ภาคเหนือกังวล โครงการขุดลอกแม่น้ำ จะกระจายสารหนูขึ้นบก คพ.เร่งตรวจสอบ

โครงการขุดลอกแม่น้ำ เสี่ยงทำให้สารพิษในตะกอนใต้แม่น้ำกระจายขึ้นมาบนฝั่ง ความกังวลจากประชาชนและนักวิชาการ สารพิษอาจฟุ้งกระจายในอากาศ หรือชะล้างลงสู่ไร่นา ตั้งศูนย์เฝ้าระวังสิ่งแวดล้อม 4 จุดในพื้นที่ภาคเหนือ
KEY
POINTS
- คพ. เร่งเก็บตัวอย่างตะกอนดิน จากแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำรวก
- ต้นเหตุจากโครงการขุดลอกแม่น้ำ เพื่อเพิ่มศักยภาพการระบายน้ำช่วงฤดูฝน แต่เสี่ยงทำให้สารพิษในตะกอนใต้แม่น้ำกระจายขึ้นมาบนฝั่ง
- ความกังวลจากประชาชนและนักวิชาการ สารพิษอาจฟุ้งกระจายในอากาศ หรือชะล้างลงสู่ไร่นา
- ตั้งศูนย์เฝ้าระวังสิ่งแวดล้อม 4 จุดในพื้นที่ภาคเหนือ
กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เร่งดำเนินการเก็บตัวอย่างดินตะกอนจาก “แม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำรวก” เพื่อตรวจสอบสารหนูและโลหะหนัก หลังเกิดความกังวลในวงวิชาการและภาคประชาชนเกี่ยวกับผลกระทบจาก “โครงการขุดลอกลำน้ำขึ้นมากองบนฝั่ง” ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มศักยภาพการระบายน้ำในช่วงฤดูฝน
แต่อาจกระตุ้นการกระจายของสารพิษสู่ไร่-นาในพื้นที่ภาคเหนือ เนื่องจากการนำตะกอนดินที่อยู่ใต้ท้องแม่น้ำขึ้นมากองบนฝั่ง อาจทำให้โลหะหนักที่เคยถูกฝังแน่นอยู่ใต้ชั้นตะกอนถูกรบกวน และแพร่กระจายสู่สิ่งแวดล้อม ซึ่งเสี่ยงต่อสุขภาพประชาชนและสิ่งแวดล้อมรอบข้าง
นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) เก็บตัวอย่างตะกอนดินที่มีการได้ขุดน้ำมากองบนฝั่ง เพื่อวิเคราะห์สารหนูและโลหะอื่นๆ ในตะกอนดินดังกล่าว ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจะรีบแจ้งผลให้หน่วยงานฯ และพี่น้องประชาชนทราบ
เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน และเพื่อสร้างความมั่นใจและสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนในพื้นที่ โดย คพ. ได้จัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ 4 จุด ได้แก่
1. ศูนย์การแพทย์แผนไทย อบต.ท่าดอน (สะพานท่าตอน) อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่
2. สวนสาธารณะน้ำกก ศาลากลางจังหวัดเชียงราย (ติดสะพานแม่ฟ้าหลวง) อ.เมือง จ.เชียงราย
3.ด่านพรมแดนแม่สายแห่งที่ 1 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย
4. สามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
ศูนย์ทั้ง 4 แห่งจะทำหน้าที่เผยแพร่ข้อมูลคุณภาพสิ่งแวดล้อม รวมถึงเป็นจุดให้คำปรึกษาแก่ประชาชนเรื่องการใช้น้ำเพื่ออุปโภคบริโภคและการเกษตร พร้อมเปิดรับเรื่องร้องเรียนและข้อกังวลจากชุมชนในพื้นที่
นอกจากนี้ คพ. ยังได้จัดทำชุดความรู้ประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องผ่านเสียงตามสายและช่องทางสื่อสารในพื้นที่และผ่านทางช่องทางการสื่อสารของ คพ. เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลและสามารถดูแลตนเองได้อย่างเหมาะสม





