDGs ครบรอบ 10 ปี แต่โลกยังห่างเป้าหมาย

แม้ประชาคมโลกจะร่วมกันรับรองเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ตั้งแต่ปี 2015 แต่รายงาน SDG Index ปี 2025 ล่าสุดสะท้อนความเป็นจริงที่น่ากังวลว่า ไม่มีเป้าหมายใดมีแนวโน้มจะบรรลุได้ภายในปี 2030 โดยปัจจัยสำคัญที่ฉุดรั้งความก้าวหน้า ได้แก่ ความขัดแย้ง ความเปราะบางของระบบ และข้อจำกัดทางการคลังที่กระทบโดยตรงต่อประเทศในหลายภูมิภาคของโลก

โดย 5 เป้าหมายที่กำลังหลุดเป้าอย่างชัดเจนทั่วโลก ได้แก่

  • SDG 2: ยุติความหิวโหย
  • SDG 11: เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน
  • SDG 14: ทรัพยากรทางทะเล
  • SDG 15: ระบบนิเวศบนบก
  • SDG 16: สันติภาพ ยุติธรรม และสถาบันที่เข้มแข็ง

ในขณะที่ SDG 17 (ความร่วมมือเพื่อการพัฒนา) ก็มีความคืบหน้าเพียงเล็กน้อย อันเนื่องมาจากการขาดแคลนแหล่งเงินทุนสำหรับประเทศกำลังพัฒนา และช่องว่างที่ลึกขึ้นในการสนับสนุนระบบพหุภาคีขององค์การสหประชาชาติในแต่ละประเทศ

เป้าหมายย่อย ที่โดดเด่น-ถดถอย

มีเพียง 16.7% ของ 'เป้าหมายย่อย' เท่านั้นที่ยังคงอยู่ในเส้นทางที่จะบรรลุได้ โดยเป้าหมายย่อยที่มีความก้าวหน้าชัดเจนที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่

  • การเข้าถึงใช้โทรศัพท์มือถือ (ส่วนหนึ่งของ SDG 9)
  • การเข้าถึงไฟฟ้า (ส่วนหนึ่งของ SDG 7)
  • การใช้อินเทอร์เน็ต (ส่วนหนึ่งของ SDG 9)
  • อัตราการเสียชีวิตของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีลดลง (ส่วนหนึ่งของ SDG 3)
  • อัตราการเสียชีวิตของทารกแรกเกิดลดลง (ส่วนหนึ่งของ SDG 3)

ในทางกลับกัน เป้าหมายย่อยที่ส่วนใหญ่ของประเทศทั่วโลกกำลังชะงักหรือลดถอยลงได้แก่

  • อัตราภาวะโรคอ้วน (ส่วนหนึ่งของ SDG 2)
  • ดัชนีเสรีภาพสื่อ (ส่วนหนึ่งของ SDG 16)
  • ดัชนีการจัดการไนโตรเจนอย่างยั่งยืน (ส่วนหนึ่งของ SDG 2)
  • ดัชนี Red List สถานะความเสี่ยงของสัตว์ป่า (ส่วนหนึ่งของ SDG 15)
  • ดัชนีการรับรู้การทุจริต (ส่วนหนึ่งของ SDG 16)

ความร่วมมือระดับโลกและท้องถิ่นขยายตัว

ในวาระครบรอบ 10 ปีของการรับรองวาระ 2030 และ SDGs มี 190 จาก 193 ประเทศสมาชิกสหประชาชาติ จัดทำแผนปฏิบัติการระดับชาติและเข้าร่วมการทบทวนระดับชาติโดยสมัครใจ (Voluntary National Review - VNR) เพื่อรายงานความก้าวหน้าต่อประชาคมโลก โดยมีสหภาพยุโรปและรัฐปาเลสไตน์เข้าร่วมด้วย

ขณะที่ 39 ประเทศเตรียมเสนอ VNR ในปี 2025 และมีเพียง 3 ประเทศเท่านั้นที่ยังไม่เข้าร่วม ได้แก่ เฮติ เมียนมา และสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ การมีส่วนร่วมระดับท้องถิ่นยังขยายตัวต่อเนื่อง โดยมีรายงานการทบทวนระดับท้องถิ่นโดยสมัครใจ (Voluntary Local Reviews - VLR) จดทะเบียนกับ UN แล้ว 249 ฉบับ ณ มีนาคม 2025 สะท้อนบทบาทของพื้นที่ในการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ความเหลื่อมล้ำยังสูง

คะแนน SDG Index ปี 2025 มีช่วงกว้างตั้งแต่ มากกว่า 80 คะแนนในกลุ่มประเทศที่มีความก้าวหน้า ไปจนถึง ต่ำกว่า 50 คะแนนในประเทศที่มีความท้าทายรุนแรง เช่น ความขัดแย้ง ความไม่มั่นคงทางการเมือง หรือข้อจำกัดทางการคลัง

ประเทศกลุ่มนอร์ดิกในยุโรป ยังคงครองตำแหน่งผู้นำในการจัดอันดับ SDG Index โดยนอกจากฟินแลนด์จะอยู่อันดับ 1 SDG Index แล้ว ยังครองอันดับ 1 ของโลกในรายงานความสุขโลก (World Happiness Report 2025) อีกด้วย อย่างไรก็ตาม แม้ประเทศเหล่านี้จะมีคะแนนสูง แต่ยังคงเผชิญกับความท้าทายในหลายเป้าหมาย เช่น

  • SDG 2 (ยุติความหิวโหย)
  • SDG 12 (การบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน)
  • SDG 13 (การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ)
  • SDG 15 (ระบบนิเวศบนบก)

ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากรูปแบบการบริโภคที่ไม่ยั่งยืนและผลกระทบทางลบจากนโยบายระดับโลก

การประชุมระดับโลกกับความหวังใหม่

เครือข่าย SDSN เผยแพร่ SDG Index 2025 ก่อนการประชุมนานาชาติว่าด้วยการจัดหาเงินทุนเพื่อการพัฒนา ครั้งที่ 4 ซึ่งจะจัดขึ้น ณ เมืองเซบียา ประเทศสเปน ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน – 3 กรกฎาคม 2025 เพื่อหารือแนวทางการระดมเงินจากทั้งภาครัฐและเอกชนสำหรับการพัฒนาอย่างยั่งยืน

รายงานชี้ว่าเป้าหมายระดับโลก เช่น การขจัดความยากจน และการรับมือภาวะฉุกเฉินด้านสภาพภูมิอากาศ ยังมีความเป็นไปได้ หากมีการปฏิรูประบบการเงินระหว่างประเทศอย่างจริงจัง ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเงินทุนจากการออมของโลกไปสู่การลงทุนที่จำเป็นตามคำมั่นในวาระ 2030 ที่ว่า “เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”

 

 

 

 

ที่มารูปปก : Mathias Reding/Unsplash