แคนาดาหนุน 8 ล้านดอลลาร์ ดัน NIA ปลุกสตาร์ทอัพไทย ลดคาร์บอนธุรกิจซีเมนต์

แคนาดาหนุน 8 ล้านดอลลาร์ ดัน NIA ปลุกสตาร์ทอัพไทย ลดคาร์บอนธุรกิจซีเมนต์

NIA จับมือ UNIDO เปิดโครงการ “Innovation Acceleration Programme” เพื่อผลักดันสตาร์ทอัพไทยสร้างนวัตกรรมลดคาร์บอนในภาคซีเมนต์และคอนกรีต โครงการได้รับงบประมาณสนับสนุนกว่า 8 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 190 ล้านบาท) จากกระทรวงสิ่งแวดล้อมแคนาดา (ECCC)

KEY

POINTS

  • NIA จับมือ UNIDO เปิดโครงการ “Innovation Acceleration Programme”
  • เพื่อผลักดันสตาร์ทอัพไทยสร้างนวัตกรรมลดคาร์บอนในภาคซีเมนต์และคอนกรีต
  • โครงการได้รับงบประมาณสนับสนุนกว่า 8 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 190 ล้านบาท)
  • จากกระทรวงสิ่งแวดล้อมแคนาดา (ECCC) ผ่าน UNOPS
  • สนับสนุนสตาร์ทอัพ TRL 6+ ที่มีเทคโนโลยีสีเขียว 3 กลุ่มเทคโนโลยีเป้าหมาย
  • ปัจจุบันมีสตาร์ทอัพ Climate Tech, Circular Economy ที่เกี่ยวข้องกว่า 200–300 ราย

อุตสาหกรรมซีเมนต์และคอนกรีตถือเป็นหนึ่งในห้าอุตสาหกรรมที่มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สูงที่สุดในโลก โดยการปล่อยก๊าซจากอุตสาหกรรมซีเมนต์และเหล็กรวมกันทั่วโลกคิดเป็นประมาณ 14-16% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก และสำหรับประเทศไทยนั้นคิดเป็นประมาณ 7% ขึ้นไป

การส่งเสริมให้อุตสาหกรรมนี้เป็นผู้เล่นหลักที่มีส่วนร่วมทั้งในการลดการใช้พลังงาน และการค้นหาวัสดุทดแทนมาใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง จึงมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อเป้าหมายประเทศไทย ที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 30% ภายในปี 2573 ตามพันธกิจ NDC (Nationally Determined Contribution)

ดังนั้น สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA จึงร่วมกับองค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ (UNIDO) จัดงานเปิดตัวโครงการ "Innovation Acceleration Programme for Decarbonization of the Cement and Concrete Industries" เพื่อผลักดันผู้ประกอบการไทยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์และคอนกรีต พร้อมส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน

งบฯ 8 ล้าน สนับสนุนนวัตกรรม

ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กล่าวว่า โครงการนี้เกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือและได้รับงบประมาณสนับสนุน 8 ล้านดอลลาร์แคนาดา (มีมูลค่าประมาณ 190 ล้านบาทไทย) จากสำนักงานโครงการบริการด้านการจัดซื้อขององค์การสหประชาชาติ (UNOPS) และกระทรวงสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของแคนาดา (ECCC)

แคนาดาหนุน 8 ล้านดอลลาร์ ดัน NIA ปลุกสตาร์ทอัพไทย ลดคาร์บอนธุรกิจซีเมนต์

เป้าหมายหลักคือการนำสตาร์ทอัพไทยที่มีเทคโนโลยีสีเขียว (Green Technology) หรือนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการลดการปล่อยคาร์บอน (Decarbonization) และการมุ่งสู่ Net Zero Emission ระดับ TRL 6 ขึ้นไป มาปรับใช้กับอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์และคอนกรีต ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมสูงจากการทำลายทรัพยากร การก่อให้เกิดฝุ่น มลพิษ และความร้อน

"เราเชื่อว่านวัตกรรมคือหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero Emission และสตาร์ทอัพไทยมีศักยภาพที่จะทำได้"

