‘นิวยอร์ก’ เตรียมสร้าง ‘โรงไฟฟ้านิวเคลียร์’ หลังพลังงานไม่พอใช้

นิวยอร์กมีแผนจะสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งใหม่แห่งแรกของสหรัฐ ในรอบกว่า 15 ปี
เคธี่ โฮชูล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก สั่งให้การไฟฟ้านครนิวยอร์ก (NYPA) พัฒนาและสร้าง “โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขั้นสูง” ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ในนิวยอร์กตอนเหนือ เพื่อสนับสนุนโครงข่ายไฟฟ้าที่เชื่อถือได้และราคาไม่แพง โดยตั้งเป้าผลิตไฟฟ้ารวมกันไม่น้อยกว่า 1 กิกะวัตต์ ซึ่งเพียงพอที่จะให้พลังงานแก่บ้านเรือนได้ประมาณ 1 ล้านหลัง เมื่อโรงไฟฟ้านี้เสร็จจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้งหมดของรัฐเป็นประมาณ 4.3 กิกะวัตต์
ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กระบุว่า หากต้องการดึงดูดผู้ผลิตขนาดใหญ่ที่สร้างงานที่มีค่าจ้างดีต่อไป รัฐจำเป็นต้องรักษาความเป็นอิสระด้านพลังงาน หลังจากที่ปิดโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ใช้งานมานาน พร้อมเน้นย้ำว่าแผนดังกล่าวว่าเป็น “โครงการพลังงานที่สำคัญ” ที่จะเสริมการสร้างพลังงานหมุนเวียน และหน่วยงานของรัฐจะ นำพลังงานนิวเคลียร์ที่สะอาดและเชื่อถือได้ไปใช้อย่างปลอดภัยและรวดเร็ว เพื่อประโยชน์ของชาวนิวยอร์กทุกคน
“แผนใหม่จะเป็นแบบจำลองของการออกแบบนิวเคลียร์ในศตวรรษที่ 21 โดยเน้นความปลอดภัยเป็นหลัก ระบบความปลอดภัยอัตโนมัติเพื่อเพิ่มการกักเก็บ และมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวด” โฮชูลกล่าว
อัลเฟร็ด เมเยอร์ เหรัญญิกแห่งองค์การแพทย์เพื่อความรับผิดชอบต่อสังคมแห่งนิวยอร์ก ยังไม่มั่นใจในเรื่องนี้ เขากล่าวว่าพลังงานนิวเคลียร์เป็นวิธีการผลิตไฟฟ้าที่ช้ามาก มีราคาแพง และอันตรายกว่าพลังงานหมุนเวียนประเภทอื่น ๆ ที่ถูกและเร็วกว่า อีกทั้งยังทิ้งขยะกัมมันตภาพรังสีที่เป็นพิษสูงไว้เบื้องหลัง
“พลังงานนิวเคลียร์ไม่ใช่พลังงานสะอาดหรือเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หนำซ้ำยังมันเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อมด้วย” เมเยอร์กล่าว
โฮชูลกล่าวว่ารัฐยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งใหม่นี้ที่ใด แต่เมื่อพิจารณาจากภูมิศาสตร์ แหล่งน้ำ และความใกล้ชิดของศูนย์วิจัยเทคโนโลยีของ IBM และมหาวิทยาลัย จึงมีความเป็นไปได้ที่จะสร้างทางตอนเหนือของรัฐ ซึ่งอาจจะทำให้ใช้ทางตอนบนของนิวยอร์กให้กลายเป็นศูนย์เทคโนโลยีที่คล้ายกับซิลิคอนวัลเลย์ อีกทั้งยังมีสร้างงานมากกว่า 1,200 ตำแหน่งเมื่อโรงงานเปิดดำเนินการ และช่วยให้แรงงานก่อสร้างมีงานทำมากกว่า 1,600 คน
ตามข้อมูลของกระทรวงพลังงานของสหรัฐระบุว่า ปัจจุบันมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ดำเนินการอยู่ 54 แห่งในประเทศ แต่โดยทั่วไปแล้ว บริษัทสาธารณูปโภคในสหรัฐไม่ค่อยอยากจะสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งใหม่ เนื่องจากต้นทุนที่สูงเกินไปและความล่าช้าของโครงการ
บริษัท Georgia Power ใช้เวลาหลายสิบปีสำหรับการสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 2 เครื่อง ขณะที่ยูนิต 3 และ 4 ที่โรงไฟฟ้า Vogtle ใน รัฐจอร์เจีย มีค่าใช้จ่ายเกือบ 35,000 ล้านดอลลาร์ อีกทั้งเปิดใช้งานได้ช้ากว่าที่คาดไว้ในตอนแรกประมาณ 7 ปี
ขณะที่ Tennessee Valley Authority บริษัทพลังงานสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการกำกับดูแลนิวเคลียร์ของสหรัฐ เพื่อขอพัฒนาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์รุ่นถัดไปที่ไซต์คลินช์ริเวอร์ ในโอ๊คริดจ์ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2025
