อารยเกษตร อีกทางเลือกของความยั่งยืน | Now and Beyond

ในปี 2015 ประเทศสมาชิกขององค์การสหประชาชาติได้ร่วมกันรับรอง “เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” (Sustainability Development Goals- SDGs) จำนวน 17 เป้าหมาย
เพื่อใช้เป็นเข็มทิศในการพัฒนาสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมอย่างครอบคลุมภายในปี 2030 ตลอดระยะเวลากว่าทศวรรษที่ผ่านมา หลายประเทศรวมทั้งประเทศไทยได้พยายามขับเคลื่อน SDGs ในทุกภาคส่วน
ในช่วงเริ่มต้นของการดำเนินงาน ภาครัฐไทยได้ริเริ่มกลไกต่างๆ เพื่อผลักดัน SDGs อย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็น การจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (กพย.) การบูรณาการ SDGs ไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 17 (พ.ศ.2566-2570) และการนำ SDGs ไปใช้เป็นกรอบแนวคิดในการดำเนินโครงการของกระทรวงต่างๆ
นอกจากภาครัฐแล้ว ภาคเอกชนและภาคประชาสังคมก็ร่วมขับเคลื่อนอย่างแข็งขัน หลายบริษัทริเริ่มโครงการที่ลดผลกระทบจากกระบวนการผลิต และหันมาใช้ทรัพยากรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ต้นทาง สะท้อนให้เห็นว่า SDGs ได้จุดประกายความเปลี่ยนแปลงในหลายภาคส่วนของสังคมไทย
หากพิจารณาจากรายงาน SDG Index ปี 2024 ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับ 1 ของอาเซียน อันดับ 3 ของเอเชีย และอันดับ 45 ของโลก ถือเป็นสัญญาณที่ดีว่าประเทศไทยตื่นตัวในประเด็นนี้อย่างมาก
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความก้าวหน้าแต่การบรรลุ SDGs โดยเฉลี่ยของโลกก็ยังไม่เพียงพอ ในบริบทของประเทศไทยเอง การทำงานแบบบูรณาการ การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ และการนำนโยบายไปปฏิบัติจริงอย่างต่อเนื่อง ยังเป็นโจทย์ท้าทายที่ต้องเร่งคลี่คลาย
คำถามสำคัญในเวลานี้จึงไม่ใช่แค่ “เราจะบรรลุเป้าหมายได้หรือไม่” แต่ควรเป็น “เราจะวางแนวทางรับมือกับปัญหาสังคมทั้งในวันนี้และหลังปี 2030 อย่างไร” เพื่อให้การพัฒนาที่ยั่งยืนเกิดขึ้นได้จริง ท่ามกลางโลกที่ซับซ้อนขึ้น เราต้องเรียนรู้จากบทเรียนที่ผ่านมาและเตรียมพร้อมสำหรับบทต่อไปของการพัฒนาอย่างรอบด้าน
๐“อารยเกษตร” ทางเลือกของการพัฒนาอย่างสมดุลในยุคไม่สมดุล
ในยุคที่โลกเผชิญกับวิกฤติซ้อนวิกฤติ ทั้งปัญหาความเหลื่อมล้ำ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความไม่มั่นคงด้านอาหาร สิ่งแวดล้อม และระบบสาธารณสุข แนวทางการพัฒนาที่ยึดความสมดุลระหว่าง “คน-สังคม-สิ่งแวดล้อม” จึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นมากกว่าที่เคย ปัญหาเหล่านี้ไม่สามารถแก้ไขด้วยสูตรสำเร็จแบบใดแบบหนึ่ง หรือใช้เพียงตัวชี้วัดเดียวในการประเมินความอยู่ดีมีสุขของสังคม
การพิจารณา “ทางเลือก” หรือ Alternative Pathways อย่างรอบด้านจึงเป็นหัวใจสำคัญในการเสริม เติมและเปิดมุมมองใหม่ของการพัฒนา ที่ตอบโจทย์ของผู้คนในแต่ละบริบทอย่างยืดหยุ่น แนวทางแบบ Alternatives ช่วยให้เรามองการพัฒนาอย่างองค์รวม ตั้งคำถามกับระบบเดิม โดยไม่ผูกติดกับตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ของมนุษย์กับธรรมชาติ จิตใจ ชุมชน และวิถีชีวิตร่วมกัน
