‘ปลาการ์ตูน’ ตัวหดเล็กลง เพื่อเอาตัวรอด จากน้ำทะเลเดือด

“ปลาการ์ตูน” เอาตัวรอดจากทะเลเดือด ด้วยการตัวหดเล็กลง เพื่อให้ร่างกายใช้พลังงานลดลง เพิ่มโอกาสมีชีวิตรอด 78%
KEY
POINTS
- ทีมวิจัยพบว่าจากปลาการ์ตูน 134 ตัวที่ศึกษา มี 100 ตัวที่ตัวสั้นลง โดยปลาแต่ละตัวหดตัวลงภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์
- การหดตัวนี้เพิ่มโอกาสที่ปลาจะรอดชีวิตจากภาวะเครียดจากความร้อนได้มากถึง 78%
- ทีมวิจัยยังพบอีกว่า ปลานีโม่ที่หดตัวในช่วงเวลาเดียวกับคู่ผสมพันธุ์จะมีโอกาสรอดชีวิตสูงกว่า ดังนั้นเมื่อปลาตัวเมียเริ่มหดตัว ตัวผู้ก็จะหดตัวด้วยเช่นกัน
“ปลาการ์ตูน” เป็นปลาสีส้มและสีขาวขนาดเล็กที่โด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง “Finding Nemo” จนคนไทยเรียกติดปากว่า “ปลานีโม่” กำลังหดตัวจนมีขนาดเล็กลง เพื่อเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตจากคลื่นความร้อนใต้ท้องทะเล
ทีมวิจัยซึ่งนำโดยนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล ทำงานที่ศูนย์อนุรักษ์ในปาปัวนิวกินี เฝ้าติดตามปลาการ์ตูน 134 ตัวเป็นเวลา 5 เดือนในช่วงคลื่นความร้อนใต้ท้องทะเลในปี 2023 โดยวัดความยาวของปลาแต่ละตัวทุกเดือน รวมถึงวัดอุณหภูมิของน้ำทุก 4-6 วัน จนรู้ได้ว่าปลาจะหดตัวลงเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น นับเป็นครั้งแรกที่พบว่าปลาแนวปะการังหดตัว เพื่อให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง
ทีมวิจัยพบว่าจากปลานีโม่ 134 ตัวที่ศึกษา มี 100 ตัวที่ตัวสั้นลง โดยปลาแต่ละตัวหดตัวลงภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ และการหดตัวนี้เพิ่มโอกาสที่ปลานีโม่จะรอดชีวิตจากภาวะเครียดจากความร้อนได้มากถึง 78% ในช่วงที่ทำการศึกษาอ่าวในปาปัวนิวกินีมีอุณหภูมิสูงขึ้นประมาณ 4 องศาเซลเซียสเหนือค่าเฉลี่ย
“ฉันประหลาดใจมากกับผลการค้นพบนี้ ดูเหมือนว่าปลาการ์ตูนมีความยืดหยุ่นในการเติบโตอย่างน่าเหลือเชื่อ ปลาเหล่านี้มีศักยภาพในการตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมได้ดีมาก” เมลิสสา เวอร์สตีก นักศึกษาปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล ผู้เขียนหลักของการศึกษานี้ กล่าวกับ CNN
เวอร์สตีกยังไม่ทราบว่าปลาหดตัวลงได้อย่างไรกันแน่ แนวคิดหนึ่งที่ยังไม่ได้รับการทดสอบก็คือ ปลาอาจดูดซับกระดูกหรือเนื้อเยื่อบางส่วนกลับเข้าไป
ปรากฏการณ์นี้มีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับ “คลื่นความร้อนในทะเล” ที่เกิดบ่อย จนแทบจะกลายเป็นเรื่องปรกติ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศรุนแรงขึ้น ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อแนวปะการังและสัตว์ทะเลอื่น ๆ
สำหรับสัตว์เลือดอุ่นแล้ว การมีขนาดตัวที่เล็กลงในสภาพอากาศร้อน จะช่วยให้ระบายความร้อนได้ง่ายกว่า ซึ่งจะช่วยให้อุณหภูมิในร่างกายเย็นลง แต่สำหรับในสัตว์เลือดเย็น อย่างปลาการ์ตูน ยังไม่ชัดเจนนักว่าการที่ตัวเล็กลงจะช่วยเรื่องอะไร แต่นักวิจัย คิดว่าปลาการ์ตูนอาจตอบสนองความต้องการพลังงานของร่างกายได้ง่ายกว่า
“เป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่ปลานีโม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วเพียงใด เราเห็นว่าปลานีโม่สามารถปรับขนาดของตัวเองได้อย่างยืดหยุ่นเพียงใด ทั้งในฐานะตัวเดียวและในฐานะคู่ผสมพันธุ์ เพื่อตอบสนองต่อความเครียดจากความร้อน ซึ่งเป็นเทคนิคที่ช่วยให้ปลานีโม่มีชีวิตรอดได้อย่างประสบความสำเร็จ”