หาสตาร์ทอัพ GreenTech แก้ปัญหา 3 ด้าน

NIA มองหาสตาร์ทอัพด้าน GreenTech ที่สามารถเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาใน 3 ด้านหลัก และได้เปิดรับสมัครถึงวันที่ 23 มิถุนายน 2568 ได้แก่

1. เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต (Process Improvement Technology) เช่น ลดการปล่อยฝุ่น, ใช้ความร้อนอย่างมีประสิทธิภาพ, หรือนำสิ่งเหลือใช้จากกระบวนการผลิตมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

2. เทคโนโลยีรีไซเคิลและหมุนเวียนของเสีย (Waste Circular Technology) เช่น ซีเมนต์ที่ถูกทิ้ง สามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่น หรือลดของเสียในกระบวนการผลิตให้น้อยที่สุด

3. เทคโนโลยีลดการปล่อยคาร์บอนหรือก๊าซเรือนกระจก (Decarbonization Technology) นวัตกรรมที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน หรือการดักจับคาร์บอนในอนาคต

“นวัตกรรมเหล่านี้ยังสามารถครอบคลุมถึงระบบ Internet of Things (IoT) และระบบมอนิเตอร์การผลิตให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แม้จะมีผลงานวิจัยจำนวนมากจากรั้วมหาวิทยาลัยชั้นนำของไทย

แต่ยังขาดจุดเชื่อมต่อสู่การใช้งานจริงในอุตสาหกรรม NIA จึงเข้ามาเป็นสะพานเชื่อม โดยสนับสนุนเงินทุนแก่สตาร์ทอัพ Deep Tech ที่พัฒนาเทคโนโลยีจนถึงระดับ TRL6 (Technology Readiness Level 6) หรือพร้อมสำหรับการนำไปใช้ในภาคอุตสาหกรรมจริง”

ทั้งนี้ NIA ยังทำหน้าที่จับคู่สตาร์ทอัพเหล่านี้กับผู้ใช้งานในอุตสาหกรรม อาทิ สมาคมคอนกรีตและซีเมนต์ไทย, บริษัท เอสซีจี ซีเมนต์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) เพื่อทดลองใช้จริง

สตาร์ทอัพแก้ Pain Point

ดร.กริชผกา กล่าวด้วยว่า แม้ว่าเบื้องต้นจะตั้งเป้าคัดเลือกประมาณ 15 ราย และนำร่อง 5 ราย แต่เราจะพิจารณาเพิ่มจำนวนหากมีศักยภาพสูง NIA เชื่อว่ามีสตาร์ทอัพที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมซีเมนต์โดยตรงประมาณ 40 รายในประเทศไทย และหากรวมกลุ่ม Climatech และ Circular Economy จะมีถึง 200-300 ราย

"นี่เป็นโอกาสสำคัญสำหรับสตาร์ทอัพที่จะร่วมแก้ Pain Point ของอุตสาหกรรม และยังมีโอกาสเติบโตสู่ตลาดโลกอีกด้วย"

ผู้อำนวยการ NIA ย้ำว่า NIA ได้ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนนวัตกรรมด้าน Climate Tech มาแล้ว 2-3 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่แคนาดาเลือก NIA เป็นพันธมิตรในโครงการนี้ NIA ไม่เพียงสนับสนุนเงินทุนในระยะเริ่มต้นของการค้นหา การให้ความรู้ และการนำร่องในพื้นที่ แต่ยังเตรียมงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับสตาร์ทอัพที่มีโซลูชันพร้อมใช้ในภาคอุตสาหกรรม เพื่อขยายผลสู่เชิงพาณิชย์และขยายตลาดได้อีกด้วย

ในปีหน้า NIA ได้เตรียมงบประมาณสำหรับสนับสนุนนวัตกรรมไว้ราว 900 ล้านบาท ซึ่ง Climate Tech และ EV เป็นหนึ่งใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายหลักของ NIA นอกเหนือจากเกษตรอาหารและสมุนไพรมูลค่าสูง, การแพทย์และสุขภาพ, การท่องเที่ยว และ Soft Power

"เราเชื่อมั่นว่าระบบนิเวศนวัตกรรมของประเทศไทยมีศักยภาพและพร้อมก้าวสู่ระดับสากล" ดร.กริชผกากล่าวปิดท้าย