‘Climatemaxxing’ ลดโลกร้อนด้วยความสนุก ทำให้เป็นเกม ใช้ชีวิตยั่งยืนได้ง่าย ๆ

“Climatemaxxing” เปลี่ยนการลดโลกร้อนให้เป็นเกม ปลดล็อกแอคชีฟเมนท์ในชีวิตประจำวัน กระตุ้นผู้คนใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน ผ่านโซเชียลมีเดีย
KEY
POINTS
- Climatemaxxing เป็นแนวคิดที่ช่วยเปลี่ยนแนวคิดการทำกิจกรรมเพื่อความยั่งยืนกลายเป็นเรื่องสนุก ท้าทาย ไม่ซีเรียส เหมือนเล่นเกม
- Climatemaxxing จะช่วยเปลี่ยนโฟกัสของผู้คน ทำให้มองเห็นว่าพวกเขาเป็น “ฮีโร่” ที่สามารถช่วยแก้ปัญหาได้
- ผู้ใช้จำนวนมากแชร์ความพยายามในการทำ Climatemaxxing ผ่านทางออนไลน์ ยิ่งทำให้แนวคิดนี้เข้าถึงคนจำนวนมากได้เร็วยิ่งขึ้น
“Climatemaxxing” เทรนด์ใหม่ในโลกโซเชียลที่เปลี่ยนการลดโลกร้อนในชีวิตประจำวัน ให้เป็นความท้าทายในการใช้ชีวิต กระตุ้นให้ผู้คนเลือกใช้ชีวิตอย่าง “ยั่งยืน” มากขึ้น โดยปรับแนวคิดการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมให้การเป็น “ความสำเร็จส่วนบุคคล” มากกว่า “การเสียสละเพื่อส่วนรวม” ซึ่งจะช่วยให้ผู้คนรู้สึกมีพลัง แทนที่จะรู้สึกกดดันที่ต้องหาทางแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รุนแรงมากขึ้นทุกที
กระแสนี้แตกย่อยมาจาก เทรนด์ “Maxxing” ที่เป็นกระแสที่ส่งเสริมการปรับปรุงตนเองในด้านต่าง ๆ ของชีวิต เช่น “gymmaxxing” ก็คือกลุ่มคนที่ออกกำลังกายเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ ทำให้ร่างกายแข็งแรง มีหุ่นดี ส่วน “moneymaxxing” เป็นการวางแผนกลยุทธ์ทางการเงิน สร้างความมั่งคั่งให้เร็วที่สุด ซึ่งในปัจจุบันแนวคิดนี้ถูกนำไปใช้กับความยั่งยืน สร้างการมีส่วนร่วมและแรงบันดาลใจให้เกิดพฤติกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ดังนั้น Climatemaxxing คือการกระตุ้นให้ผู้คนนำแนวคิดความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมมาใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น การรีไซเคิล และเข้าร่วมกิจกรรมชุมชนที่ส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชนและสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดี แนวคิดดังกล่าวคือการทำให้ความยั่งยืนกลายเป็นเกม เป็นความท้าทายที่สนุกสนานและคุ้มค่าที่จะทำ โดยผู้คนต่างนำแนวคิด Climatemaxxing มาใช้ในทางปฏิบัติในรูปแบบที่สร้างสรรค์ในด้านต่าง ๆ เช่น
- การขนส่งอย่างยั่งยืน - การเดินทางด้วยจักรยานหรือระบบขนส่งสาธารณะ การทำงานเพื่อปรับปรุงทางเลือกการเดินทางสำหรับผู้อื่น รวมไปถึงการติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน
- การรับประทานอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม - การลดการบริโภคเนื้อสัตว์ สนับสนุนการเกษตรในท้องถิ่นที่ยั่งยืน หรือแม้แต่เปลี่ยนไปรับประทานอาหารจากพืช
- การมีส่วนร่วมของชุมชน - การจัดงานทำความสะอาด โครงการปลูกต้นไม้ สร้างแคมเปญรณรงค์เพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือสนับสนุนนโยบายที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- การใช้ชีวิตแบบลดขยะ - การใช้ผลิตภัณฑ์ที่นำกลับมาใช้ใหม่ การทำปุ๋ยหมัก และลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวให้เหลือน้อยที่สุด
Climatemaxxing ได้รับความนิยม เพราะเป็นแนวคิดที่ช่วยเปลี่ยนแนวคิดการทำกิจกรรมเพื่อความยั่งยืนกลายเป็นเรื่องสนุก ท้าทาย ไม่ซีเรียส เหมือนเล่นเกม ได้ปลดล็อกแอคชีฟเมนท์ของตัวเอง แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่การลดปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ซึ่งดูเป็นเรื่องไกลตัว และยากต่อการทำความเข้าใจ