ทีมวิจัยยังพบอีกว่า ปลานีโม่ที่หดตัวในช่วงเวลาเดียวกับคู่ผสมพันธุ์จะมีโอกาสรอดชีวิตสูงกว่า นั่นเป็นเพราะความสมดุลของอำนาจระหว่างตัวเมียซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าและมีอำนาจเหนือกว่าปลาตัวผู้ ดังนั้นเมื่อปลาตัวเมียเริ่มหดตัว ตัวผู้ก็จะหดตัวด้วยเช่นกัน เพื่อป้องกันความขัดแย้งทางสังคมและลดความเสี่ยงในการเผชิญหน้าที่อาจแพ้ได้เสมอ
สิ่งนี้มีความสำคัญ เนื่องจากปลาการ์ตูนอาศัยอยู่ร่วมกันกับดอกไม้ทะเลสองสายพันธุ์ ได้แก่ Heteractis magnifica และ Stichodactyla gigantea โดยดอกไม้ทะเลเหล่านี้จะเป็นเกราะกำบังของปลาการ์ตูน
ลักษณะเด่นของกลุ่มสังคมของปลาการ์ตูนคือพวกมันรักษาลำดับชั้นที่เข้มงวดตามขนาด ซึ่งหมายความว่าการเติบโตและการหดตัวไม่ได้ส่งผลต่อตัวปลาเท่านั้น แต่ยังเสี่ยงต่อความขัดแย้งภายในกลุ่มซึ่งอาจทำให้ปลาตัวหนึ่งถูกขับไล่ออกไป
ในดอกไม้ทะเลแต่ละดอก ปลาการ์ตูนตัวใหญ่ที่สุดคือตัวเมีย ตัวใหญ่เป็นอันดับสองคือตัวผู้ และเมื่อรวมกันแล้ว พวกมันจะจับคู่กันเพื่อผสมพันธุ์ เพื่อหลีกเลี่ยงการต่อสู้ในคู่ ตัวผู้จะควบคุมการเจริญเติบโตเพื่อรักษาอัตราส่วนขนาดคงที่ระหว่างทั้งสอง
“ถ้าพวกมันออกจากดอกไม้ทะเลไป พวกมันก็จะถูกนักล่าจับกินได้ง่าย หมายความว่ามันจะต้องไม่ทะเลาะกับคู่ของมัน เพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการถูกไล่ออกไปสู่มหาสมุทรอันกว้างใหญ่” รูเกอร์กล่าว
เทเรซา รูเกอร์ ผู้เขียนงานวิจัยอาวุโส นักนิเวศวิทยาทางทะเลจากมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล กล่าวกับ CNN ว่าปรกติแล้วการหดตัวไม่ได้เป็นเรื่องดีเสมอไป เนื่องจากปลาตัวเล็กขยายพันธุ์ได้น้อยลง ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อประชากรปลาการ์ตูนได้
“การศึกษาของเรายังพบอีกว่า เนื่องจากพวกมันสามารถหดตัวได้และมีความยืดหยุ่นในการเติบโตสูง พวกมันจึงสามารถอยู่รอดได้ดีกว่าในช่วงคลื่นความร้อนของทะเล นั่นอาจเป็นเรื่องดีมากที่พวกมันมีความสามารถนั้นและปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้ในลักษณะนั้น” รูเกอร์กล่าว
นอกจากปลาการ์ตูนแล้ว ยังมีสัตว์อีกหลายชนิดที่วิวัฒนาการให้ตัวเล็กลง อีกทั้งขนาดเฉลี่ยของสายพันธุ์ปลาทะเลหลายชนิดทั่วโลกมีขนาดเล็กลงตามการสำรวจในระยะยาว ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการประมงทำให้ปลาขนาดใหญ่หายไปจากประชากร รวมทั้งสภาพอากาศที่อุ่นขึ้นทำให้การเติบโตหรือขนาดโตเต็มที่ของปลาเปลี่ยนแปลงไป
เช่นเดียวกับอิกัวนาทะเลบนหมู่เกาะกาลาปากอสหดตัวในช่วงปีเอลนีโญ เมื่ออุณหภูมิของน้ำในมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อนทางตะวันออกและตอนกลางอุ่นขึ้น ส่งผลให้ปริมาณอาหารลดลงและกระตุ้นให้สัตว์เลื้อยคลานหดตัวโดยดูดซับกระดูกบางส่วน
ขณะที่การศึกษาในปี 2019 พบว่านกหดตัวลงโดยเฉลี่ยประมาณ 2.6% ระหว่างปี 1978-2016
การศึกษาเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่ามหาสมุทรของโลกกำลังอยู่ในภาวะวิกฤติ โดยเฉพาะคลื่นความร้อนที่เชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่นเดียวกับคลื่นความร้อนที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่างการศึกษานี้ ได้ทำลายแนวปะการังอย่างรุนแรง
ขณะเดียวกัน สัตว์ต่าง ๆ พิสูจน์ให้เห็นว่าพวกมันพยายามอย่างหนักที่จะเอาชีวิตรอด แต่หากภาวะโลกร้อนยังคงดำเนินต่อไป แม้แต่การปรับตัวที่ดีที่สุดก็อาจไม่เพียงพอ
ที่มา: CNN, The Conversation, Vox