ปัจจุบัน นิวยอร์กมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใช้งานอยู่ 3 แห่ง ซึ่งทั้งหมดตั้งอยู่ทางตอนเหนือของรัฐริมทะเลสาบออนแทรีโอ โดยมีบริษัท Constellation โรงไฟฟ้า Nine Mile Point, Robert Emmett Ginna และ James A. FitzPatrick เป็นเจ้าของ ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 3.3 กิกะวัตต์ หรือประมาณ 20% ของไฟฟ้าทั้งหมดในรัฐ
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งสุดท้ายที่สร้างขึ้นในรัฐคือโรงไฟฟ้ายูนิตที่ 2 ที่ไนน์ไมล์พอยต์ในปี 1989 เมื่อถึงจุดสูงสุด พลังงานนิวเคลียร์สามารถจ่ายไฟฟ้าได้ประมาณ 5.4 กิกะวัตต์ หรือประมาณหนึ่งในสามของแหล่งจ่ายไฟฟ้าทั้งหมดของรัฐ ตามข้อมูลของกลุ่มรณรงค์ Nuclear New York
แต่หากดูภาพรวมในระดับประเทศจะพบว่า ปัจจุบันโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในสหรัฐผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 19% ของประเทศ ซึ่งลดลง 4% จากจุดสูงสุดในปี 2012 และคาดว่าจะลดลงต่อไปอีก แม้ว่าบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่เพิ่งจะออกใบอนุญาตให้ผลิตไฟฟ้าจากเครื่องปฏิกรณ์ที่เก่าแก่เพื่อตอบสนองความต้องการของดาต้าเซ็นเตอร์ และ AI
บริษัทสาธารณูปโภคด้านไฟฟ้าคาดว่า ภายใน 5 ปีข้างหน้า สหรัฐจำเป็นต้องสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่ 34 แห่ง ถึงจะสามารถตอบสนองความต้องการด้านพลังงานที่เพิ่มขึ้น
ปี 2024 Microsoft ได้ลงนามในข้อตกลงการซื้อ 20 ปีกับบริษัทผลิตไฟฟ้าเอกชน Constellation ซึ่งจะทำให้เตาปฏิกรณ์หนึ่งเครื่อง ของโรงไฟฟ้าในรัฐเพนซิลเวเนียกลับมาทำงานอีกครั้ง ส่วน Amazon ได้ลงนามในข้อตกลงในการซื้อพลังงานนิวเคลียร์จากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซัสเควฮันนา ในเพนซิลเวเนียเช่นกัน เพื่อจัดหาพลังงานให้กับศูนย์ข้อมูล
นอกจากนี้ Google ยังได้ประกาศข้อตกลงในการซื้อพลังงานนิวเคลียร์จากเครื่องปฏิกรณ์โมดูลาร์ขนาดเล็ก (SMR) และ Amazon กล่าวว่าได้ลงนามในข้อตกลงที่จะลงทุนใน SMR จำนวนสี่เครื่องในรัฐวอชิงตันเพื่อจัดหาพลังงานให้กับศูนย์ข้อมูลใน Oregon Oracle กำลังออกแบบศูนย์ข้อมูล AI ที่จะใช้พลังงานจาก SMR จำนวน 3 เครื่อง
อย่างไรก็ตาม ในปี 2021 รัฐบาลได้ปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อินเดียนพอยต์ ที่อยู่ห่างจากแมนฮัตตัน 40 ไมล์ในปี 2021 เนื่องมาจากปัญหาสิ่งแวดล้อมและเคยถูกผู้ก่อการร้ายใช้เป็นจุดบอกตำแหน่งในเหตุการณ์ 9/11 ผลที่ตามมาประการหนึ่งจากการปิดโรงไฟฟ้าคือ นิวยอร์กต้องผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงฟอสซิลมากขึ้น ทำให้ก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้น
ดังนั้นการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จึงเป็นทางออกที่ดีของรัฐ ขณะเดียวกันทรัมป์ก็ออกกำสั่งเร่งอนุมัติกฎระเบียบสำหรับการผลิตพลังงานนิวเคลียร์แห่งใหม่ ซึ่งนี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความรุ่งเรืองของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในสหรัฐ หลังจากในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา พลังงานนิวเคลียร์ถูกลดบทบาทลงไปมาก จากปัญหาความปลอดภัย ต้นทุนที่สูงเกิน และสภาพแวดล้อมทางการเมืองที่ไม่เอื้ออำนวย
ที่มา: AP News, The Guardian, The New York Times, The Wall Street Journal