หนึ่งในแนวคิดทางเลือกที่น่าสนใจของไทยคือ “อารยเกษตร” ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาแบบองค์รวม (holistic development) ที่หลอมรวมคุณค่าทางจิตใจ ภูมิปัญญาท้องถิ่น และการเคารพธรรมชาติ เข้ากับเป้าหมายการพัฒนาในระยะยาว โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างสังคมที่สงบสุข ยั่งยืน และสอดคล้องกับแนวคิด “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” (Leave No One Behind) ซึ่งเป็นหัวใจของ SDGs
แนวคิดนี้ต่อยอดจากแนวคิด เศรษฐกิจพอเพียง สืบสานพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 และยังสามารถเชื่อมโยงกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ได้อย่างเป็นระบบ ทั้งในมิติสังคม (People), สิ่งแวดล้อม (Planet), เศรษฐกิจ (Prosperity), ความร่วมมือ (Partnerships), มิติด้านสันติภาพและสถาบัน (Peace & Well-being), มิติด้านหุ้นส่วนการพัฒนา (Partnership) ผ่านกรอบคิด 5 องค์ประกอบ ซึ่งมีแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงเป็น “กลไกจากฐานราก” และมีศักยภาพในการขับเคลื่อนเป้าหมายโลกผ่านการพัฒนาในระดับพื้นที่ไปพร้อมกัน
“อารยเกษตร” มีองค์ประกอบสำคัญ 5 ด้าน ได้แก่ อารยชน การพัฒนาคนให้มีคุณธรรมและปัญญา อารยภูมิ การสร้างสิ่งแวดล้อมและชุมชนที่เอื้อต่อคุณภาพชีวิต อารยพัฒน์ การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน อารยกิจ การรวมพลังจากทุกภาคส่วนเพื่อร่วมพัฒนา อารยสุข ความสุขที่เกิดจากความสมดุลในชีวิต ไม่ใช่เพียงความมั่งคั่งทางวัตถุ
ในโลกที่เต็มไปด้วยความผันผวน แนวทาง “อารยเกษตร” จะเป็นทางเลือกที่มีทิศทางสำคัญของการพัฒนาที่ตั้งอยู่บนฐานคุณค่าทางจิตใจ ภูมิปัญญาท้องถิ่น และการเคารพในธรรมชาติสู่สังคมที่เจริญด้วยธรรมอย่างแท้จริง
เพื่อร่วมกันตกผลึกอีกแนวทางเลือกหนึ่งของความยั่งยืน จึงขอเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมแลกเปลี่ยนแนวคิดและระดมสมอง เพื่อร่วมกันออกแบบวาระใหม่แห่งอนาคตหลังปี 2030 (Next Global Agenda) ผ่านการสำรวจแนวคิดทางเลือกเพื่อความยั่งยืน (Alternative Narratives of Sustainability) ไม่ว่าจะเป็น แนวคิดจากท้องถิ่น ภูมิปัญญาดั้งเดิม โมเดลพัฒนาที่สมดุล หรือแนวทางใหม่ที่ตอบโจทย์โลกที่เปลี่ยนไป
ในการประชุมวิชาการระดับชาติและนานาชาติ ครั้งที่ 18 The 18th National and International Academic Conference 2025 วันที่ 6-7 สิงหาคมนี้ ณ องค์การสหประชาชาติ กรุงเทพฯ ผู้สนใจลงทะเบียนโดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่ https://inter.siam.edu/the-18th-national-and-international-academic-conference-2025/
บทความนี้สรุปจากงานวิจัยเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงบนเส้นทางใหม่ของความยั่งยืนตามหลักอารยเกษตร โดย ผศ.ดร.ประภาภรณ์ ติวยานนท์ มงคลวนิช และคณะ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยวิทยสถานสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์และศิลปกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทย (ธัชชา) และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ







