'ระบบไฟฟ้าโมดูลาร์' พลิกโฉมอุตสาหกรรม รับเทรนด์ลงทุนเอเชียแปซิฟิก

'ระบบไฟฟ้าโมดูลาร์' พลิกโฉมอุตสาหกรรม รับเทรนด์ลงทุนเอเชียแปซิฟิก

การลงทุนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่พุ่งสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่ผลักดันให้ผู้เล่นรายใหญ่เข้ามาควบรวมกิจการจนกลายเป็น "ผู้เล่นระดับยักษ์ใหญ่" หรือ "Giant Car Power"

KEY

POINTS

  • ตลาด Data Center เติบโตเร็ว โดยเฉพาะในเอเชียแปซิฟิก
  • ความเร่งด่วนนี้ผลักดันให้เกิดการออกแบบระบบไฟฟ้าแบบใหม่ ที่ต้องง่าย ยืดหยุ่น และผลิตซ้ำได้
  • ระบบไฟฟ้าแบบ Plug and Play ที่แยกชิ้นส่วนได้และทดสอบล่วงหน้าในโรงงาน ลดเวลาทำงานหน้างาน เพิ่มความแม่นยำในการออกแบบ และเสริมความยืดหยุ่นในอนาคต
  • Siemens ผลักดันการออกแบบระบบไฟฟ้าแบบโมดูลาร์ที่ เร็วกว่า ยืดหยุ่นกว่า และยั่งยืนกว่า
  • เป็นคำตอบของอุตสาหกรรม Data Center ที่ต้องปรับตัวให้ทันโลกดิจิทัลที่เปลี่ยนเร็ว

ภาสพงษ์ วิทยากร ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค  Data Center Solutions, Electrical Products, Siemens ASEAN กล่าวในงาน Siemens Data Center Conference 2025: Redefining Data Center Infrastructure จัดโดย 'ซีเมนส์' และ 'กรุงเทพธุรกิจ' นหัวข้อ การออกแบบด้วยโมดูล การกระจายพลังงานที่ปรับขนาดได้สําหรับศูนย์ข้อมูล ว่า การเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาด โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งมีแรงจูงใจในการลงทุนสูงกว่าพื้นที่อื่น ๆ ทั่วโลก ได้สร้างแรงกดดันอย่างหนักต่อระยะเวลาในการก่อสร้าง

แรงขับเคลื่อนจากตลาดที่เปลี่ยนไป

จากที่เคยใช้เวลา 28 เดือน ปัจจุบันลดลงเหลือเพียง 18 เดือน, 12 เดือน หรือแม้กระทั่ง 3-6 เดือนในบางกรณี ความต้องการที่รวดเร็วนี้ ส่งผลให้ผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดที่เกิดจากการควบรวมกิจการ ไม่สามารถดูแลหรือออกแบบระบบไฟฟ้าสำหรับแต่ละโครงการได้อย่างเดิมอีกต่อไป พวกเขาจึงมองหาวิธีการที่ง่ายต่อการผลิต ดูแล และทำความเข้าใจ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เร่งรีบ

'ระบบไฟฟ้าโมดูลาร์' พลิกโฉมอุตสาหกรรม รับเทรนด์ลงทุนเอเชียแปซิฟิก

แนวคิดการออกแบบโมดูลาร์: คำตอบสำหรับยุคใหม่

การออกแบบระบบไฟฟ้าแบบโมดูลาร์ หรือที่เรียกว่า "Plug and Play" เข้ามาตอบโจทย์ความท้าทายเหล่านี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยมีหลักการสำคัญดังนี้

  • การแยกส่วนอุปกรณ์และการทดสอบล่วงหน้า: การออกแบบที่เน้นการแยกส่วนอุปกรณ์ เช่น Skip Base Design และ Containerized Design ช่วยให้สามารถทดสอบและตรวจสอบฟังก์ชันการทำงานของอุปกรณ์ก่อนการติดตั้งจริง ณ สถานที่ก่อสร้างได้ วิธีนี้ช่วยลดระยะเวลาการทำงานหน้างานได้อย่างมาก
  • ความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยน: ระบบโมดูลาร์ช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยน เพิ่มเติม หรือเสริมแต่งส่วนควบคุมต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับเงื่อนไขและความต้องการของตลาดได้อย่างง่ายดาย
  • Standard Design: การจัดกลุ่มอุปกรณ์เป็นแพ็คเกจและสร้าง "Uniform Standard Design" ทำให้ระบบเป็นแบบ "plug and play" ซึ่งหมายถึงการติดตั้งและใช้งานที่ง่ายและรวดเร็ว
  • การจัดการความเสี่ยง: การแยกส่วนประกอบสำคัญ เช่น แบตเตอรี่ออกจากห้องไฟฟ้า ช่วยให้สามารถกำหนดเงื่อนไขการก่อสร้างและควบคุมความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะความเสี่ยงจากอัคคีภัย
  • การเพิ่มความสามารถในอนาคต (Scalability): ด้วยการออกแบบเป็น "function block" ทำให้สามารถเพิ่มหรือปรับเปลี่ยนโมดูลเพื่อรองรับความต้องการโหลดที่เพิ่มขึ้นในอนาคตได้อย่างง่ายดาย เช่น การขยายจาก 50 เมกะวัตต์ เป็น 100 เมกะวัตต์ หรือ 200 เมกะวัตต์

'ระบบไฟฟ้าโมดูลาร์' พลิกโฉมอุตสาหกรรม รับเทรนด์ลงทุนเอเชียแปซิฟิก

ประเภทของการออกแบบระบบไฟฟ้า

  1. Conventional Design: การออกแบบดั้งเดิมที่ต้องสร้างห้องไฟฟ้าให้เสร็จสมบูรณ์ก่อน แล้วจึงนำอุปกรณ์เข้าติดตั้งและเดินสายภายในห้อง
  2. Skip Base Design: เป็นการผสมผสานระหว่างห้องไฟฟ้ากับตู้คอนเทนเนอร์ โดยมีการเตรียม Wiring และ Connection ล่วงหน้าในโรงงาน และเชื่อมต่อส่วนที่เหลือที่หน้างาน
  3. Containerized Design / PTU Container: เป็นระบบที่อุปกรณ์ทั้งหมดถูกติดตั้งภายในตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งสามารถยกวางและใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องมีห้องไฟฟ้าแยกต่างหาก แม้จะมีค่าก่อสร้างเริ่มต้นสูงกว่า Conventional Design แต่สามารถกำหนดเงื่อนไขการก่อสร้างและราคาประมูลได้ชัดเจนกว่า อีกทั้งยังช่วยลดผลกระทบจากความล่าช้าที่อาจเกิดขึ้นได้

ประโยชน์ของการออกแบบโมดูลาร์

การเปลี่ยนผ่านสู่ระบบโมดูลาร์นำมาซึ่งประโยชน์ที่สำคัญหลายประการ คือ

  1. ประหยัดเวลาและต้นทุน: การแยกชิ้นส่วนและการทำงานแบบขนาน (Parallel Process) ทั้งในส่วนของการออกแบบ งานโยธา และการผลิต ช่วยลดเวลาและประหยัดต้นทุนการผลิตได้อย่างมหาศาล
  2. ความแม่นยำในการออกแบบและกำหนดการทำงาน: ช่วยให้การออกแบบรวดเร็ว แม่นยำ และสามารถกำหนดการทำงานได้ชัดเจน
  3. การขนส่งที่เหมาะสม: การออกแบบคำนึงถึงข้อจำกัดการขนส่งทางถนนและทางเรือ ทำให้สามารถขนส่งอุปกรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นวัตกรรมและคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ (Siemens)

Siemens หนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยี ได้นำเสนอโซลูชันระบบไฟฟ้าโมดูลาร์ที่ล้ำสมัย ด้วยคุณสมบัติเด่นดังนี้

  • ซอฟต์แวร์สำหรับการออกแบบ: ใช้ซอฟต์แวร์ขั้นสูง เช่น Zuken ในการแปลง Single Line Diagram เป็น Object, 3D Design และ BIM Data สำหรับการผลิต ซึ่งช่วยในการควบคุมคุณภาพ การเปลี่ยนชิ้นส่วน และการติดตามย้อนกลับ
  • Low Voltage Switchgear: มีหลากหลายขนาด รองรับกระแสได้สูงถึง 7,000 A และมีมากกว่า 15,000 รูปแบบการกำหนดค่า (Configuration) สามารถปรับเปลี่ยน Busbar ได้หลากหลายตำแหน่ง
  • Compact Design: การออกแบบ Bus Duct Connector ภายในตู้ช่วยลดความสูงโดยรวมของระบบ ทำให้สามารถขนส่งได้ง่ายขึ้น
  • Compact Load: สามารถรองรับ Feeder ขนาดใหญ่ได้ในพื้นที่จำกัด
  • มาตรฐานความปลอดภัย: สอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด เช่น Earthquake Safety (UBC Zone 4), Active Arc Flash Protection และ Earthing Switch เพื่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน
  • Fast Recovery: มีเบรกเกอร์แบบ Withdrawable หรือ Plug-in Unit ช่วยลดเวลาในการเปลี่ยนอุปกรณ์ที่เสียหายลงอย่างมาก
  • การออกแบบเฉพาะสำหรับ Data Center: ตัวอย่างเช่น การออกแบบตู้ Mechanical Panel ที่ลดความยาวลงอย่างมากโดยใช้ 2 Busbar และการจัดกลุ่ม Feeder ขนาดเล็ก
  • การบำรุงรักษาและการเข้าถึง: ออกแบบให้มี Access Door สำหรับการบริการและเปลี่ยนอุปกรณ์ เช่น UPS ที่สามารถดึงออกมาได้ทั้งตู้
  • ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์: นอกจากตู้ MDB, MCC, PDU แล้ว ยังมี GIS (SF6 Free), เบรกเกอร์ใหม่ที่รองรับ Transformer Protection, Condition Monitoring, Predictive Maintenance และ Unit Compact Substation ที่รวม Power Distribution ไว้ในตู้เดียว

ความยั่งยืน (Sustainability)

Siemens มุ่งมั่นในเรื่องความยั่งยืน โดยผลิตภัณฑ์ได้รับการออกแบบให้มีดังนี้

  1. อายุการใช้งานที่ยาวนาน: สวิตช์บอร์ดทั้งหมดได้รับการออกแบบให้ใช้งานได้มากกว่า 20-30 ปี
  2. อุปกรณ์ที่ไม่ต้องบำรุงรักษา: อุปกรณ์ในส่วนที่ลูกค้าเข้าไม่ถึงเป็นระบบที่ไม่ต้องบำรุงรักษา
  3. อายุการใช้งานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์: รับประกันอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นานกว่า 15 ปี
  4. ESG และ Carbon Footprint: มีซอฟต์แวร์ที่รองรับการคำนวณ ESG และ Carbon Footprint ของอุปกรณ์และโซลูชันไฟฟ้า

การผลิตอุปกรณ์ที่หลากหลายและกะทัดรัด ไปจนถึงการติดตั้งและการบำรุงรักษา โดยมีจุดเด่นคือความยืดหยุ่น ประหยัดเวลา ลดต้นทุน และคำนึงถึงความยั่งยืนในระยะยาว ด้วยการแยกส่วนประกอบและทำให้เป็นมาตรฐาน ช่วยให้สามารถจัดการกับความซับซ้อนและเร่งการนำระบบไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

'ระบบไฟฟ้าโมดูลาร์' พลิกโฉมอุตสาหกรรม รับเทรนด์ลงทุนเอเชียแปซิฟิก