ตัวอย่างเช่น ผู้ที่หันมาทานอาหารมังสวิรัติสามารถติดตามประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมจากการเลือกอาหารได้ อีกทั้งอาจมีสุขภาพที่ดีขึ้นอีกด้วย ในทำนองเดียวกัน ผู้ที่ลดการใช้พลังงานที่บ้าน และเปลี่ยนไปใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงาน สามารถเปรียบเทียบการประหยัดค่าไฟฟ้ากับผู้อื่น ซึ่งหากทำเป็นชาเลนจ์หรือการแข่งขันกับคนอื่น ๆ จะยิ่งทำให้ Climatemaxxing ได้ผลมากขึ้น และเพิ่มการมีส่วนร่วมกับชุมชนมากยิ่งขึ้น
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนั้นรุนแรงมากขึ้น ยิ่งทำให้บางคนยิ่งรู้สึกผิด บางคนก็รู้สึกสิ้นหวังกับสถานการณ์ที่อันตรายนี้ ขณะที่บางคนก็ไม่สนใจ เพราะอาจไม่เชื่อว่าโลกร้อนเป็นเรื่องจริง หรือไม่คิดว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุของปัญหา แต่ Climatemaxxing จะช่วยเปลี่ยนโฟกัสของผู้คน ทำให้มองเห็นว่าพวกเขาเป็น “ฮีโร่” ที่สามารถช่วยแก้ปัญหาได้
“เป็นเรื่องยากที่ใครก็ตามจะยอมรับว่าตัวเองเป็นผู้ร้ายในเรื่องราวนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องราวที่ใหญ่โตและสร้างผลกระทบเป็นวงกว้างอย่างการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” เอ็มม่า ฟรานเซส บลูมฟิลด์ ศาสตราจารย์ด้านการสื่อสารจากมหาวิทยาลัยเนวาดากล่าว
โซเชียลมีเดียได้กลายเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการเผยแพร่ความตระหนักรู้ด้านสภาพภูมิอากาศ แพลตฟอร์มอย่าง TikTok และ Instagram ได้สร้างกระแสความยั่งยืนให้เป็นเทรนด์ที่ใคร ๆ ก็อยากทำตาม ตั้งแต่แฟชั่นมือสองไปจนถึงการใช้ชีวิตแบบไม่สร้างขยะ
ผู้ใช้จำนวนมากแชร์ความพยายามในการทำ Climatemaxxing ผ่านทางออนไลน์ แบ่งปันเคล็ดลับ ความท้าทาย เรื่องเล่าความสำเร็จ พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นทำเช่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่น บางคนอาจโพสต์เกี่ยวกับแผงโซลาร์เซลล์รุ่นใหม่ของตนโดยใช้แฮชแท็ก #climatemaxxing เพื่อช่วยทำให้พฤติกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกลายเป็นเรื่องปรกติ
สิ่งเหล่านี้ยิ่งช่วยให้การดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศมีส่วนร่วมมากขึ้นและรู้สึกโดดเดี่ยวน้อยลง นอกจากนี้โซเชียลมีเดียยังช่วยให้ผู้คนสามารถแสดงความพยายามของตนได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเรื่องง่าย ๆ อย่างการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ การปั่นจักรยานไปทำงาน หรือการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าก็ตาม
Climatemaxxing ไม่ใช่แค่การลดการปล่อยมลพิษเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเตรียมพร้อมรับมือกับความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วย เช่น ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงต่อไฟป่าสามารถป้องกันบ้านของพวกเขาได้ด้วยการกำจัดพืชที่ติดไฟได้ง่ายและใช้วัสดุอาคารที่ทนไฟ ซึ่งเป็นแนวทางที่สามารถช่วยลดความเสียหายและปกป้องชุมชนทั้งหมดจากภัยพิบัติได้
การสนับสนุนให้มีการดำเนินการป้องกันควบคู่ไปกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จะช่วยส่งเสริมการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ดีและครอบคลุมยิ่งขึ้น
แม้ว่ากระแสดังกล่าวจะเพิ่งเกิดขึ้น แต่ Climatemaxxing ก็มีศักยภาพที่จะดึงดูดให้คนหันมาสนใจเข้าร่วมเทรนด์นี้มากยิ่งขึ้น เมื่อรวมกับโซเชียลมีเดียที่ช่วยให้เข้าถึงคนจำนวนมากได้รวดเร็วกว่าเดิม ยิ่งทำให้พฤติกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกลายเป็นเรื่องปรกติมากขึ้น
ที่มา: Grist, Grist 2, Happy Eco News







